ไฮน์ริช_ฮิมเลอร์
ไฮน์ริช_ฮิมเลอร์

ไฮน์ริช_ฮิมเลอร์

ไฮน์ริช ลูอิทพ็อลท์ ฮิมเลอร์ (เยอรมัน: Heinrich Luitpold Himmler) เป็นหนึ่งในผู้นำพรรคนาซีในเยอรมนี และเป็น ไรชส์ฟือเรอร์-เอ็สเอ็ส ของหน่วย ชุทซ์ชตัฟเฟิล (เอ็สเอ็ส) รับผิดชอบด้านการคุมกำลังหน่วยวัฟเฟิน-เอ็สเอ็สทั้งหมดในไรช์ เขาเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในไรช์ และเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงในการทำฮอโลคอสต์ชาวยิว[2][3][4]ฮิมเลอร์เกิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ค.ศ. 1900 ในครอบครัวคาทอลิกชนชั้นกลางในเมืองมิวนิก เป็นบุตรคนที่สองในบ้าน มีบิดาเป็นครูในราชสำนักบาวาเรียและมีมารดาผู้เคร่งศาสนา[5][6] ฮิมเลอร์เข้าเรียนในโรงเรียนที่เมืองลันทซ์ฮูทซึ่งบิดาเป็นรองครูใหญ่อยู่ที่นั่น เขาเป็นเด็กที่เรียนหนังสือเก่งแต่กลับมีสุขภาพไม่ดี เขาป่วยเกี่ยวกับกระเพาะอาหารและมีอาการป่วยอื่น ๆ ร่วม ในวัยเด็กเขาพยายามออกกำลังกายทุกวันเพื่อหวังจะแข็งแรงขึ้น เขามีภาพลักษณ์ในวัยเด็กเป็นเด็กเรียนที่ไม่ค่อยเข้าสังคม[7]ฮิมเลอร์เคยรับใช้จักรวรรดิเยอรมันโดยการเป็นทหารในกองพันสำรองในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง หลังจากนั้นก็เข้าศึกษาด้านปฐพีวิทยา และเข้าร่วมกับพรรคนาซีใน ค.ศ. 1923 เมื่อพรรคนาซีล้มเหลวในการทำรัฐประหารโรงเบียร์ ฮิตเลอร์และบรรดาผู้นำของพรรคนาซีต่างถูกรัฐบาลจับกุมและต้องโทษจำคุก ฮิมเลอร์รอดคุกมาได้เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ หลังพรรคนาซีเริ่มมีอำนาจ ในปี ค.ศ. 1929 ฮิตเลอร์ก็แต่งตั้งให้เขาเป็น ไรชส์ฟือเรอร์-เอ็สเอ็ส โดยตลอด 16 ปีที่เขาดำรงตำแหน่งนี้ เขาได้ทำให้หน่วยเอ็สเอ็สมีกำลังพลเพิ่มขึ้น จาก 290 นายเป็นกว่าล้านนาย เขาจัดตั้งค่ายกักกันนาซีตามคำสั่งของฮิตเลอร์ เขามีทักษะในการบริหารองค์กรและคัดเลือกคนเก่ง ๆเข้ามาทำงาน อาทิ ไรน์ฮาร์ด ฮายดริช เป็นต้น ในปีค.ศ. 1943 ฮิมเลอร์ได้ดำรงตำแหน่งควบทั้งผู้บัญชาการตำรวจและรัฐมนตรีมหาดไทย คอยควบคุมดูแลหน่วยรักษาความสงบเรียบร้อยและกำลังตำรวจทั้งหมดในไรช์ รวมถึงหน่วย เกสตาโพ (ตำรวจลับ)ฮิมเลอร์มีความสนใจในด้านโหราศาสตร์และสิ่งลี้ลับ[8] เขาได้ก่อตั้งองค์กร อาเนินแอร์เบอ (Ahnenerbe) เพื่อทำการวิจัยเกี่ยวกับพันธุ์ศาสตร์, ภูมิศาสตร์การเมือง, นิรุกติศาสตร์, มานุษยวิทยา, ประวัติศาสตร์, โบราณคดี, เทพนิยาย ตลอดจนเวทมนตร์คาถา ฮิมเลอร์มุ่งหวังใช้ผลการวิจัยเป็นเครื่องมือสนับสนุนลัทธิเชื้อชาติอารยันอันสูงส่ง มีการส่งหน่วยเพื่อสืบเสาะตามหาวัตถุในตำนานต่าง ๆ อาทิ หีบแห่งพันธสัญญา, ทวนศักดิ์สิทธิ์, จอกศักดิ์สิทธิ์[8]ฮิมเลอร์ยังได้จัดตั้งหน่วย ไอน์ซัทซกรุพเพน ในนามของฮิตเลอร์ และสั่งสร้างค่ายมรณะหลายแห่ง ด้วยการอำนวยความสะดวกของฮิมเลอร์นี้เอง ทำให้ชาวยิวกว่า 6 ล้านคนและชาวโรมานีอีกราว 2 ถึง 5 แสนคนถูกสังหารอย่างเหี้ยมโหด[9][10] และตลอดช่วงการเรืองอำนาจของนาซี มีพลเรือนถูกสังหารไปราว 11 ถึง 14 ล้านคน ส่วนมากเป็นพลเรือนชาวโปแลนด์และโซเวียตปลายสงครามโลกครั้งที่สอง ฮิมเลอร์ตระหนักว่าเยอรมนีกำลังจะแพ้สงคราม เขาจึงแอบเจรจาสันติภาพกับผู้แทนฝ่ายสัมพันธมิตรอย่างลับ ๆ เมื่อสถานีวิทยุบีบีซีแฉเรื่องนี้ในวันที่ 28 เมษายน ค.ศ. 1945 ฮิตเลอร์ก็สั่งปลดเขาจากทุกตำแหน่งและมีคำสั่งให้ตามจับกุมเขา หลังกรุงเบอร์ลินถูกโซเวียตตีแตกในวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 1945 ฮิมเลอร์ก็แฝงตัวเป็นพลเรือนเดินทางไปอย่างไร้จุดหมาย เขาถูกด่านตรวจของโซเวียตกักตัวไว้ในวันที่ 21 พฤษภาคม และถูกส่งตัวให้กับหน่วยทหารอังกฤษในเมืองลือเนอบวร์คในวันที่ 23 พฤษภาคม[11] เขาถูกสอบสวนและรับสารภาพว่าตัวเองเป็นใคร ขณะที่ถูกแพทย์อังกฤษพิสูจน์อัตลักษณ์นั่นเอง เขาก็กัดไซยาไนด์ที่ซ่อนไว้ในปากและเสียชีวิตลงในเวลา 15 นาที[12][13] ร่างของเขาถูกเผาบริเวณใกล้กับเมืองลือเนอบวร์ค

