ประวัติ ของ เทียรี่_เมฆวัฒนา

เทียรี่ เมฆวัฒนา เกิดที่ประเทศลาว เป็นบุตรของนายเอนก เมฆวัฒนา โดยนายเอนกทำงานให้กับหน่วยซีไอเอในลาวคอยหาเครื่องใช้ให้ทหารอเมริกัน แม่เป็นชาวสวิสเซอร์แลนด์ ชื่อ Simone หลังจากนั้นพอเทียรี่มีอายุได้ 2 ขวบ ประเทศลาวได้เกิดสงครามกลางเมืองจากการรัฐประหารเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2503 พ่อจึงพาครอบครัวย้ายมาอยู่ที่ประเทศไทย และเข้าเรียนที่โรงเรียนอัสสัมชัญจนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ก่อนจะย้ายมาเรียนที่โรงเรียนดรุณพิทยาจนจบชั้นมัธยมปลาย จากนั้นได้เดินทางไปศึกษาต่อด้านการบริหารธุรกิจที่ American Business Institute ที่เมืองแมนฮัตตัน นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

โดยเทียรี่มีความสนใจในการเล่นดนตรีมาตั้งแต่เด็ก ๆ โดยหัดเล่นกีตาร์ตอนอายุ 11 ขวบ ซึ่งเพลงแรกที่หัดเล่นคือเพลง Flying Machine ของเซอร์ คลิฟฟ์ ริชาร์ด เทียรี่ชื่นชอบและได้รับแรงบันดาลใจทางดนตรีมาจากบทเพลงของบ็อบ ดิลลัน, ดอน แม็กลีน, เดอะ บีทเทิลส์ รวมถึงวงควีนด้วย

วงการบันเทิง

เทียรี่เข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการถ่ายแบบ แสดงละคร และ ภาพยนตร์ ก่อนจะเริ่มมีผลงานทางดนตรีครั้งแรก เป็นดนตรีแนวโฟล์ก โดยเข้าร่วมวงดนตรี Runspot ร่วมกับ กิตติคุณ เชียรสงค์ และหมึก ศิลปากร เล่นออกอากาศทางรายการ เสาร์สนุก ทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ ช่อง 9 อสมท. ในปี พ.ศ. 2521

หลังจากนั้น ด้วยความที่ตัวเทียรี่ได้ออกโทรทัศน์บ่อยจึงได้รับการติดต่อให้แสดงภาพยนตร์เรื่องแรกคือเรื่อง สตรีหมายเลข 0 แสดงคู่กับ สรพงศ์ ชาตรี และ ชลธิชา สุวรรณรัต ในปี พ.ศ. 2521 และได้เล่นเป็นพระเอกอีกครั้งในภาพยนตร์เรื่อง โอ้กุ๊กไก่ ในปี พ.ศ. 2522 ก่อนจะพักงานในวงการบันเทิงเพื่อเดินทางไปศึกษาต่อที่ American Business Institute และทำงานเป็นนักดนตรีตอนกลางคืนในร้านอาหาร ที่เมืองแมนฮัตตัน นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยร้องเพลงสากลของเซอร์ คลิฟฟ์ ริชาร์ด และ เอลวิส เพรสลี่ย์

หลังจากกลับมาเมืองไทยเพียง 2 สัปดาห์ เทียรี่ได้เซ็นสัญญาเป็นนักดนตรีในห้องอัดเสียงของค่ายเพลงอโซน่า รับหน้าที่เล่นกีตาร์เพื่อบันทึกเสียงในอัลบั้มของศิลปินหลายคนทั้ง สายัณห์ สัญญา, ศิรินทรา นิยากร, ยอดรัก สลักใจ, ไพจิตร อักษรณรงค์, ศรเพชร ศรสุพรรณ และ นัดดา วิยกาญจน์

โดยเทียรี่ เมฆวัฒนา ได้มีอัลบั้มเพลงของตัวเองครั้งแรก เป็นอัลบั้มที่ร้องคู่กับไพจิตร อักษรณรงค์ คืออัลบั้ม รักแรก ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จทางยอดขายเป็นอย่างดี ทำให้มีผลงานการถ่ายแบบ และเป็นพิธีกรในรายการเกมโชว์ถึง 2 รายการ

จนกระทั่งปี พ.ศ. 2526 เทียรี่ เมฆวัฒนา ได้มีโอกาสร่วมงานกับวงคาราบาวเป็นครั้งแรก โดยเป็นการออกทัวร์คอนเสิร์ตโปรโมทอัลบั้ม วณิพก โดยรับหน้าที่เล่นกีตาร์ไฟฟ้าบนเวทีคอนเสิร์ตแทนที่เล็ก - ปรีชา ชนะภัย มือกีตาร์โซโล่ตัวจริงของทางวง ที่ติดภารกิจต้องไปทัวร์คอนเสิร์ตกับวงเพรสซิเดนท์ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งเทียรี่เคยไปศึกษาที่นั่น

