จากความสำเร็จของคู่จิ้นรองในละคร My Ambulance รักฉุดใจนายฉุกเฉิน ที่ถือเป็นการแจ้งเกิดนักแสดงชุดใหม่ของนาดาวบางกอกเต็มตัว โดยเฉพาะกับ พุฒิพงศ์ และกฤษฎ์ ที่เล่นได้สมจริง ทำให้เกิดกระแสคู่จิ้น หมอเต่า-ทิวเขา จากกระแสนี้เอง นาดาวบางกอก ได้หยิบขึ้นมาต่อยอดเป็นโปรเจคพิเศษ BKPP Project ที่จะประกอบไปด้วยซีรีส์ เพลงประกอบซีรีส์ และงานพบปะสังสรรค์ เดิมทีนฤเบศวางแผนสร้างซีรีส์เป็นภาคต่อจากตัวละคร แต่ด้วยบทละครที่ทำให้ตัวละครหนึ่งเสียชีวิตไปแล้ว ทำให้ทีมพัฒนาบทไม่สามารถหาวิธีการจับคู่ขึ้นมาใหม่ได้ ทำให้นฤเบศตัดสินใจเขียนบทใหม่ทั้งหมด โดยมี อรัชพร โภคินพากร และทีมเขียนบทละครมาร่วมเขียนบท โดยใช้ชีวิตจริงของ พุฒิพงศ์ และกฤษฎ์ เป็นเค้าโครงต้นแบบ

แปลรักฉันด้วยใจเธอเป็นละครชุดที่มีทั้งหมด 5 ตอนประกอบไปด้วย ตอนที่ 1 ชื่อตอน ความรักดั่งเกลียวคลื่น, ตอนที่ 2 ชื่อตอน ชิดใกล้ใช่ครอบครอง, ตอนที่ 3 ชื่อตอน เริ่มรักที่รักแรก, ตอนที่ 4 ชื่อตอน ห้วงรักดุจเหวลึก และ ตอนที่ 5 ชื่อตอน ตะวันลาไม่เปลี่ยนทิศ

ในส่วนของสถานที่ ได้มีการถ่ายทำที่จังหวัดภูเก็ตเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น โกปี๊เตี่ยม, ศาลเจ้าแสงธรรม หรือ อ๊ามเตงก่องต๋อง (定光堂), โรงเรียนสตรีภูเก็ต[4], หาดยะนุ้ย ซึ่งคือหาดที่โอ้เอ๋วและเต๋มาตั้งแต่เด็ก[5] และ แหลมพรหมเทพ โดยใช้เวลาถ่ายทำประมาณ 2 เดือน[6] และทำพิธีบวงสรวงเปิดกล้องเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2563[7][8] ก่อนมีงานแถลงข่าวเปิดตัวเมื่อที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2563 ณ โซนอี ชั้น 1 เซ็นทรัลเวิลด์[9][10]

แปลรักฉันด้วยใจเธอ มีการจัดงาน แปลรักฉันด้วยใจเธอ เต๋ โอ้เอ๋ว Fan Meeting ในวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 ณ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ มีทั้งหมด 2 รอบการแสดงคือเวลา 14:00 และ 19:00

หลังจากประกาศว่าจะมี แปลรักฉันด้วยใจเธอ ภาค 2 ในวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2564 ในตอนจบของตอนที่ 5[11] นาดาวบางกอกกับไลน์ทีวีก็จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว แปลรักฉันด้วยใจเธอ ภาค 2 ในวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 ที่ Fantopia Mini Stage ณ ชาเลนเจอร์ 1 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี[12]