ชนิดของไข้รากสาดใหญ่ ของ ไข้รากสาดใหญ่

ไข้รากสาดใหญ่ชนิดระบาด

ไข้รากสาดใหญ่ชนิดระบาด (Epidemic typhus หรืออาจเรียกว่า "Camp Fever", "Jail Fever", "Hospital Fever", "Ship Fever", "Famine Fever", "Petechial Fever", หรือ "louse-borne typhus"[1]) มักเกิดการระบาดหลังจากสงครามหรือภัยพิบัติ เชื้อก่อโรคคือ Rickettsia prowazekii ซึ่งติดต่อผ่านทางเหาตัว (body louse; Pediculus humanus corporis) [2][3]ที่เจริญบนตัวของผู้ติดเชื้อ เชื้อแบคทีเรีย R. prowazekii จะเติบโตในทางเดินอาหารของเหาและถูกขับถ่ายออกมาทางมูล และติดต่อไปยังอีกคนหนึ่งเมื่อเกา (จากการถูกเหากัดและคัน) และมูลของเหาเข้าไปในแผล ระยะฟักตัวประมาณ 1-2 สัปดาห์ เชื้อแบคทีเรีย R. prowazekii สามารถมีชีวิตและสามารถแพร่กระจายเชื้ออยู่ได้ในมูลเหาเป็นเวลาหลายวัน ไข้รากสาดใหญ่สามารถทำให้เหาตายได้ แต่เชื้อก็ยังมีชีวิตอยู่ในซากเหาได้อีกเป็นเวลานานหลายสัปดาห์

อาการของโรคนี้คือปวดศีรษะอย่างรุนแรง ไข้สูงลอย ไอ มีผื่น ปวดกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง หนาวสั่น ความดันโลหิตตกลง ซึม ไวต่อแสง และเพ้อ ผื่นจะเริ่มปรากฏบนหน้าอกประมาณ 5 วันหลังจากมีไข้และกระจายไปตามลำตัวและแขนขา แต่ไม่ลามถึงใบหน้า ฝ่ามือและฝ่าเท้า อาการทั่วไปในโรคไข้รากสาดใหญ่ทุกชนิดคือมีไข้ซึ่งอาจสูงถึง 39°C (102°F)

การรักษาการติดเชื้อทำโดยการให้ยาปฏิชีวนะ ส่วนการให้ของเหลวทางหลอดเลือดดำและออกซิเจนอาจพิจารณาเพื่อประคับประคองผู้ป่วย อัตราการเสียชีวิตของโรคนี้ประมาณ 10% ถึง 60% แต่อาจลดลงอย่างรวดเร็วหากใช้ยาปฏิชีวนะ เช่นเตตราไซคลีน (tetracycline) แต่เนิ่นๆ การป้องกันการติดเชื้ออาจใช้วัคซีน

โรคบริลล์-ซินสเซอร์ (Brill-Zinsser disease) ค้นพบโดยนาธาน บริลล์ (Nathan Brill) ในปี ค.ศ. 1913 เป็นลักษณะหนึ่งของไข้รากสาดใหญ่ชนิดระบาดที่มีความรุนแรงต่ำ ซึ่งเกิดซ้ำหลังจากอาการแสดงของโรคครั้งแรกหายไปแล้ว (หลังระยะแฝงที่ยาวนาน) (ในลักษณะเดียวกันกับความสัมพันธ์ระหว่างอีสุกอีใสและงูสวัด) การอุบัติซ้ำในลักษณะนี้สามารถเกิดในผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต่ำ

ไข้รากสาดใหญ่ชนิดระบาดพบได้บ่อยระหว่างสงครามหรือภาวะทุพภิกขภัย เช่น การระบาดของโรคไข้รากสาดใหญ่ในค่ายกักกันของนาซีเยอรมนีระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งมีผู้เสียชีวิตหลายพันคนเนื่องจากมีสุขภาวะที่ย่ำแย่ก่อให้เกิดการระบาดของโรคหลายชนิด ส่วนการระบาดที่พบในคริสต์ศตวรรษที่ 21 น่าจะเกิดจากค่ายผู้ลี้ภัยในภาวะอดอยากหรือมีภัยพิบัติทางธรรมชาติ

ไข้รากสาดใหญ่ประจำถิ่น

ไข้รากสาดใหญ่ประจำถิ่น (Endemic typhus หรืออาจเรียกว่า "ไข้รากสาดใหญ่จากหมัด" (flea-borne typhus) และ "ไข้รากสาดใหญ่จากหนู" (murine typhusor)) เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Rickettsia typhi และติดต่อผ่านทางหมัด (flea) ที่กัดหนู[4] ในบางครั้งไข้รากสาดใหญ่ประจำถิ่นอาจเกิดจากเชื้อ Rickettsia felis และติดต่อผ่านทางหมัดที่อาศัยบนแมวหรือโอพอสซัม

อาการของไข้รากสาดใหญ่ประจำถิ่นได้แก่ปวดศีรษะ มีไข้ หนาวสั่น ปวดกล้ามเนื้อ คลื่นไส้ อาเจียนและไอ ไข้รากสาดชนิดนี้สามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ[4] และมักกลับมาหายเป็นปกติ แต่อาจพบการเสียชีวิตในผู้สูงอายุ พิการอย่างรุนแรง หรือภูมิคุ้มกันต่ำกว่าปกติ อาการแสดงอาจคล้ายกับหัด หัดเยอรมัน หรือ Rocky Mountain spotted fever[5]

ไข้รากสาดใหญ่จากป่าละเมาะ

ไข้รากสาดใหญ่จากป่าละเมาะ หรือ สครับไทฟัส (Scrub typhus หรืออาจเรียกว่า "ไข้รากสาดใหญ่จากไรอ่อน" (chigger-borne typhus)) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชื่อว่า Orientia tsutsugamushi ซึ่งมีพาหะนำโรคคือไรอ่อน (chigger) ซึ่งพบมากตามป่าละเมาะ โรคไข้รากสาดใหญ่ชนิดนี้รู้จักในญี่ปุ่นในชื่อ "โรคซัทสึกามูชิ" (tsutsugamushi disease) และพบความชุกของโรคในมาเลเซียและออสเตรเลีย ชายแดนไทย-พม่า พบการระบาดของโรคนี้อย่างรุนแรงในกองทหารในพม่าและศรีลังการะหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง[6]

อาการของไข้รากสาดใหญ่จากป่าละเมาะได้แก่มีไข้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ไอ และมีอาการในระบบทางเดินอาหาร สายพันธุ์ของเชื้อ O. tsutsugamushi ที่รุนแรงอาจทำให้มีเลือดออกและเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือด (intravascular coagulation) การสัมผัสกับไรอ่อนซึ่งพบได้ทั่วไปทุกภูมิภาคของโลกอาจทำให้เกิดการระคายเคืองของผิวหนัง

แหล่งที่มา

WikiPedia: ไข้รากสาดใหญ่ http://www.diseasesdatabase.com/ddb29240.htm http://www.emedicine.com/med/topic2332.htm http://www.icd9data.com/getICD9Code.ashx?icd9=080 http://www.icd9data.com/getICD9Code.ashx?icd9=083 http://www.nature.com/nature/journal/v396/n6707/fu... http://www.sedgleymanor.com/diseases/diseases_p-t.... http://www.nlm.nih.gov/cgi/mesh/2020/MB_cgi?field=... http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/00... http://apps.who.int/classifications/icd10/browse/2... http://www.dshs.state.tx.us/idcu/disease/murine_ty...