ระบาดวิทยา ของ ไข้รูมาติก

Disability-adjusted life year ของโรคหัวใจรูมาติกต่อประชากร 100,000 ในปี ค.ศ. 2004[12]
  ไม่มีข้อมูล
  <20
  20-40
  40-60
  60-80
  80-100
  100-120
  120-140
  140-160
  160-180
  180-200
  200-330
  >330

ไข้รูมาติกเป็นโรคที่พบบ่อยทั่วโลกและเป็นสาเหตุของการเสียหายของลิ้นหัวใจในผู้ป่วยหลายราย ในประเทศตะวันตกพบว่าโรคนี้พบได้น้อยลงตั้งแต่ทศวรรษที่ 1960 อาจเป็นจากการใช้ยาปฏิชีวนะกันอย่างแพร่หลายเพื่อรักษาการติดเชื้อสเตร็ปโตค็อกคัส ในขณะที่โรคนี้ค่อนข้างพบได้ไม่บ่อยในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา แต่ปรากฏว่ามีการระบาดช่วงสั้นๆ ในทศวรรษที่ 1980 แม้ว่าโรคนี้จะเกิดได้ไม่บ่อยแต่ก็มีความรุนแรงและมีอัตราเสียชีวิตถึงร้อยละ 2-5[13]

ไข้รูมาติกมักเกิดกับเด็กอายุระหว่าง 5-15 ปี และเกิดหลังจากการติดเชื้อสเตร็ปโตค็อกคัสที่คอประมาณ 20 วัน ราวหนึ่งในสามของผู้ป่วยอาจไม่แสดงอาการของการติดเชื้อสเตร็ปโตค็อกคัสล่วงหน้ามาก่อน

อัตราการเป็นไข้รูมาติกในผู้ป่วยที่ติดเชื้อสเตร็ปโตค็อกคัสแล้วไม่ได้รักษาประมาณร้อยละ 3 อุบัติการณ์ของการกลับเป็นซ้ำของผู้ป่วยที่ไม่ได้รักษาการติดเชื้อค่อนข้างสูงมาก (ประมาณร้อยละ 50%) [14] อัตราของการเป็นโรคในผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะค่อนข้างต่ำ ผู้ป่วยที่เคยเป็นไข้รูมาติกมีแนวโน้มที่จะกลับมาเป็นซ้ำหลังจากมีการติดเชื้อสเตร็ปโตค็อกคัสซ้ำ

การกลับมาเป็นโรคไข้รูมาติกซ้ำจะพบได้บ่อยในผู้ที่ไม่ได้รับยาปฏิชีวนะขนาดต่ำเพื่อควบคุมอาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 3-5 ปีแรกภายหลังจากการติดเชื้อครั้งแรก และภาวะแทรกซ้อนเกี่ยวกับหัวใจอาจเกิดในระยะยาวและรุนแรงโดยเฉพาะหากมีรอยโรคที่ลิ้นหัวใจด้วย

ผู้ที่หายจากไข้รูมาติกมักต้องได้รับยาเพนิซิลลินเพื่อป้องกันการติดเชื้อสเตร็ปโตค็อกคัสซึ่งอาจทำให้เป็นไข้รูมาติกซ้ำและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

แหล่งที่มา

WikiPedia: ไข้รูมาติก http://www.diseasesdatabase.com/ddb11487.htm http://www.doctordek.com/index.php?option=com_cont... http://www.emedicine.com/emerg/topic509.htm http://www.emedicine.com/med/topic2922.htm http://www.emedicine.com/med/topic3435.htm http://www.emedicine.com/ped/topic2006.htm http://www.icd9data.com/getICD9Code.ashx?icd9=390 http://www.icd9data.com/getICD9Code.ashx?icd9=392 http://mc.lifehugger.com/moc/289/rheumatic-fever-d... http://www.robbinspathology.com/