ประวัติการใช้งาน ของ เอฟ-22_แร็พเตอร์

เอฟ-22 แร็ปเตอร์ของฝูงบินรบที่ 27 ที่ฐานทัพอากาศแลงลีย์

มันถูกคาดว่าจะเป็นเครื่องบินรบที่ล้ำหน้าของอเมริการในต้นปีศตวรรษที่ 21 แร็ปเตอร์นั้นเป็นเครื่องบินรบที่มีราคาแพงพร้อมกับมูลค่าที่เพิ่มขึ้นประมาณ 138 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[3] เครื่องบินมากมายที่จะถูกสร้างถูกลดจากเดิม 750 ลำเป็น 183 ลำ[8] เหตุผลหนึ่งก็คือเพื่อลดความต้องการที่เอฟ-35 ไลท์นิ่ง 2 จะต้องใช้เทคโนโลยีจากเอฟ-22 แต่ยังมีราคาที่สามารถซื้อได้ เหตุผลที่มูลค่าของเทคโนโลยีที่ใช้กับเอฟ-35 ถูกกว่านั้นก็เพราะว่าพวกมันได้ถูกพัฒนาให้กับเอฟ-22 มาแล้ว

วายเอฟ-22 "ไลท์นิ่ง 2"

ต้นแบบวายเอฟ-22 ชนะในการแข่งขันกับเครื่องวายเอฟ-23ของนอร์ทธรอป/แมคดอนเนลล์ ดักลาส ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2535 ขณะทำการทดสอบการบิน นักบินทดสอบชื่อ ทอม มอร์เกนฟีลด์ ได้ดีดตัวทันเมื่อต้นแบบของวายเอฟ-22 ที่เขาบินนั้นตกขณะทำการลงจอดที่ฐานทัพอากาศเอ็ดเวิร์ดในแคลิฟอร์เนีย ผลจากการตกครั้งนั้นถูกพบว่าเป็นเพราะซอฟต์แวร์บกพร่อง[47]

วายเอฟ-22 เป็นเครื่องบินที่พัฒนาซึ่งนำไปสู่เอฟ-22 อย่างไรก็ตามมันก็มีความแตกต่างที่สำคัญระหว่างวายเอฟ-22 และเอฟ-22 ห้องนักบินที่เปลี่ยนตำแหน่ง โครงสร้างที่เปลี่ยนแปลง และการเปลี่ยนแปลงอีกเล็กน้อย[48] บางครั้งทั้งสองแบบก็ถูกเข้าใจผิดตามภาพ บ่อยครั้งที่มุมที่ยากจะเห็นในแบบปัจจุบัน

วายเอฟ-22 เดิมทีมีชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่าไลท์นิ่ง 2 ตามเครื่องบินรบพี-38 จากสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยล็อกฮีด ซึ่งอยู่จนกระทั่งปี 2533 เมื่อกองทัพอากาศสหรัฐฯ ได้ตั้งชื่ออย่างเป็นทางการว่า"แร็ปเตอร์" ในช่วงหนึ่งเครื่องบินใช้ชื่อ "ซูเปอร์สตาร์" และ "เรเปียร์"[49] เอฟ-35 ได้ใช้ชื่อไลท์นิ่ง 2 ในเวลาต่อมาเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2549[50]

เอฟ-22 แร็ปเตอร์ถึงเอฟ/เอ-22 และกลับมาเหมือนเดิม

รุ่นผลิตนั้นเดิมทีมีชื่อว่าเอฟ-22 "แร็ปเตอร์"เมื่อเครื่องบินตัวแทนผลิตแบบแรกถูกเปิดตัวเมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2540 ที่ล็อกฮีดจอร์เจีย มาเรียทต้า จอร์เจีย การบินครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2540

ในเดือนกันยายนพ.ศ. 2545 กองทัพอากาศได้เปลี่ยนชื่อแร็ปเตอร์เป็นเอฟ/เอ-22 ชื่อใหม่ซึ่งเลียนแบบเอฟ/เอ-18 ฮอร์เน็ทของกองทัพเรือถกคาดว่าจะเน้นเพิ่มความสามารถในการโจมตีภาคพื้นดินได้ตกอยู่ในการโต้เถียงในราคาที่แพงของเจ็ทชั้นยอด ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นเอฟ-22 ในวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2548 เอฟ-22เอเข้าประจำการในวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2548[51][1]

