วิธีการตรวจ ของ Humphrey_field_analyser

ที่วางคางและที่จับเลนส์

การตรวจใช้เวลาประมาณ 5-8 นาที ไม่นับเวลาที่ต้องจัดแจงหรือบอกคนไข้มีหลายขั้นตอนที่ต้องทำก่อนจะเริ่มตรวจเพื่อให้ได้ผลที่เชื่อถือได้

เจ้าหน้าที่จะเลือกวิธีการและข้างของตาที่จะตรวจก่อน แล้วจึงใส่ข้อมูลคนไข้ รวมทั้ง refractive error (ภาวะกำลังหักเหแสงของสายตาผิดปกติ)ในกรณีที่จำเป็น เครื่องจะระบุเลนส์ที่ต้องใช้ในการทดสอบ (เช่น เลนส์กลมหรือเลนส์ทรงกระบอก [cylindrical lens])ในกรณีเช่นนี้ มักใช้เลนส์ทดสอบที่มีกรอบโลหะ โดยจะวางเลนส์ทรงกระบอกไว้ใกล้คนไข้เพื่อให้ระบุ axis ได้ง่าย ๆ เจ้าหน้าที่สามารถปรับจุดตรึงตาได้ตามความจำเป็น[12]

ก่อนให้คนไข้เข้าไปนั่งที่เครื่อง เจ้าหน้าที่จะอธิบายวิธีการทดสอบแก่คนไข้คือให้มองตรึงอยู่ที่เป้าตรงกลาง ให้กดปุ่มสัญญาณต่อเมื่อเห็นจุดแสงที่เป็นตัวกระตุ้นคนไข้จะไม่สามารถเห็นแสงที่แสดงทั้งหมด แสงบางจุดอาจสว่างกว่า มืดกว่า แสดงช้ากว่า เร็วกว่าแสงอื่น ๆ ตาที่ไม่ได้ตรวจจะปิดไว้ และจะปิดแสงในห้องก่อนทดสอบ[12]เจ้าหน้าที่จะให้คนไข้วางคางไว้ที่ที่วาง และแนบศีรษะชิดกับที่พิงหน้าผากโดยอาจต้องปรับการวางศีรษะบ้างเพื่อให้รูม่านตาอยู่ตรงกลางของจอเพื่อให้สามารถเช็คการมองของคนไข้ได้ตลอดการทดสอบเลนส์ที่วางบนที่จับควรอยู่ใกล้ตาคนไข้ให้มากที่สุดไม่ให้เห็นสิ่งแปลกปลอม (artefacts)

สำคัญว่าคนไข้จะต้องกะพริบตาเป็นปกติ ทำตัวสบาย ๆ และตั้งใจมีสมาธิตลอดช่วงทดสอบซึ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือได้ของผลที่วัด[12]

เป้าการตรึงตาต่าง ๆ ซ้าย: กลาง, กลาง: รูปเพชรขนาดเล็ก, ขวา: รูปเพชรขนาดใหญ่

การทำงาน

เครื่องจะยิงแสงสีขาวที่มีความสว่างต่าง ๆ กันไปยังจุดต่าง ๆ ในช่องทรงกลมซึ่งมีแสงสว่างทั่ว ๆ กันคนไข้จะกดปุ่มเพื่อแสดงว่าเห็นจุดแสงซึ่งเป็นการตรวจสอบสมรรถภาพของจอตาในการตรวจจับสิ่งกระตุ้นที่จุดต่าง ๆ ภายในลานสายตานี่เรียกว่าความไวจอตา (retinal sensitivity) ซึ่งมีหน่วยวัดเป็น เดซิเบล (dB)[1]

เครื่องวัดปัจจุบันใช้ขั้นตอนวิธี Swedish Interactive Thresholding Algorithm (SITA)ซึ่งเป็นสูตรที่ทำให้วัดลานสายตาได้เร็วที่สุดและแม่นยำที่สุดผลจะเทียบกับข้อมูลสายตาของคนรุ่นเดียวกันในฐานข้อมูล ซึ่งสามารถระบุการเห็นที่ผิดปกติหรือน่าสงสัยโดยอาจมีเหตุจากโรค[8]

เป้าหมายการตรึงตา

มีเป้าหมายหลายอย่างที่สามารถเลือกให้คนไข้มองได้โดยเลือกขึ้นอยู่กับอาการของคนไข้[12]

  • เป้ากลาง: เป็นแสงสีเหลืองที่ตรงกลาง
  • รูปเพชรขนาดเล็ก: ใช้สำหรับคนไข้ที่ไม่เห็นเป้าตรงกลาง เช่นคนไข้โรคจุดภาพชัดของจอตาเสื่อม คือให้คนไข้มองที่ตรงกลางระหว่างจุด 4 จุด
  • รูปเพชรขนาดใหญ่: สำหรับคนไข้ที่ไม่เห็นเป้าหมายที่กล่าวมาแล้วทั้งสอง[12]

แหล่งที่มา

WikiPedia: Humphrey_field_analyser http://go.galegroup.com.ez.library.latrobe.edu.au/... http://search.proquest.com.ez.library.latrobe.edu.... http://www.optometry.org.au/vic/practice-info/driv... http://archopht.jamanetwork.com/article.aspx?artic... //www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2094527 //www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4064971 //www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/17320924 //www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/18326712 //www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/24802595 //www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/24950300