การรุกรานโชซ็อนของชิง กบฏสามเจ้าศักดินา สิบการทัพใหญ่ สงครามฝิ่นครั้งที่หนึ่ง สงครามฝิ่นครั้งที่สอง กบฏเมืองแมนแดนสันติ กบฏนักมวย การปฏิวัติซินไฮ่แปดกองธง (
จีน: 八旗,
พินอิน: baqí) เป็นกองกำลังทหารในยุค
ราชวงศ์ชิงใน
ประวัติศาสตร์จีน เป็นการจัดการบริหารและวางกองกำลังต่อสู้ของราชวงศ์ชิง โดยผู้ที่สถาปนากองทัพนี้ คือ
จักรพรรดินู่เอ๋อร์ฮาชื่อ (
ค.ศ. 1559-
ค.ศ. 1629) ปฐมจักรพรรดิของราชวงศ์ โดยมี
สัญลักษณ์ เป็น
ธง ที่มีสีสันต่าง ๆ แตกต่างออกไป และเป็นกำลังสำคัญในการป้องกัน
เมืองหลวง คือ
ปักกิ่งซึ่งการจัดกำลังออกเป็น 8 ส่วนนี้ จะใช้ผู้คุมกำลังเป็นผู้ที่สัมพันธ์หรือเป็นญาติกันในตระกูล
อ้ายซินเจว๋หลัว ซึ่งเป็นตระกูลของจักรพรรดิและพระญาติวงศ์ในราชวงศ์ชิง ซึ่งผู้ที่เคยเป็นผู้บังคับบัญชาแปดกองธงนี้บุคคลหนึ่ง ก็คือ อาปาไห่ หรือต่อมาก็คือ
จักรพรรดิหวงไถจี๋ (
ค.ศ. 1592-
ค.ศ. 1643) ซึ่งเป็นราชบุตรลำดับที่ 8 และได้ครองราชย์ในเวลาต่อมาโดยเริ่มจากหัวหน้า
ชนเผ่าแมนจูต่าง ๆ ที่นู๋เอ๋อร์ฮาชื่อเคยปราบมา ก่อนจะรวบรวมชาวแมนจูเป็นหนึ่งเดียวโค่น
ราชวงศ์หมิงได้สำเร็จ มีการเก็บ
ภาษีและการระดมพลก็ระดมผ่านกองธงต่าง ๆ ไล่มาจากหัวหน้าหน่วยบริหารระดับล่างขึ้นมาข้างบน ซึ่งกระบวนการนี้ช่วยลดความแตกต่างของชนเผ่าและตระกูลนอกด่านทั้งหลายไปได้มาก นั่นทำให้นายทหารผู้บังคับหมวด นายทหารผู้บังคับกอง นายทหารคุมกองพัน และระดับแม่ทัพ จะต้องทำหน้าที่เป็นทั้งผู้บริหารและทหารไปพร้อม ๆ กัน แต่ทั้งหมดอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันกับที่นู๋เอ๋อร์ฮาชื้อตราขึ้นมา และยังส่งผลต่อความสัมพันธ์ที่ดีกับ
ชาวมองโกล รวมถึง
ชาวฮั่นที่อยู่ในแถบตะวันออกด้วย ซึ่งถือได้ว่าทั้ง 3 ชนเผ่ามีส่วนร่วมในการก่อตั้งกองทัพแปดกองธงขึ้นมา จนสามารถแบ่งได้ถึง 24 กองธง เฉลี่ยกองธงละ 7,500 คน แต่เดิมที นู๋เอ๋อร์ฮาชื่อ จัดตั้งกองธง 4 กองธงโดยให้โอรสของพระองค์แบ่งกันปกครองกองธง พร้อมพระราชทาน ป้ายหินปฐมผู้แทน
จักรพรรดินู่เอ๋อร์ฮาชื่อ ซึ่งมี 4 ป้ายพระราชทานให้แก่โอรสทั้ง 4 ที่ปกครอง 4 กองธงแรก ป้ายหินผู้แทนพระองค์นี้มีความหมายในการเป็นผู้แทนของพระองค์เนื่องจากนู๋เอ๋อร์ฮาชื่อไม่สามารถดูแลกองธงได้ทั่วถึงอยู่ตลอดเวลาจึงให้โอรสของพระองค์ตัดสินพระทัยแทนได้ในเวลาคับขัน ซึ่งในปัจจุบันป้ายหินผู้แทนนู๋เอ๋อร์ฮาชื่ออยู่ในพิพิธภันฑ์ในวังต้องห้ามอยู่ 3 ป้ายและกำลังตามหาอีก 1 ป้ายแต่เดิมมี 2 ป้ายคือป้ายที่ 2 กับป้ายที่ 4 แต่ในปี 2005 เศรษฐีชาวฮ่องกงผู้ครอบครองป้ายที่ 3 นำมาประมูลซึ่งรัฐบาลจีนชนะในการประมูลไป 8,750 ล้านหยวน หรือประมาณ (35,000 ล้านบาท) ถือว่าเป็น 1 สิ่งของที่มีมูลค่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์จีน ซึ่งป้ายหินที่ 1 ของผู้แทนนู๋เอ๋อร์ฮาชื่อรัฐบาลจีนกำลังตามหาอยู่ในปัจจุบันมีความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะป้ายหินที่ 1 ผู้ครอบครององค์แรกคือ อาปาไห่ หรือ
จักรพรรดิหวงไถจี๋