การทดสอบ

เอฟ-22 เติมเชื้อเพลิงจากเคซี-135ขณะทำการทดสอบ

การทดสอบเอฟ-22 เริ่มขึ้นเมื่อพ.ศ. 2540 และย่อลงเพื่อลดค่าใช้จ่ายในโครงการ แต่ความเสี่ยงเมื่อต้องทำการซ่อมแซม[52] สำนักงานบัญชีของสหรัฐฯ เตือนว่า "มากไปกว่านั้น เครื่องยนต์และปัญหาในการอำพรางตัวถูกเปิดเผยโดยกระทรวงกลาโหมไปเรียบร้อยแล้ว และปัญหาที่เป็นไปได้ของระบบอิเล็กทรอนิกส์และซอฟต์แวร์ เน้นย้ำความต้องการที่จะสาธิตการทำงานของระบอาวุธผ่านการทดสอบการบินก่อนที่ขณะกรรมการจะให้ทำการผลิต"[52]

แร็ปเตอร์ 4001 ถูกปลดประจำการและส่งไปที่ฐานทัพอากาศไรท์แพทเทอร์สันเพื่อนำไปทดสอบด้านความคงทน ส่วนที่ยังใช้ได้ของ 4001 จะถูกนำมาสร้างเอฟ-22 ลำใหม่ เอฟ-22 ที่พัฒนาอีกลำถูกปลดประจำการและส่งไปทำการสร้างใหม่ เครื่องบินทดสอบถูกเปลี่ยนให้เป็นแบบฝึกที่ฐานทัพอากาศทินดัลล์[53]

ในวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 รายงานถูกเผยออกถึงรายละเอียดของโครงการพร้อมกับส่วนที่เป็นไทเทเนียมของเครื่องบินซึ่งไม่เหมาะกับความร้อน ทางการยังทำการสืบสวนปัญหาซึ่งส่งผลให้ส่วนที่เป็นไทเทเนียมดังกล่าวไม่ทำงานในอุณหภูมิสูง การทำงานยังคงดำเนินการอยู่เพื่อให้มันมีอายุการใช้งานได้ตามความคาดหมาย[53]

กองบินเอฟ-22 เผชิญกับการดัดแปลงที่ฐานทัพอากาศฮิล[54] และที่ฐานทัพอากาศเอ็ดเวิร์ดใกล้กับปาร์มเดลในแคลิฟอร์เนีย

การพัฒนาล่าสุด

ในปีพ.ศ. 2549 ทีมพัฒนาแร็ปเตอร์ที่ประกอบด้วยล็อกฮีด มาร์ตินและบริษัทอื่นๆ กว่า 1,000 บริษัท รวมทั้งกองทัพอากาศสหรัฐฯ ได้ชนะรางวัลสูงสุดในวงการการบินของอเมริกา[55] กองทัพอากาศสหรัฐฯ จะได้รับเอฟ-22 ที่จะถูกแบ่งให้กับเจ็ดฝูงบิน[10]

ในการฝึกที่อลาสก้าในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2549 เอฟ-22 จำนวน 12 ลำของฝูงบินรบที่ 94 ยิงคู่ต่อสู้ตกไป 108 ลำโดยไม่มีแร็ปเตอร์ลำใดถูกยิงในการฝึกจำลองการสู้รบ[10] สองสัปดาห์ในการฝึกแร็ปเตอร์ทำคะแนนได้ 241 ลำโดยถูกยิงตกไป 2 ลำ

สิ่งที่ตามมาคือการมีส่วมร่วมครั้งแรกของแร็ปเตอร์ในการฝึกที่เรียกว่าเรดแฟลก เอฟ-22 จำนวน 14 ลำของฝูงบินรบที่ 94 ได้ทำการฝึกร่วมกับฝ่ายน้ำเงินในเรดแฟลกระหว่างวันที่ 3 กุมภาพันธ์และ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 โดยต่อกรกับเอฟ-15 และเอฟ-16 ของฝ่ายแดง มันใช้ 8 ลำในการทำภารกิจกลางวันและ 6 ลำในกลางคืน มีรายงานว่ามันได้เอาชนะเอฟ-15 และเอฟ-16 อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นไม่มีการซ่อมแซมหรือปัญหาและมีแร็ปเตอร์เพียงลำเดียวเท่านั้นที่ถูกตัดสินว่าแพ้[56] เมื่อเวลาถูกขยายเอฟ-22 ยังคงอยู่ในพื้นที่ฝึกเพื่อใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ระวังหลังให้กับฝ่ายน้ำเงิน[57]

