ปฐมวัย ของ โทกูงาวะ_โยชิโนบุ

โทกูงาวะ โยชิโนบุ ในวัยเด็ก (ขณะนั้นใช้ชื่อว่า "มะสึไดระ ชิจิโรมะ")

โทกูงาวะ โยชิโนบุ เกิดอยู่ที่นครเอโดะ (โตเกียว) โดยเป็นบุตรคนที่ 7 ของโทกูงาวะ นาริอากิ ไดเมียวแห่งแคว้นมิโตะ ซึ่งแคว้นนี้นับเป็น 1 ใน 3 สายตระกูลสำคัญของตระกูลโทกูงาวะ (โกะซังเคะ) ซึ่งมีสิทธิ์ที่จะได้รับเลือกให้ขึ้นสืบทอดตำแหน่งโชกุน

เมื่อแรกเกิดนั้น โยชิโนบุใช้ชื่อว่า "มะสึไดระ ชิจิโรมะ"[1] และได้รับการอบรมเลี้ยงดูให้นิยมการทหารอย่างเข้มงวด[2] เขาได้รับการสั่งสอนในวิชาอักษรศาสตร์และศิลปะการป้องกันตัว ตลอดจนถึงการศึกษาหลักวิชารัฐศาสตร์และการปกครองตามธรรมเนียมดั้งเดิม[3]

ด้วยการส่งเสริมของผู้เป็นบิดา ชิจิโรมะจึงได้รับการยอมรับเป็นบุตรบุญธรรมของสายตระกูลฮิโตะสึบาชิ อันเป็นตระกูลสำคัญหนึ่งตระกูลหนึ่งของตระกูลโทกูงาวะ เพื่อให้มีโอกาสที่จะได้รับเลือกให้สืบทอดตำแหน่งโชกุนได้มากยิ่งขึ้น[4] เขาได้อยู่ในตำแหน่งของผู้นำตระกูลในปีค.ศ. 1847 พร้อมทั้งได้รับยศและราชทินนามจากราชสำนัก และไดรับการเปลี่ยนชื่อเป็น "โยชิโนบุ"[5] ต่อมาเมื่อโทกูงาวะ อิเอซาดะ โชกุนลำดับที่ 13 ได้เสียชีวิตลงในปีค.ศ. 1858 โยชิโนบุจึงได้ถูกเสนอชื่อในฐานะของผู้สืบทอดผู้มีศักยภาพในการดำรงตำแหน่งดังกล่าว[6] ซึ่งบรรดาผู้สนับสนุนของเขาถูกโน้มน้าวใจด้วยความสามารถและประสิทธิภาพในการจัดการเกี่ยวกับกิจการต่างๆ ภายในตระกูล อย่างไรก็ตาม ฝ่ายตรงการข้ามภายใต้การนำของอี นะโอะสุเกะ กลับเป็นฝ่ายชนะ โทกูงาวะ โยะชิโตะมิ ซึ่งเป็นผู้ถูกเสนอชื่อของฝ่ายดังกล่าวได้ถูกเลือกให้ดำรงตำแหน่งโชกุนคนที่ 14 ในชื่อ โทกูงาวะ อิเอโมจิ[7] หลังจากนั้นไม่นาน ขณะที่กำลังเกิดการกวาดล้างศักราชอันเซ โยชิโนบุพร้อมทั้งบรรดาผู้สนับสนุนก็ถูกลงโทษด้วยการกักตัวในบ้านพักประจำแคว้นที่นครเอโดะ[8] ตัวโยชิโนบุเองก็ถูกถอดจากฐานะผู้นำของตระกูลฮิโตะสึบาชิด้วย

