เมนูนำทาง
เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ การดัดแปลงไปยังสื่ออื่นเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ มีการดัดแปลงเป็นละครวิทยุออกอากาศรวมทั้งสิ้นสี่ครั้ง
มีการดัดแปลง เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ เป็นละครเวทีหลายครั้ง ครั้งแรกเป็นการแสดงที่เมืองซินซินเนติ รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา เมื่อปี พ.ศ. 2544 (ค.ศ. 2001) แต่เนื่องจากทุนน้อยจึงไม่ประสบความสำเร็จนัก จากนั้นมีการแสดงในซินซินเนติอีกหลายครั้ง จนกระทั่งปี พ.ศ. 2549 มีการจัดแสดงครั้งใหญ่ เป็นละครเพลงความยาว 3 ชั่วโมงครึ่ง ที่โรงละคร Pricess of Wales โทรอนโต แคนาดา ใช้เงินลงทุนถึง 26.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การแสดงเริ่มรอบกาลาพรีเมียร์เมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2549 (ค.ศ. 2006) และต้องปิดตัวลงเมื่อวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2549 หลังจากเปิดแสดงเพียง 5 เดือน เนื่องจากขาดทุนย่อยยับ[26] [27]
ทีมงานชุดโทรอนโต ได้มาจัดการแสดงอีกครั้งที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยเปิดการแสดงที่ เธียเตอร์รอยัล เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 ใช้เงินลงทุน 12.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) นับเป็นการแสดงที่ใช้เงินลงทุนสูงที่สุดที่มีการจัดแสดงละครเวทีในประเทศอังกฤษ[28] ผลตอบรับจากละครเวทีครั้งนี้มีทั้งในทางดีและไม่ดีปะปนกันไป
ปี พ.ศ. 2533 (ค.ศ. 1990) สำนักพิมพ์ Recorded Books วางจำหน่ายหนังสือบันทึกเสียง เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ เต็มเรื่องโดยไม่ตัดทอน มีนักแสดงชาวอังกฤษ ร็อบ อิงกลิส (Rob Inglis) เป็นผู้ให้เสียงอ่าน โดยใช้เสียงพากย์ต่าง ๆ กันสำหรับแต่ละตัวละคร และเขายังเป็นผู้ร้องเพลงประกอบเรื่อง ซึ่งโทลคีนแต่งไว้มากมายตลอดเรื่องอีกด้วย หมายเลข ISBN ของหนังสือนี้ คือ 1402516274[29]
เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์สามครั้ง ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2521 (ค.ศ. 1978) ใช้ชื่อเรื่องว่า J. R. R. Tolkien's The Lord of the Rings โดยนักสร้างภาพเคลื่อนไหว ชื่อ ราล์ฟ บัคชิ (Ralph Bakshi) [30] เขาสร้างเนื้อหาในภาคแรก 'มหันตภัยแห่งแหวน' และบางส่วนใน 'หอคอยคู่พิฆาต' ภาพยนตร์ไม่ประสบความสำเร็จนัก ครั้งที่สองสร้างโดยทีมงาน Rankin/Bass เป็นภาคต่อจากฉบับภาพยนตร์ คือ ส่วนที่เหลือของ 'หอคอยคู่พิฆาต' และ 'กษัตริย์คืนบัลลังก์' โดยสร้างเป็นภาพยนตร์ออกฉายทางโทรทัศน์ในปี พ.ศ. 2523 (ค.ศ. 1980) ใช้ชื่อว่า The Return of the King[31]
แต่ครั้งที่ประสบความสำเร็จ คือ ฉบับปี พ.ศ. 2544 - 2546 ของผู้กำกับปีเตอร์ แจ็กสัน อำนวยการสร้างโดย นิวไลน์ซีนีม่า ภาพยนตร์ทั้งสามภาคถ่ายทำในประเทศนิวซีแลนด์ทั้งเรื่อง และถ่ายทำในช่วงเวลาเดียวกัน แต่มีกำหนดออกฉายปีต่อปี เริ่มจากปี พ.ศ. 2544 - 2546
ภาพยนตร์ทั้ง 3 ตอนได้รับรางวัลเนบิวลาสาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ในปี พ.ศ. 2545 - 2547 [32] ภาพยนตร์ตอนสุดท้าย (Return of the King) ทำสถิติรายได้มากกว่าหนึ่งพันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นเรื่องที่สองถัดจาก ไททานิก[33] และได้รับรางวัลออสการ์ไปถึง 11 สาขาในปี ค.ศ. 2004[34] ซึ่งรวมถึง รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม เมื่อรวมทั้งสามภาค ภาพยนตร์ได้รับรางวัลบาฟต้า 13 รางวัล[35] ลูกโลกทองคำ 4 รางวัล[36] และรางวัลออสการ์รวมถึง 17 รางวัล[37] ได้แก่
ชื่อตอนของภาพยนตร์ในฉบับภาษาอังกฤษจะเหมือนชื่อหนังสือ แต่สำหรับในพากย์ไทยของภาพยนตร์ทั้งสามภาค มีชื่อดังนี้
เมนูนำทาง
เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ การดัดแปลงไปยังสื่ออื่นใกล้เคียง
เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ (ภาพยนตร์ชุด) เดอะลาสต์ออฟอัส เดอะลอดส์ออฟมิสเซอรี เดอะลูนีย์ทูนส์โชว์ เดอะลาสต์เบลด 2 เดอะลาสต์ออฟอัส (ละครโทรทัศน์) เดอะลาวด์เฮาส์ เดอะลีกออฟเนชันส์ เดอะลาสต์ไทม์แหล่งที่มา
WikiPedia: เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ http://wwwu.uni-klu.ac.at/jkoeberl/Courses/Tolkien... http://www.theage.com.au/media/2004/12/05/11021821... http://www.theage.com.au/news/Books/Tolkien-has-us... http://www.cbc.ca/story/arts/national/2006/03/24/l... http://www.amarinpocketbook.com/writer_detail.asp?... http://www.amazon.com/Lord-Rings-Trilogy-Gift-Set/... http://search.barnesandnoble.com/booksearch/isbnin... http://www.bookmoot.com/2004/10/germanys-favorite-... http://www.boxofficemojo.com/alltime/world/ http://www.brothershildebrandt.com/Brothers.htm