ต้นชีวิต ของ เบเรงเกลาแห่งกัสติยา

เบเรงเกลาเสด็จพระราชสมภพไม่ในปี ค.ศ. 1179[2][3] ก็ในปี ค.ศ. 1180[3][4] ในบูร์โกส[3] เป็นพระธิดาคนโตของพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 8 กับเอเลนอร์แห่งอังกฤษ

ในฐานะพระโอรสธิดาคนโตของพระเจ้าอัลฟอนโซกับเอเลนอร์ พระองค์เป็นทายาทหญิงโดยสันนิษฐานของบัลลังก์กัสติยาอยู่หลายปี[5] เหตุเพราะพระอนุชาหลายคนที่ประสูติหลังพระองค์สิ้นพระชนม์หลังการคลอดหรือไม่ก็อยู่ไม่พ้นวัยทารก เบเรงเกลาจึงกลายเป็นคู่ครองผู้เป็นที่หมายตามากที่สุดในยุโรป[5]

การหมั้นหมายครั้งแรกของเบเรงเกลาบรรลุข้อตกลงในปี ค.ศ. 1187 เมื่อค็อนราท ดยุคแห่งโรเทินบวร์คและพระบุตรคนที่ห้าของจักรพรรดิฟรีดริชที่ 1 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์[6] ต้องการแต่งงานกับพระองค์ ปีต่อมาสัญญาว่าด้วยการแต่งงานได้รับการลงนามในเซลิงเกินชตัท หนึ่งในนั้นคือสินสอดจำนวน 42,000 เหรียญมาราเบดี[6] จากนั้นค็อนราทก็เดินทัพมากัสติยาที่มีการฉลองการหมั้นหมายกันในการ์ริยอนและค็อนราทได้รับแต่งตั้งเป็นอัศวิน[7] สถานะของเบเรงเกลาในฐานะทายาทแห่งกัสติยาเมื่อพระองค์ได้สืบทอดบัลลังก์เป็นส่วนหนึ่งในสนธิสัญญาและสัญญาว่าด้วยการแต่งงาน[8][9] ที่ระบุว่าพระองค์จะสืบทอดอาณาจักรต่อจากพระบิดาหรือพระอนุชาคนใด ๆ ก็ตามที่ไร้ทายาท[8] ค็อนราทจะได้เป็นเพียงผู้ปกครองร่วมในฐานะคู่สมรสของพระองค์ และกัสติยาจะไม่เป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิ[6]

การแต่งงานไม่ได้ถูกทำให้สมบูรณ์เนื่องจากเบเรงเกลายังเด็ก พระองค์มีพระชนมายุไม่ถึง 10 พรรษา[10] ค็อนราทกับเบเรงเกลาไม่ได้พบเจอกันอีก[11] ในปี ค.ศ. 1191 เบเรงเกลาขอร้องให้พระสันตะปาปาทรงประกาศให้การหมั้นหมายเป็นโมฆะ ภายใต้อิทธิพลของบุคคลที่สามอย่างพระอัยกี อาลีเยนอร์แห่งอากีแตน ที่ไม่สนใจจะผูกมิตรกับราชวงศ์โฮเอินชเตาเฟินที่เป็นเพื่อนบ้านของที่ดินศักดินาในฝรั่งเศส[11] เรื่องราวจบลงเมื่อดยุคถูกลอบสังหารในปี ค.ศ. 1196[11]