เอฟ-22 เฝ้าดูในขณะที่เอฟ-15 อีเกิลฉีกออกไปทางซ้าย เอฟ-22 เป็นหนึ่งในเครื่องบินที่จะเข้าแทนที่เอฟ-15ซี/ดี

ในขณะพยายามบินมันนอกประเทศครั้งแรกในโอะกินะวะที่ญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 แร็ปเตอร์หกลำบินจากฐานทัพอากาศฮิกแฮม การล้มเหลวของคอมพิวเตอร์รวมทั้งการนำร่องและการสื่อสาร เครื่องบินสามารถบินกลับฮาวายโดยบินตามเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงในตอนที่อากาศดี ข้อผิดพลาดถูกแก้ไขภายใน 48 ช.ม.และเอฟ-22 ดำเนินการบินสู่ญี่ปุ่นต่อ[58]

ในปีพ.ศ. 2550 การทดสอบที่จัดโดยนอร์ทธรอป กรัมแมน ล็อกฮีด มาร์ติน และแอล-3 คอมมิวนิเคชั่นใช้ระบบเออีเอสเอ (Active Electronically Scanned Array) ของแร็ปเตอร์เป็นไว-ไฟซึ่งสามารถส่งข้อมูลด้วยความเร็ว 548 เมกะไบต์/วินาทีและรับด้วยความเร็วจิกะไบต์ ซึ่งรวดเร็วกว่าระบบลิงก์ 16 ที่ใช้โดยเครื่องบินของสหรัฐฯ และสัมพันธมิตรซึ่งส่งข้อมูลเร็วเพียง 1 เมกะไบต์/วินาที[59]

เอฟ-22เอ แร็ปเตอร์ของฝูงบินที่ 90 ได้ทำการสกัดกั้นครั้งแรกต่อเครื่องบินทิ้งระเบิดทู-95เอ็มเอส 'แบร์-เอช'ในอลาสก้าเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 นี่เป็นครั้งแรกที่เอฟ-22 ถูกเรียกให้ไปสนับสนุนภารกิจนอร์แรด[60]

ในวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2550 นายพลจอห์น ดี.ดับบลิว. คอร์เลย์แห่งกองทัพอากาศสหรัฐฯ ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าเอฟ-22 ของฝูงบินที่ 1 และฝูงบินที่ 192 ของกองกำลังรักษาดินแดนทางอากาศเวอร์จิเนียนั้นพร้อมทำงานเต็มรูปแบบ สามปีหลังจากที่แร็ปเตอร์มาถึงฐานทัพอากาศแลงลีย์[61][62] สิ่งนี้เกิดจากวันที่ 13 เมษายนถึง 19 เมษายน พ.ศ. 2551 โดยการตรวจสอบความพร้อม[63] แร็ปเตอร์สองลำแรกได้เข้าสู่ฝูงบินที่ 49 ที่ประจำการในฐานทัพอากาศฮอลโลแมนที่นิวเม็กซิโกในเวลาต่อมาเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน[64]

ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2551 เอฟ-22 ถูกจัดแสดงในงานแสดงทางอากาศประจำปี 2008 ที่กองทัพอากาศแฟร์ฟอร์ด[65] แต่งานแสดงก็ถูกยกเลิกเนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้าย อย่างไรก็ตามเอฟ-22 หนึ่งลำได้ทำการแสดงในวันแรกที่งานแสดงฟาร์นโบโรเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2551[66]

ในวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2551 เอฟ-22 ลำหนึ่งจากฝูงบินทดสอบที่ 411 ได้แสดงการเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศครั้งแรก การทดสอบเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพอากาศในการทดสอบเชื้อเพลิงใหม่ ในการทดสอบไม่มีการดัดแปลงทั้งเอฟ-22 และเคซี-135 สตราโตแทงค์เกอร์ซึ่งทำการเติมเชื้อเพลิงให้[67]

แหล่งที่มา

WikiPedia: เอฟ-22_แร็พเตอร์ http://www.naa.aero/html/awards/shwNews.cfm?newsid... http://www.airforce-magazine.com/DRArchive/Pages/2... http://www.aviationnow.com/avnow/news/channel_defe... http://www.aviationnow.com/search/AvnowSearchResul... http://www.aviationtoday.com/pressreleases/14543.h... http://www.aviationweek.com/aw/generic/story_chann... http://www.aviationweek.com/aw/generic/story_chann... http://www.bloomberg.com/apps/news?pid=20601103&si... http://money.cnn.com/news/newsfeeds/articles/djf50... http://www.cnn.com/2004/US/12/22/fighter.crash/ind...