เดินเม
เดินเม

เดินเม

เดินเม (ฮีบรู: דוֹנְמֶה, อักษรโรมัน: Dōnme, ตุรกีออตโตมัน: دونمه, ตุรกี: Dönme) คือกลุ่มชาวยิวสะบาโตผู้หลบซ่อนในจักรวรรดิออตโตมัน แม้ภายนอกพวกเขาเข้ารีตศาสนาอิสลาม แต่ก็ยังคงรักษาระบบความเชื่อแบบยิว และปฏิบัติตนตามคับบาลาห์อย่างลับ ๆ[1][2][3][4] พวกเขามีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองเทสซาโลนีกี[1][4][5] โดยมีศาสนสถานคือมัสยิดเยนี (Yeni Cami) เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเดินเมประจำเมืองดังกล่าว[6]การนับถือศาสนาอิสลามของชาวยิวกลุ่มนี้เกิดขึ้น หลังจากซับบาไท เซวี (שַׁבְּתַי צְבִי) รับบีชาวยิวเซฟาร์ดี อ้างตนว่าเป็นเมสสิยาห์ของชาวยิว ทำให้มีสาวกคอยติดตามอยู่เป็นจำนวนมาก และในเวลาต่อมาเขาถูกรัฐบาลออตโตจับกุมตัว และให้เลือกระหว่างการถูกประหารชีวิต หรือยอมเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลาม[7] เซวีแสร้งทำเป็นเลื่อมใสศรัทธาในศาสนาอิสลามและเปลี่ยนศาสนาเพื่อเลี่ยงโทษประหาร[7] ด้วยเหตุนี้ชาวยิวสะบาโตส่วนหนึ่งจึงยอมเข้ารีตเป็นมุสลิม จึงถูกเรียกว่า เดินเม[1][7][4][8] อันเป็นภาษาตุรกี แปลว่า "ผู้ละทิ้งความเชื่อ"[1][4] กระนั้นพวกเขายังนับถือและปฏิบัติศาสนกิจแบบชาวยิวอย่างลับ ๆ[1][7][9] หลังการแลกเปลี่ยนประชากรระหว่างกรีซกับตุรกีใน ค.ศ. 1925 ชาวเดินเมจึงโยกย้ายออกไปจากเมืองเทสซาโลนีกี[6] ชาวยิวสะบาโตบางส่วนยังคงอาศัยอยู่ในประเทศตุรกีจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 21 ในฐานะลูกหลานของชาวเดินเม[1]ปัจจุบันไม่มีข้อมูลจำนวนประชากรชาวเดินเมหรือจำนวนคนที่เรียกตนเองด้วยชื่อดังกล่าว แม้จะมีลูกหลานบางคนยังอาศัยอยู่ในย่านเทชวีกีเย ในเมืองอิสตันบูลก็ตาม พวกเขามีสุสานเป็นของตนเอง เรียกว่าสุสานบึลบึลเดเร (Bülbüldere Mezarlığı) หรือสุสานชาวซาโลนีกา (Selanikliler Mezarlığı)หลังการก่อตั้งประเทศอิสราเอลขึ้นใน ค.ศ. 1948 มีชาวเดินเมเพียงไม่กี่ครอบครัวที่อพยพไปยังประเทศอิสราเอล[10] ใน ค.ศ. 1994 อิลกาซ โซร์ลู (Ilgaz Zorlu) นักบัญชีชาวตุรกี ที่อ้างว่าตนสืบเชื้อสายเดินเมมาแต่ฝ่ายมารดา ได้เผยแพร่บทความในวารสาร เปิดเผยว่าตนเองมีเชื้อสายเดินเม และได้นำเสนอความเชื่อทางศาสนาอย่างลับของชาวเดินเม[11] หัวหน้ารับบีแห่งตุรกี และหน่วยทางศาสนาของอิสราเอล ไม่ยอมรับว่าชาวเดินเมเป็นยิว เพราะพวกเขาทิ้งศรัทธาในศาสนายูดาห์มายาวนาน[12][13] โซร์ลูจึงยื่นคำร้องต่อศาลอิสตันบูลในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2000 ขอให้เปลี่ยนศาสนาในบัตรประชาชนของตนเองจาก "อิสลาม" เป็น "ยูดาห์" ซึ่งเขาชนะคดีในเวลาต่อมา ต่อมาเบธดิน หรือศาลศาสนายูดาห์ประจำตุรกี ได้ให้การยอมรับว่าเขาเป็นชาวยิว[14] แต่เนื่องจากพวกเขาไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นยิว ชาวเดินเมจึงไม่มีสิทธิ์ในกฎหมายว่าด้วยการกลับคืน (Law of Return) ของรัฐบาลอิสราเอล[12]

แหล่งที่มา

WikiPedia: เดินเม http://www.balkantravellers.com/en/read/article/27... http://www.haaretz.com/hasen/spages/1083958.html http://jewishencyclopedia.com/articles/5278-donmeh http://www.jewishencyclopedia.com/articles/13480-s... http://www.tnr.com/book/review/the-other-secret-je... //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/26174172 //doi.org/10.1111%2F1468-4446.12137 https://www.britannica.com/topic/Judaism/The-Luria... https://esefarad.com/a-scapegoat-for-all-seasons-t... https://web.archive.org/web/20090519200833/http://...