หลังการออกทัวร์คอนเสิร์ตโปรโมตอัลบั้มวณิพกร่วมกับวงคาราบาวเสร็จสิ้น เทียรี่ได้ออกอัลบั้มของตนเองออกมาอีก 1 ชุด ในชื่ออัลบั้ม เรือรัก โดยอัลบั้มชุดนี้เป็นแนวเพลงโฟล์ก และมีเพลงฮิตอย่าง วานนี้ช้ำ วันนี้จำ

ปลายปี พ.ศ. 2526 คาราบาว กลับมาบันทึกเสียงที่ห้องอัดของอโซน่าอีกครั้งเพื่อบันทึกเสียงเพลงทั้งหมดในอัลบั้มชุด ท.ทหารอดทน เทียรี่จึงได้เป็นนักดนตรีแบ็คอัพบันทึกเสียงให้คาราบาวในอัลบั้มชุด ท.ทหารอดทน ก่อนที่จะได้รับการเชิญชวนให้ร่วมออกทัวร์คอนเสิร์ตกับทางวงอีกครั้งหนึ่ง

ความโด่งดังของอัลบั้ม ท.ทหารอดทน ทำให้วงคาราบาวทั้งวงได้เล่นเป็นดารารับเชิญในภาพยนตร์เรื่อง ปล.ผมรักคุณ และเทียรี่ในฐานะนักดนตรีแบ็กอัพก็ได้ปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่องนี้พร้อมกับคาราบาวด้วย โดยในปีดังกล่าว เทียรี่ เมฆวัฒนา ได้แต่งงานเป็นครั้งแรกกับแฟนสาวที่คบหากันมานานถึง 6 ปี แต่กลับใช้ชีวิตคู่อยู่เพียงแค่ 6 เดือนก็ได้หย่าขาดจากกันในปีเดียวกัน

เข้าร่วมวงคาราบาว

หลังจากทัวร์คอนเสิร์ตร่วมกับวงคาราบาวมาอย่างยาวนาน เทียรี่ก็ได้เป็นสมาชิกของวงคาราบาวอย่างเต็มตัวในปี พ.ศ. 2527 ในอัลบั้ม เมด อิน ไทยแลนด์ โดยเป็นสมาชิกใหม่ในตำแหน่งมือกีตาร์และนักร้องนำ โดยได้ร้องเพลงให้คาราบาวเพลงแรกคือเพลง นางงามตู้กระจก ซึ่งผลจากความสำเร็จอย่างถล่มทลายของอัลบั้มชุดนี้ที่มียอดจำหน่ายในปีเดียวมากกว่า 5,000,000 ตลับ ซึ่งเป็นสถิติที่สูงที่สุดในประเทศไทย ทำให้เทียรี่ เมฆวัฒนาในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของวงโด่งดังเป็นอย่างมาก และเทียรี่ก็ได้ขึ้นเล่นคอนเสิร์ตทำโดยคนไทย ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของประเทศไทยและวงคาราบาวที่สนามจักรยานเวโลโดรม ในสนามกีฬาหัวหมาก ในปี พ.ศ. 2528 ซึ่งคอนเสิร์ตดังกล่าวมีผู้ชมมากกว่า 60,000 คน อีกทั้งยังได้ไปทัวร์คอนเสิร์ตที่สหรัฐอเมริกาอีกด้วย โดยเทียรี่ เมฆวัฒนาได้เป็นผู้ร้องเพลง เมด อิน ไทยแลนด์ ในเวอร์ชันภาษาอังกฤษ โดยในเวอร์ชันนี้ทางวงตั้งชื่อเพลงว่า Made in Thailand in USA

ในปีเดียวกัน เทียรี่ เมฆวัฒนาได้แสดงภาพยนตร์อีกครั้งในภาพยนตร์เรื่องเสียงเพลงแห่งเสรีภาพ คู่กับนางเอกสาว จุ๋ม - อุทุมพร ศิลาพันธ์ ซึ่งสมาชิกวงคาราบาวได้แสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยกันทั้งวง ตลอดจนมีดาราอื่น ๆ เช่น ษา - สุพรรษา เนื่องภิรมย์, หมู - พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ, สุรชัย จันทิมาธร หรือ หงา คาราวาน มาร่วมแสดงด้วย และในปีดังกล่าว บริษัทการบินไทย ครบรอบ 25 ปี จึงได้มอบหมายให้วงคาราบาวแต่งเพลงให้ ซึ่งแอ๊ด - ยืนยง โอภากุล ได้แต่งเพลง รักคุณเท่าฟ้า โดยมอบให้เทียรี่เป็นผู้ขับร้อง และกลายเป็นเพลงฮิตที่ติดหูผู้ฟังอย่างมากจนถึงปัจจุบันและมีการนำกลับมาร้องซ้ำโดยศิลปินอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ฟอร์ด - สบชัย ไกรยูรเสน เป็นต้น