ไฮน์ริช_ฮิมเลอร์

ผู้นำ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์
ยศ ฟาเนินยุงเกอร์
ลายมือชื่อ
คู่สมรส มากาเร็ท ฮิมเลอร์
บุตร 3 คน
ก่อนหน้า วิลเฮล์ม ฟริค
พรรคการเมือง พรรคนาซี
เกิด ไฮน์ริช ลูอิทพ็อลท์ ฮิมเลอร์
7 ตุลาคม ค.ศ. 1900[1]
มิวนิก ราชอาณาจักรบาวาเรีย เยอรมนี
การยุทธ์ สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และ สงครามโลกครั้งที่สอง
สังกัด กองทัพบกบาวาเรีย
หัวหน้ารัฐบาล อดอล์ฟ ฮิตเลอร์
รับใช้  จักรวรรดิเยอรมัน
ถัดไป วิลเฮล์ม ชตุคอาร์ท
วิชาชีพ นักปฐพีวิทยา
เสียชีวิต 23 พฤษภาคม ค.ศ. 1945 (44 ปี)
ลือเนอบวร์ค นีเดอร์ซัคเซิน, เยอรมนี
ปีปฏิบัติงาน ค.ศ. 1917–18

ใกล้เคียง

ไฮน์ริช ฮิมเลอร์ ไฮน์ริชที่ 12 ดยุกแห่งบาวาเรีย ไฮน์ริช แฮทซ์ ไฮน์ริช ลึพเคอ ไฮน์ริชที่ 5 เคานต์พาลาไทน์แห่งไรน์ ไฮน์ริช ยูลีอุส ดยุกแห่งเบราน์ชไวค์-ลือเนอบวร์ค ไฮน์ริช กุสทัฟ มักนุส ไฮน์ริคที่ 5 ดยุคแห่งบาวาเรีย ไฮน์ริช ฮาเรอร์ ไฮน์ริช มึลเลอร์ (เกสตาโพ)