อาชีพ ของ แอนโทนี_มิงเกลลา

งานชิ้นแรกที่สร้างเป็นงานละครเวทีที่แปลงมาจากหนังสือ Mobius the Stripper โดยเกเบรียล โจซิโพวิซิ เมื่อปี ค.ศ. 1975 แต่งานชิ้นที่ทำให้มิงเกลลาเป็นที่รู้จักเป็นครั้งแรกในฐานะผู้สร้างคืองานที่สร้างจากนวนิยายเรื่อง Whale Music โดยนักประพันธ์ชาวแคนาดา พอล ควอร์ริงตัน[1] งานชิ้นแรกในฐานะผู้กำกับเป็นงานสองชิ้นที่สร้างจากบทละครของซามูเอล เบคเคทท์ เรื่อง Play และ Happy Days ระหว่างคริสต์ทศศวรรษ 1980 มิงเกลลาสร้างละครสำหรับโทรทัศน์เริ่มด้วยรายการต่อเนื่อง Magpie ก่อนที่จะมาเป็นผู้แก้บทละครดรามาต่อเนื่องสำหรับเด็กเรื่อง Grange Hill ให้แก่บีบีซี และต่อมาเขียนเรื่อง The Storyteller ซึ่งเป็นรายการต่อเนื่องของจิม เฮ็นสันนักเล่นหุ่นผู้มีชื่อเสียงของสหรัฐอเมริกา นอกจากนั้นมิงเกลลาเขียนบางเอพิโซดให้กับ Inspector Morse สำหรับ ไอทีวี ละครเรื่อง Made in Bangkok ที่แสดงที่โรงละครเวสท์เอ็นด์เมื่อปี ค.ศ. 1986 ได้รับความสำเร็จในวงการ

งานกำกับเรื่อง Truly, Madly, Deeply สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1990 สร้างสำหรับรายการชุด Screen Two ของบีบีซีเป็นงานที่สร้างดีเด่นจนสามารถจำหน่ายเป็นภาพยนตร์โดยทั่วไป ในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้มิงเกลลาต้องบอกเลิกงานเขียนเอพิโซดให้กับ “นักสืบมอร์ส” ซึ่งขณะนั้นมิงเกลลาคิดว่าจะเป็นงานที่ทำให้ได้รับการประชาสัมพันธ์มากกว่า

ในปี ค.ศ. 1996 มิงเกลลาได้รับรางวัลออสการ์ในฐานะผู้กำกับการแสดงดีเด่นประจำปีสำหรับภาพยนตร์เรื่อง The English Patient ซึ่งมิงเกลลาแปลงมาจากนวนิยายชื่อเดียวกันที่ได้รับรางวัลแมนบุคเคอร์ไพรซ์สำหรับหนังสือดีเด่นประจำปี ที่เขียนโดยไมเคิล ออนดัทเจ (Michael Ondaatje) นักเขียนชาวศรีลังกา-คานาดา ในปี ค.ศ. 1999 มิงเกลลาได้รับการเสนอชื่อสำหรับรางวัลผู้แปลงบทภาพยนตร์ดีเด่นของรางวัลออสการ์ในเรื่อง The Talented Mr. Ripley จากนวนิยายที่เขียนโดยแพทริเชีย ไฮสมิธ (Patricia Highsmith)

มิงเกลลาเพิ่งสร้างภาพยนตร์สำหรับโทรทัศน์บีบีซึเรื่อง The No. 1 Ladies Detective Agency จากนวนิยายที่เขียนโดย อเล็กซานเดอร์ แม็คคอล สมิธ โดยมีจิล สก็อตต์แสดงเป็นเพรชเชียส รามทสเว ซึ่งจะออกอากาศภายในอาทิตย์เดึยวกับที่มิงเกลลาเสียชืวิต

มิงเกลลาสนับสนุนภาพยนตร์เรื่อง I Know I'm Not Alone ที่สร้างโดยนักดนตรีไมเคิล แฟรนติ (Michael Franti) เกึ่ยวกับการเดินทางเพื่อไปแสวงหาสันติภาพที่ประเทศอิรัก, ดินแดนปาเลสไตน์ และ ประเทศอิสราเอล

ในปี ค.ศ. 2005 มิงเกลลากำกับภาพยนตร์สั้นสำหรับการประชุมพรรคการเมืองประจำปีของพรรคแรงงาน ที่แสดงความร่วมมือในการทำงานระหว่างโทนี แบลร์ และ กอร์ดอน บราวน์ แต่ถูกกล่าวหาว่าเป็นภาพพจน์ที่ผิดความจริงโดยปีเตอร์ คอลเล็ทท์จิตแพทย์จากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ผู้กล่าวว่า “ถ้าคุณพูดกับผม, พบจะแสดงความสนใจเต็มที่ในเมื่อคุณมีตำแหน่งเหนือกว่าผมหรือผมชื่นชมคุณ ในภาพยนตร์การเมืองสั้น(ของมิงเกลลา) ทั้งสองคนมองตากันราวกับคนรัก ซึ่งผิดความจริงโดยสิ้นเชิง”[2]

มิงเกลลากำกับละครโอเปร่าเป็นครั้งแรกในเรื่อง “มาดามบัตเตอร์ฟลาย” โดย จาโกโม ปุชชีนี ที่แสดงครั้งแรกที่โรงละครโอเปร่าแห่งชาติอังกฤษที่ลอนดอนเมื่อปี ค.ศ. 2005, ที่โรงละครโอเปร่าและบัลเล่ต์แห่งชาติลิธูเอเนียที่วิเนียสในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2006 และที่เมโทรโปลิตันโอเปร่าที่นครนิวยอร์กในเดือนกันยายนปีเดียวกัน ไอล์ออฟไวท์ตั้งชื่อโรงละครแอนโทนี มิงเกลลาเพื่อเป็นเกียรติแก่มิงเกลลา นอกจากนั้นมิงเกลลายังปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่อง Atonement โดยแสดงเป็นพิธีกรโทรทัศน์ผู้สัมภาษณ์นักประพันธ์ผู้เป็นตัวละครสำคัญในภาพยนตร์

แหล่งที่มา

WikiPedia: แอนโทนี_มิงเกลลา http://www.imdb.com/name/nm0005237/ http://www.nytimes.com/2008/03/18/movies/18cnd-min... http://www.nytimes.com/2008/03/19/movies/19minghel... http://archive.is/20130103030901/http://www.hollyw... http://news.bbc.co.uk/1/hi/entertainment/7302913.s... http://www.guardian.co.uk/uk/2008/mar/18/filmnews.... http://www.independent.co.uk/arts-entertainment/fi... http://www.lastingtribute.co.uk/tribute/minghella/... http://www.timesonline.co.uk/tol/comment/obituarie... http://www.timesonline.co.uk/tol/news/politics/art...