ในปีเดียวกันเทียรี่ได้แต่งงานอีกครั้งกับนางเอกสาว จุ๋ม - อุทุมพร ศิลาพันธ์ ซึ่งทั้งสองเคยมีงานแสดงร่วมกัน หนึ่งในนั้นคือภาพยนตร์เรื่องเสียงเพลงแห่งเสรีภาพ

จากนั้น ในปลายปีเดียวกัน คาราบาวได้ออกอัลบั้มชุด อเมริโกย โดยในอัลบั้มนี้เทียรี่ได้ร้องนำ 1 เพลงคือเพลง มาลัย โดยวงคาราบาวได้กลายเป็นผู้นำแฟชั่นของวัยรุ่นในสมัยนั้นด้วยการแต่งตัวด้วยชุดลายพรางทหารและใส่แว่นดำ ต่อมาได้ร่วมงานกับทางวงในชุด ประชาธิปไตย ซึ่งวางจำหน่ายในปี พ.ศ. 2529 โดยเทียรี่ได้ร้องนำคู่กับแอ๊ดในเพลง มหาจำลอง รุ่น 7

ในปี พ.ศ. 2530 คาราบาวออกอัลบั้ม เวลคัมทูไทยแลนด์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอัลบั้มที่มียอดขายเกิน 1,000,000 ตลับ/ก๊อปปี้ และมีมิวสิกวิดีโอถึง 4 เพลง เทียรี่มีบทบาทในอัลบั้มชุดนี้มากโดยนอกจากจะเป็นมือกีตาร์และประสานเสียงแล้ว ยังได้ร้องเพลงในอัลบั้มนี้ถึง 3 เพลง คือ สังกะสี ,บิ๊กเสี่ยว โดยร้องคู่กับแอ๊ด - ยืนยง โอภากุล และเพลง คนหนังเหนียว โดยร้องคู่กับเล็ก - ปรีชา ชนะภัย ในลักษณะของการดูเอท

เทียรี่ เมฆวัฒนาโด่งดังถึงขีดสุดในอัลบั้ม ทับหลัง ในปี พ.ศ. 2531 จากการขับร้องเพลง แม่สาย ซึ่งเป็นเพลงนำร่องในอัลบั้ม ซึ่งเพลงนี้มีการทำเป็นมิวสิกวิดีโอแบบแอนิเมชันเป็นเพลงแรกในประเทศไทยอีกด้วย

แยกวง

หน้าปกอัลบั้ม ขอเดี่ยวด้วยคนนะ

ในปี พ.ศ. 2531 หลังจากที่วงคาราบาวทัวร์คอนเสิร์ตโปรโมทอัลบั้ม ทับหลัง เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เทียรี่ก็ได้ขอลาออกจากวงและแยกตัวไปพร้อมกับสมาชิกในวงอีก 2 คน คือ อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี และ เป้า - อำนาจ ลูกจันทร์ โดยทั้ง 3 คนได้ร่วมกันออกอัลบั้มในชื่อชุด ขอเดี่ยวด้วยคนนะ ในปี พ.ศ. 2532 มีเพลงที่เป็นที่รู้จัก เช่น สาวดอย สอยดาว, วันเกิด, 5 ย 5 ก เป็นต้น

ในปี พ.ศ. 2533 เทียรี่ก็ได้เซ็นสัญญากับค่ายท็อปไลน์ออกอัลบั้มเดี่ยวของตัวเองชุดแรกภายหลังแยกวง คือ เจาะเวลา... โดยอัลบั้มชุดนี้ได้รับการสนับสนุนจากเครื่องดื่มโค้ก และได้ อิทธิ พลางกูร มาเป็นศิลปินรับเชิญร่วมขับร้องเพลง ทะเล ตลอดจนได้ชานนท์ ทองคง อดีตมือเบสวง เนื้อกับหนัง ซึ่งเป็นวงดนตรีเฮฟวี่เมทัลยุคแรก ๆ ของเมืองไทยมาร่วมงานด้วยในตำแหน่งมือเบส ทำให้อัลบั้มชุดนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยมีเพลงฮิตที่รู้จักกันดีเช่น ปาปาย่า ป๊อก ๆ , สาวตากลม, เจาะเวลาหาปัจจุบัน, รักขึ้นสมอง เป็นต้น

