ไทลาซีน (
อังกฤษ: Thylacine;
ชื่อวิทยาศาสตร์: Thylacinus cynocephalus; มาจาก
ภาษากรีก แปลว่า "มีหัวเหมือน
สุนัขและมีกระเป๋าหน้าท้อง") หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ
เสือแทสเมเนีย หรือ
หมาป่าแทสมาเนีย (Tasmanian tiger, Tasmanian wolf) เนื่องจากมีลายทางที่หลังคล้าย
เสือ และลักษณะคล้าย
หมาป่าหรือสุนัข มีฟันแหลมคม และสามารถยืนด้วยสองขาหลังได้เหมือน
จิงโจ้ ในอดีตไทลาซีนเคยเป็น
สัตว์มีกระเป๋าหน้าท้องประเภท
กินเนื้อที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีถิ่นฐานอยู่ใน
ออสเตรเลีย รัฐแทสเมเนีย และ
นิวกินีไทลาซีน
สูญพันธุ์ในคริสต์ศตวรรษที่ 20 โดยมีบันทึกไว้ว่า ไทลาซีนตัวสุดท้ายที่สวนสัตว์
โฮบาร์ต ชื่อ "เบนจามิน" ได้ตายลงเมื่อวันที่
7 กันยายน ค.ศ. 1936 เนื่องจากถูกละเลย ขาดการดูแลรักษา และถูกประกาศสถานะสูญพันธุ์โดย
IUCN ในปี ค.ศ. 1982 และโดยรัฐบาลท้องถิ่นของ
รัฐแทสเมเนียในปี ค.ศ. 1986หลังจากไทลาซีนสูญพันธุ์ มาร์ซูเปียลกินเนื้อที่มีขนาดใหญ่ที่สุด คือ
แทสเมเนียนเดวิล ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1999 เป็นต้นมา นักวิทยาศาสตร์ได้จัดตั้งโครงการรวบรวมตัวอย่างทางพันธุกรรมจากไทลาซีนที่ถูกสตัฟไว้ทั่วโลก เพื่อหาหนทางที่จะทำ
การโคลนนิงไทลาซีนให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
[3]โดยไทลาซีน เชื่อว่าสูญพันธุ์ไปอย่างแน่นอนจากผืนแผ่นดินใหญ่ของออสเตรเลียราว 3,000 ปีก่อน ก่อนที่ชาวตะวันตกจะมาบุกเบิกดินแดน ก่อนที่จะสูญพันธุ์ต่อมาในพื้นที่ที่เป็นเกาะ โดยสาเหตุของการสูญพันธุ์เดิมเชื่อว่า เกิดจากการล่าของมนุษย์ เนื่องจากเป็นสัตว์ที่คุกคามบรรดา
ปศุสัตว์ แต่ทว่าข้อมูลล่าสุดของนักวิทยาศาสตร์ จาก
มหาวิทยาลัยแอดิเลด ที่ได้ทำการศึกษาด้วยวิธีการสกัด
ดีเอ็นเอจากซากดึกดำบรรพ์ โดยสร้างลำดับ 51 ดีเอ็นเอ พบว่าแท้ที่จริงแล้ว ไทลาซีนอาจแบ่งออกได้เป็นสอง
ชนิดย่อย คือ ชนิดตะวันออก และชนิดตะวันตก ที่พบทางตอนใต้ของออสเตรเลีย ก่อนสิ้นสุด
ยุคน้ำแข็งเมื่อ 25,000 ปีก่อน เพราะสภาพอากาศที่รุนแรงและภัยแล้งจากภาวะ
เอลนิโญเมื่อ 4,000 ปีก่อน ที่ส่งผลให้บรรดาสัตว์ต่าง ๆ บนผืนแผ่นดินใหญ่ทยอยกันสูญพันธุ์เมื่อ 3,000 ปีก่อน ซึ่งนี่น่าจะเป็นสาเหตุของการสูญพันธุ์ของไทลาซีนมากกว่าการล่าของชาวท้องถิ่น โรคระบาด หรือการผสมข้ามสายพันธุ์ที่ทำให้ความหลากหลายทางพันธุกรรมสูญเสียไปเสียอีก
[4]ในปลายปี ค.ศ. 2016 ได้มีการเผยแพร่ภาพจากกล้องติดตามสัตว์ป่าของคณะนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่ง ที่ทำการติดตั้งไว้ในพุ่มไม้ในเขตป่าของ
รัฐวิกตอเรีย ทางตอนใต้ของออสเตรเลีย ปรากฏเห็นภาพของสัตว์ตัวหนึ่งที่มีรูปร่างเหมือนหมาป่าหรือสุนัข แต่มีส่วนหางแข็งตรงเหมือนลักษณะของไทลาซีน จึงอาจยืนยันได้ว่าไทลาซีนยังมิได้สูญพันธุ์ แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมมากกว่านี้
[5] แต่ทว่าก็มีพยานพบเห็นอีกหลายราย เช่นที่ ตอนเหนือของ
รัฐควีนส์แลนด์ แต่ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าคือ ไทลาซีนจริง ๆ ดังนั้นทาง
มหาวิทยาลัยเจมส์คุก จึงได้มีโครงการตามหาการมีอยู่จริงของไทลาซีนขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน ค.ศ. 2017
[6]