เฟรนช์ฟรายส์ (
อังกฤษ: french fries) หรือ
ฟรายส์ (fries, ภาษาอังกฤษแบบอเมริกาเหนือ),
ชิปส์ (chips, ภาษาอังกฤษแบบบริติชและแบบไอริช)
[1],
ฟิงเกอร์ชิปส์ (finger chips, ภาษาอังกฤษแบบอินเดีย)
[2] เป็น
มันฝรั่งหั่นแท่งทอดในน้ำมันท่วมแบบกรอบหรือนุ่มด้านใน โรยเกลือแล้วเสิร์ฟขณะร้อน เฟรนช์ฟรายส์เป็น
ขนมขบเคี้ยวหรือ
อาหารจานด่วนที่ทานกับ
ซอสมะเขือเทศ มายองเนส น้ำส้มสายชู หรือ
ซอสบาร์บีคิว นอกจากนี้ยังทานกับ
เนยแข็ง ซอสทาร์ทาร์ หรือ
น้ำสลัดเทาซันด์ไอแลนด์ รูปแบบเฟรนช์ฟรายส์มีหลากหลาย เช่น แบบวง แบบหยัก หรือใช้
มันเทศแทนมันฝรั่งที่มาของเฟรนช์ฟรายส์ยังคงเป็นที่ถกเถียงว่ามาจาก
ประเทศเบลเยียมหรือ
ประเทศฝรั่งเศส[3] โดยโจ เฌราร์ นักหนังสือพิมพ์ชาวเบลเยียมอ้างถึงต้นฉบับปี ค.ศ. 1781 ที่ระบุถึงมันฝรั่งทอดในหุบเขาแถบ
แม่น้ำเมิซก่อนปี ค.ศ. 1680 มีเนื้อหาว่า "ชาวเมือง
นามูร์ อ็องแดน และ
ดีน็อง โดยเฉพาะในหมู่คนยากจนมีวิธีตกปลาและทอดปลาเล็ก เมื่อแม่น้ำกลายเป็นน้ำแข็งและการตกปลาเป็นไปอย่างยากลำบาก พวกเขาจะหั่นมันฝรั่งเป็นรูปปลาเล็ก ๆ และนำไปทอดกินแทน"
[4] ขณะทางฝรั่งเศสกล่าวว่าเฟรนช์ฟรายส์ถูกคิดค้นโดยพ่อค้าอาหารริมทางบนสะพาน
ปงเนิฟ ก่อนเกิด
การปฏิวัติฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1789
[5] และพบหลักฐานอ้างอิงถึง "มันฝรั่งทอด" ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1775
[6]เฟรนช์ฟรายส์เตรียมได้จากการหั่นมันฝรั่งเป็นแท่ง นำไปล้างน้ำเย็นแล้วทิ้งไว้ให้แห้ง
[7] เฟรนช์ฟรายส์อาจทอดเพียงครั้งเดียวหรือสองครั้ง
[8] โดยการทอดสองครั้งจะทอดครั้งแรกที่อุณหภูมิ 160 °ซ (320 °ฟ) และครั้งที่สองที่อุณหภูมิ 190 °ซ (375 °ฟ) แค่ชั่วครู่เพื่อให้ผิวด้านนอกกรอบ ก่อนจะนำไปพักสะเด็ดน้ำมัน โรยเกลือและเสิร์ฟ ระยะเวลาในการทอดขึ้นอยู่กับขนาดของมันฝรั่ง โดยมันฝรั่งขนาดราว 2–3 มิลลิเมตร จะใช้เวลาทอดครั้งแรกประมาณสามนาที และครั้งที่สองแค่ไม่กี่วินาที
[8] การทอดเฟรนช์ฟรายส์ทำได้หลายวิธี เช่น การทอดในน้ำมันท่วม การทอดสุญญากาศ หรือการทอดในกระทะก้นลึก ภัตตาคารส่วนใหญ่ใช้มันฝรั่งแช่แข็งแล้วนำมาลวกก่อนนำไปทอด
[9] โดยปัจจุบันใช้
น้ำมันพืชแทนน้ำมันจากไขมันวัว
[8]เนื่องจากเฟรนช์ฟรายส์ประกอบไปด้วย
คาร์โบไฮเดรตในรูป
แป้งและ
โปรตีนจากมันฝรั่ง ไขมันจากน้ำมันทอด และ
โซเดียมจากเกลือ จึงมักถูกกล่าวว่าเป็นอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ โจนาทาน บอนเน็ตกล่าวในนิตยสาร
ไทม์ ว่า "เฟรนช์ฟรายส์ไม่มีสารอาหารมาตั้งแต่ต้น เพราะมันผ่านทั้งการทอด เติมเกลือ และขาดส่วนที่มีคุณค่าทางอาหารมากที่สุดอย่างเปลือก"
[10] ขณะที่เดวิด แคตซ์กล่าวว่าเฟรนช์ฟรายส์ไม่ดีต่อสุขภาพเพราะ "มันมักมาคู่กับเบอร์เกอร์ซึ่งมีไขมัน และกินกับซอสมะเขือเทศที่มีน้ำตาล และมายองเนสที่มีไขมัน"
[10] นอกจากนี้เฟรนช์ฟรายส์ยังมีสาร
อะคริลาไมด์จากการทอด ซึ่ง
องค์การวิจัยโรคมะเร็งนานาชาติ (International Agency for Research on Cancer หรือ IARC) ระบุว่าสารนี้ "อาจเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์" ขณะที่
สถาบันพิษวิทยาแห่งชาติของสหรัฐ (National Toxicology Program หรือ NTP) จัดให้อะคริลาไมด์เป็นสารที่ "คาดการณ์อย่างมีเหตุผลว่าอาจเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์"
[11]