การใช้ประโยชน์ ของ แค

ยอดอ่อนและใบอ่อนสามารถนำมาปรุงอาหารได้ เป็นสมุนไพรช่วยดับพิษร้อนถอนพิษไข้ ดอกใช้เป็นอาหาร แก้ไข้หัวลม และช่วยบำรุงอาหาร ฝักอ่อนใช้เป็นอาหารได้

การเกษตร

แคเป็นต้นไม้พื้นบ้าน เป็นไม้เนื้ออ่อน นิยมปลูกเป็นรั้วบ้าน คันนา และริมถนน ปลูกได้ในทุกพื้ที่ทั้งดินเหนียว ดินร่วน สามารถปลูกไว้ในบริเวณบ้านเพื่อปรับพื้นที่ให้มีปุ๋ย เนื่องจากใบแคที่ผุแล้วทำให้ดินอุดมสมบูรณ์ มีธาตุอาหารมากขึ้น เมื่อเมล็ดแก่จัดจะแพร่พันธุ์ด้วยเมล็ด มีอายุประมาณ 20 ปี และเจริญเติบโตได้ทุกพื้นที่ทั่วโลกในเขตร้อนชื้น

ประกอบอาหาร

ดอกแคลวกกับผักอื่นดอกแคดอกแคแดง

ส่วนที่นำมารับประทานได้ของแค คือ ยอดอ่อน ฝักอ่อนออกในช่วงฤดูฝน ใบอ่อนมีรสหวาน ดอกอ่อนออกในช่วงฤดูหนาว ดอกแคมีเส้นใยอาหาร แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก แคโรทีน วิตามินเอ วิตามินบีหนึ่ง วิตามินบีสอง และวิตามินซี ก่อนนำไปทำอาหารต้องดึงเอาเกสรออกก่อนเพื่อลดความขม ส่วนที่รับประทานได้ของแคสามารถนำไปปรุงอาหารได้หลายอย่าง อาทิ เช่น แกงส้มดอกแค แกงเหลืองปลากระพงดอกแค ดอกใบยอกฝักอ่อนของแคนำมาลวกจิ้มน้ำพริกได้ ล้วนเป็นอาหารที่มีคุณค่าให้ประโยชน์ทั้งสิ้น

ดอกแคดิบ
คุณค่าทางโภชนาการต่อ 100 กรัม (3.5 ออนซ์)
พลังงาน113 kJ (27 kcal)
6.73 g
0.04 g
1.28 g
วิตามิน
ไทอามีน (บี1)
(7%)
0.083 มก.
ไรโบเฟลวิน (บี2)
(7%)
0.081 มก.
ไนอาซิน (บี3)
(3%)
0.43 มก.
โฟเลต (บี9)
(26%)
102 μg
วิตามินซี
(88%)
73 มก.
แร่ธาตุ
แคลเซียม
(2%)
19 มก.
เหล็ก
(6%)
0.84 มก.
แมกนีเซียม
(3%)
12 มก.
ฟอสฟอรัส
(4%)
30 มก.
โพแทสเซียม
(4%)
184 มก.

ประมาณร้อยละคร่าว ๆ โดยใช้การแนะนำของสหรัฐอเมริกาสำหรับผู้ใหญ่
แหล่งที่มา: USDA Nutrient Database

ยารักษาโรค

  • นำเปลือกแคมาต้ม คั้นน้ำรับประทานแก้ท้องร่วง แก้บิด แก้มูกเลือด
  • ดอกแคช่วยแก้ไข้ลดไข้ถอนพิษไข้
  • แคยังอุดมด้วยสารต่าง ๆ โดยเฉพาะบีตา-แคโรทีนที่ร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอได้ จึงช่วยบำรุงสายตา ต่อต้านมะเร็ง และยังมีแคลเซียม ฟอสฟอรัสสูง จึงช่วยเสริมสร้างกระดูก