ยุคแห่งการสำเร็จราชการแทนโชกุนของไทโร อี นะโอะสุเกะ เป็นที่จดจำจากการบริหารนโยบายที่ผิดพลาดและการต่อสู้ทางการเมืองอย่างดุเดือด หลังการลอบสังหารอีที่ประตูซะกุระดะในปีค.ศ. 1860 โยชิโนบุก็ได้รับคืนฐานะผู้นำตระกูลฮิโตะสึบาชิอีกครั้ง และได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้ดูแลโชกุน (ญี่ปุ่น: 将軍後見職 โรมาจิshōgun atomi-shoku ทับศัพท์โชงุง อะโตะมิ-โชะคุ) ในปีค.ศ. 1862 และได้รับการแต่งตั้งภายในระยะเวลาอันสั้น[9] ในช่วงเวลาเดียวกันนั้เอง พันธมิตรที่ใกล้ชิดโยชิโนบุ 2 คน คือ มะสึไดระ โยะชินะงะ และมะสึไดระ คะตะโมะริ ก็ได้รับการแต่งตั้งให้อยู่ในตำแหน่งระดับสูงเช่นกัน โดยโยะชินะงะได้เป็นหัวหน้าฝ่ายกิจการการเมือง (ญี่ปุ่น: 政治総裁職 โรมาจิseiji sōsai shoku ทับศัพท์เซญิ โซไซ โชะคุ) ,[10] ส่วนคะตะโมะริอยู่ในตำแหน่งผู้พิทักษ์พระนครเกียวโต (ญี่ปุ่น: 京都守護職 โรมาจิKyoto Shugoshoku ทับศัพท์เกียวโตชุโงะโชะคุ) .[11] ในเวลาต่อมาบุรุษทั้งสามนี้ ได้มีบทบาทอย่างยิ่งในการปราบปรามเหตุไม่สงบทางการเมืองในกรุงเกียวโต และรวบรวมพันธมิตรต่างๆ เพื่อต่อต้านกิจกรรมของฝ่ายกบฏจากแคว้นโจชู นอกจากนี้ทั้งสามยังเป็นบุคคลสำคัญในกลุ่มการเมืองแนวทาง "โคบุ-กัตไต" (ประสานราชสำนักกับรัฐบาล) ซึ่งพยายามหาทางทำให้ราชสำนักกับรัฐบาลโชกุนปรองดองกันด้วยการแต่งงานทางการเมือง[12]

ในปีค.ศ. 1864 โยชิโนบุในฐานะผู้บัญชาการกองทหารล้อมวัง ประสบความสำเร็จในการขับไล่กองกำลังของแคว้นโจชูซึ่งพยายามยึดครองประตูฮะมะงุริของพระราชวังหลวงที่เกียวโต ปฏิบัติการดังกล่าวสำเร็จลงได้ด้วยการใช้กำลังทหารจากพันธมิตรระหว่างแคว้นไอสึกับแคว้นซัตสึมะ[13]

ใกล้เคียง

โทกูงาวะ อิเอยาซุ โทกูงาวะ โยชิโนบุ โทกูงาวะ ฮิเดตาดะ โทกูงาวะ อิเอมิตสึ โทกูงาวะ โยชิมูเนะ โทกูงาวะ สึนาโยชิ โทกูงาวะ อิเอนาริ โทกูงาวะ อิเอ็ตสึนะ โทกูงาวะ อิเอโยชิ โทกูงาวะ สึเนนาริ

แหล่งที่มา

WikiPedia: โทกูงาวะ_โยชิโนบุ http://books.google.com/books?id=DoBzAAAAIAAJ http://catalogue.bnf.fr/ark:/12148/cb149774324 http://data.bnf.fr/ark:/12148/cb149774324 http://www.idref.fr/08295495X http://id.loc.gov/authorities/names/n82056460 http://d-nb.info/gnd/119021242 http://id.ndl.go.jp/auth/ndlna/00084688 http://www.pref.ibaraki.jp/bukyoku/seikan/kokuko/e... http://isni-url.oclc.nl/isni/000000008262356X //www.worldcat.org/identities/lccn-n82-056460