ชีวิตและอาชีพ ของ เอ._เอส._ไบแอ็ท

ไบแอ็ทได้รับการศึกษาที่โรงเรียนเมานท์, วิทยาลัยนูว์นแนม (มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์), วิทยาลัยเบรนมอว์ (Bryn Mawr College) ในเพนซิลเวเนีย และ วิทยาลัยซอมเมอร์วิลล์ (มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด) ทุนการค้นคว้าที่ได้รับของสถาบันหลังที่ขึ้นอยู่กับการเป็นโสดมายุติลงเมื่อไบแอ็ทสมรสครั้งแรกกับเอียน ไบแอ็ทในปี ค.ศ. 1959 น้องสาวคนรองของไบแอ็ทมาร์กาเร็ต แดรบเบิลเป็นนักเขียนนวนิยาย และอีกคนหนึ่งเฮเลน แลงดอนเป็นนักประวัติศาสตร์ศิลป์

ไบแอ็ททำงานปาฐกถาที่คณะการศึกษานอกสถานที่ของมหาวิทยาลัยลอนดอนระหว่างปี ค.ศ. 1962 ถึงปี ค.ศ. 1971[1] คณะศิลปะและการออกแบบของวิทยาลัยเซนต์มาร์ตินระหว่างปี ค.ศ. 1972 ถึงปี ค.ศ. 1983 ที่ยูนิเวอร์ซิตีคอลเลจลอนดอน[1]

The Shadow of the Sun (ไทย: เงาสุริยา) นวนิยายเรื่องแรกที่เป็นเรื่องของหญิงสาวที่เติบโตขึ้นภายในเงาของพ่อผู้มีบุคลิกที่มีอิทธิพลเหนือกว่าได้รับการตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1964 ตามด้วย The Game (ค.ศ. 1967) ซึ่งเป็นการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องสตรีสองคน[1], The Virgin in the Garden (ค.ศ. 1978) (ไทย: สาวบริสุทธิ์ในสวน) เป็นหนังสือเรื่องแรกที่เป็นเรื่องติดต่อกันสี่เรื่องที่เป็นเรื่องสมาชิกในครอบครัวในยอร์คเชอร์ ที่มาต่อด้วย Still Life (ค.ศ. 1985) (ไทย: ภาพนิ่ง) ที่ได้รับรางวัลเพ็น/แม็คมิลแลนเงิน และ Babel Tower (ค.ศ. 1996) (ไทย: หอบาเบล) เล่มที่สี่ในชุดนี้คือ A Whistling Woman (ค.ศ. 2002) (ไทย: สตรีผิวปาก) หนังสือสี่เล่มนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในบริเตนในกลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 และ ชีวิตของเฟรเดอริคาในฐานะสตรีผู้มีการศึกษาและมีสติปัญญาเฉลียวฉลาดผู้เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ในช่วงเวลาที่มีนักศึกษาสตรีเพียงไม่กี่คน และต่อมาหลังจากหย่ากับสามีแล้วก็มาเริ่มชีวิตใหม่ในลอนดอนกับลูกชาย เช่นเดียวกับ Babel Tower นวนิยายเรื่อง A Whistling Woman เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในคริสต์ทศวรรษ 1960 ที่สะท้อนถึงสถานะของสังคมในยุคของความฝันในการเป็นโลกของยูโทเปียและการปฏิวัติ ต่อมาในปี ค.ศ. 1993 ไบแอ็ทก็เขียน The Matisse Stories (ไทย: เรื่องมาทีส) ซึ่งเป็นหนังสือชุดสามเรื่อง แต่ละเรื่องบรรยายภาพเขียนโดยอองรี มาตีสที่เป็นแรงบันดาลใจของไบแอ็ท แต่ละเรื่องเริ่มต้นด้วยวิกฤติการณ์เล็กๆ ที่บานออกไปเป็นความยุ่งเหยิงที่ซับซ้อนขึ้นของตัวละครเอก

Possession (ไทย: เจ้าของ) งานเขียนที่เป็นที่รู้จักกันดีที่สุด เป็นเรื่องขนานระหว่างความสัมพันธ์ของนักการศึกษาสองคนในยุคปัจจุบันกับ กับความสัมพันธ์ของกวีสองคนของคริสต์ศตวรรษที่ 19 ที่นักการศึกษาทำการค้นคว้า Possession ได้รับรางวัลแมนบุคเคอร์ในปี ค.ศ. 1990

นอกจากจะเขียนนวนิยายแล้วไบแอ็ทก็ยังเขียนเรื่องสั้นด้วย งานเขียนของไบแอ็ทเป็นงานที่มีอิทธิพลจากเฮนรี เจมส์, จอร์จ อีเลียต, เอมมิลี ดิคคินสัน, ที. เอส. อีเลียต และ โรเบิร์ต บราวนิง ในการผสานระหว่างสัจนิยม และ ธรรมชาตินิยม กับแฟนตาซี และเป็นที่แน่นอนว่าในการเขียนนวนิยายชุดสี่เล่มเป็นงานที่มีอิทธิพลโดยตรงจากดี. เอช. ลอว์เรนซ์ โดยเฉพาะในงานเขียนของลอว์เรนซ์ The Rainbow (ไทย: สายรุ้ง) และ Women in Love (ไทย: สตรีตกหลุมรัก) ไอริส เมอร์ด็อคก็เป็นนักเขียนอีกผู้หนึ่งที่มีอิทธิพลต่อไบแอ็ท ในงานเขียนที่เป็นนัยยะหรือวางโครงสร้างของหัวใจของเรื่องจากวรรณกรรมจินตนิยมและวิคตอเรีย การใช้แฟนตาซีของไบแอ็ทเป็นการวางทางเลือกอีกทางหนึ่ง (alternative) ในการบรรยายเรื่องที่ไม่ใช่การหนีจากความเป็นจริง (escapism) ซึ่งบางครั้งก็ยากที่จะบอกได้ว่าสิ่งใดคือจินตนาการและสิ่งใดคือความขัดแย้งทางจิตวิทยา ในหนังสือในช่วงที่เขียนเมื่อไม่นานมานี้ไบแอ็ทนำความสนใจทางวิทยาศาสตร์ปริชานศาสตร์ (cognitive science) และ สัตววิทยาเข้ามาใช้ งานสองชิ้นของไบแอ็ทได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์ Possession ที่สร้างในปี ค.ศ. 2002 และ Angels & Insects ที่สร้างในปี ค.ศ. 1995

นอกจากนั้นแล้วไบแอ็ทก็ยังมีงานเขียนในนิตยสาร Prospect และ เดอะการ์เดียน ไบแอ็ทได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งจักรวรรดิอังกฤษ ชั้นสาม (Order of the British Empire (CBE)) ในปี ค.ศ. 1990 และต่อมา เครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งจักรวรรดิอังกฤษ ชั้นสอง (DBE) ในปี ค.ศ. 1999