ปี พ.ศ. 2534 ได้ออกอัลบั้ม สุดขั้วหัวใจ โดยมีเครื่องดื่มโค้กเป็นผู้สนับสนุนตามเดิม มีเพลงฮิตคือเพลง ความรักสีดำ, ไผ่แดง ซึ่งเป็นเพลงประกอบละครเรื่องไผ่แดง และเพลง สูงสุดสู่สามัญ ซึ่งได้รับรางวัลสีสันอะวอร์ดส์ สาขาเพลงยอดเยี่ยม ประจำปี พ.ศ. 2534

เดือนตุลาคม ปี พ.ศ. 2535 เทียรี่ออกอัลบั้มชุดที่ 3 ในชื่อชุดไม่เต็มบาท มีเพลงเด่น ๆ เช่น แสงแห่งกาลเวลา, พขร.ณ รมต., ชั่วเจ็ดทีดีเจ็ดหน, ทำใจ, ฝันของดอกไม้ริมทาง เป็นต้น โดยอัลบั้มนี้เป็นชุดสุดท้ายที่มีเครื่องดื่มโค้กเป็นผู้สนับสนุน ก่อนที่เทียรี่จะออกอัลบั้มชุดที่ 4 ในปี พ.ศ. 2537 ในชุด คาถาเศรษฐี ซึ่งมีเพลงฮิตในขณะนั้นคือ ถังแตก, สิ่งสุดท้ายแห่งความทรงจำ ตลอดจนมีเพลงประกอบโฆษณาอย่าง ปรารถนา และเพลงประกอบรายการโทรทัศน์อย่างเพลง จบที่ใจ เป็นต้น

หลังจากนั้นเทียรี่ได้ออกอัลบั้มเดี่ยวออกตามมาอีกหลายชุดเช่น ยาชูกำลัง, จักรวาล และตั้งแต่ พ.ศ. 2541 จึงได้กลับมาเป็นสมาชิกของวงคาราบาวตั้งแต่อัลบั้ม อเมริกันอันธพาล จนถึงปัจจุบัน

โดยเทียรี่เป็นนักร้องที่มีเสียงแหบเสน่ห์เป็นตัวของตนเอง จึงมีเพลงที่ได้รับความนิยมในแต่ละอัลบั้มอยู่หลายเพลง ซึ่งส่วนมากเพลงที่จะเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมเป็นเพลงช้า จึงได้มีโอกาสแต่งและร้องเพลงประกอบภาพยนตร์และละครหลายเรื่อง เช่น ละครเรื่อง สุดแต่ใจจะไขว่คว้า ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ในปี พ.ศ. 2532, ไผ่แดง ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ในปี พ.ศ. 2534, ด้วยสองมือแม่นี้ที่สร้างโลก ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ในปี พ.ศ. 2537, แม้เลือกเกิดได้ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ในปี พ.ศ. 2544 เป็นต้น และเคยร้องเพลงออกอัลบั้มร่วมกับ อิทธิ พลางกูร ด้วย และจุดเด่นอีกประการหนึ่งของเพลงของเทียรี่ อยู่ที่เนื้อร้องที่เล่นกับภาษาได้อย่างลงตัวและสนุก มีความหมาย เช่น เพลง พขร.ณ รมต. ที่เล่นกับตัวย่อทั้งเพลง, ฉำฉาฉ่อยฉุกเฉิน ที่เล่นกับอักษร ฉ.ฉิ่ง ทั้งเพลง, หัวใจจิ้มจุ่ม ที่เล่นกับอักษร จ.จาน, ไปไหนไปด้วย ที่มีการยกตัวอย่างเปรียบเทียบเปรียบเปรยทั้งเพลง เป็นต้น และเพลงส่วนใหญ่ในอัลบั้มเดี่ยวมักจะแฝงไว้ด้วยป๊อปเซ้นส์เสมอ ซึ่งทำให้เพลงของเทียรี่ฟังง่ายและเป็นที่นิยม

ในปี พ.ศ. 2552 เทียรี่ได้รับเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาทางโทรทัศน์ให้กับโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ G-Net โดยเป็นพรีเซนเตอร์ของโทรศัพท์ยี่ห้อนี้เป็นคนแรกด้วย[1]

ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 ปรากฏข่าวลือที่ทำให้ช็อกแฟนคลับวงคาราบาวทั่วประเทศว่าเทียรี่ได้ฆ่าตัวตายด้วยการใช้ปืนยิงตัวเองหลังเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสายไหม[2] แต่เมื่อได้มีการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว พบว่าเทียรี่มีอาการกระเพาะทะลุจากการดื่มสุราอย่างหนักจากคำยืนยันของมณเฑียร สาระโภค ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลสายไหม, หาญชัย ยุทธ์ธนพิพิพัฒน์ ผู้จัดการส่วนตัวของเทียรี่ และแอ๊ด - ยืนยง โอภากุล หัวหน้าวงคาราบาว ซึ่งทั้ง 3 คนได้แถลงข่าวร่วมกัน[3] โดยเทียรี่ได้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีสยาม