ประวัติ ของ การบำบัดทางความคิดและพฤติกรรม

ทางปรัชญา

พื้นฐานบางอย่างของ CBT พบได้ในหลักปรัชญาโบราณต่าง ๆ รวมทั้งของลัทธิสโตอิก[109]นักปราชญ์ลัทธิสโตอิกเชื่อว่า สามารถใช้ตรรกศาสตร์ในการกำหนดและทิ้งความเชื่อผิด ๆ ที่นำไปสู่อารมณ์ที่เป็นอันตราย ซึ่งเป็นแนวคิดที่มีอิทธิพลต่อผู้บำบัดทางความคิด-พฤติกรรมในปัจจุบัน ที่พยายามกำหนดความบิดเบือนทางความคิดที่มีส่วนต่อความซึมเศร้าและความวิตกกังวล[110]ยกตัวอย่างเช่น หนังสือคู่มือรักษาความซึมเศร้าดั้งเดิมของ ศ. ดร. อารอน ที. เบ็ก กล่าวไว้ว่า "จุดกำเนิดทางปรัชญาของการบำบัดทางความคิดสามารถสืบไปได้จนถึงนักปราชญ์ลัทธิสโตอิก"[111]นักปราชญ์สำคัญอีกคนหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนา CBT ก็คือ John Stuart Mill[112]

การบำบัดพฤติกรรม

รากฐานปัจจุบันของ CBT มาจากการพัฒนาการบำบัดพฤติกรรม (behavior therapy) ในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20, การพัฒนาการบำบัดความคิด (cognitive therapy) ในคริสต์ทศวรรษ 1960, และการรวมวิธีการบำบัดทั้งสองเข้าด้วยกันต่อมางานนวัตกรรมทางพฤติกรรมนิยม (behaviorism) เริ่มต้นด้วยงานเกี่ยวกับการวางเงื่อนไขแบบดั้งเดิม (classical conditioning) ของ ศ. ดร. จอห์น วัตสันในปี 1920[113]ส่วนวิธีการบำบัดพฤติกรรมเริ่มปรากฏตั้งแต่ปี 1924[114]โดยมีงานของนักจิตวิทยาหญิงที่อุทิศให้กับการบำบัดความกลัวให้แก่เด็ก[115]ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1950 เกิดงานของ นพ. โวลป์และวัตสัน ที่มีรากฐานบนงานของอีวาน ปัฟลอฟในเรื่องการเรียนรู้และการปรับสภาวะ (learning and conditioning) ที่มีอิทธิพลต่อการบำบัดพฤติกรรม (ของฮันส์ ไอเซงค์ และ Arnold Lazarus) ต่อมา โดยมีรากฐานอยู่ในแนวคิดของการวางเงื่อนไขแบบดั้งเดิม[113][116]ต่อมา เพื่อนร่วมงานของ ดร. Eysenck คือ ดร. เกล็นน์ วิลสัน แสดงว่า การวางเงื่อนไขความกลัวแบบดั้งเดิมในมนุษย์สามารถควบคุมได้โดยการเปลี่ยนความคาดหวังโดยใช้คำพูด[117]ดังนั้นจึงเป็นการเปิดตัวงานวิจัยที่สนับสนุนแนวคิดของการบําบัดทางความคิดและพฤติกรรม

ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1950 และ 1960 การบำบัดพฤติกรรมเป็นวิธีการที่ใช้อย่างกว้างขวางโดยนักวิจัยในประเทศสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และแอฟริกาใต้ ผู้ได้รับแรงจูงใจจากทฤษฎีการเรียนรู้แบบพฤติกรรมนิยมของปัฟลอฟ ของวัตสัน และของ ศ. คลาร์ก ฮัล[114]ในสหราชอาณาจักร นพ. โจเซฟ โวลป์ ได้ใช้สิ่งที่เขาพบในสัตว์ในการพัฒนาวิธีการบำบัดพฤติกรรมที่เรียกว่า systematic desensitization และได้ใช้ผลงานวิจัยทางพฤติกรรมของเขาในการรักษาคนไข้โรคประสาท (neurotic disorder)[113]ซึ่งเป็นกองหน้าของวิธีลดความกลัวที่ใช้ในปัจจุบัน[114]นักจิตวิทยาชาวอังกฤษ ฮันส์ ไอเซงค์ ได้เสนอใช้การบำบัดพฤติกรรมว่าเป็นวิธีบำบัดทางเลือกที่ได้ผลในปี 1952[114][118]ในช่วงเวลาเดียวกัน ศ. สกินเนอร์และเพื่อร่วมงานเริ่มมีอิทธิพลเพราะงานเกี่ยวกับเงื่อนไขจากตัวดำเนินการ (operant conditioning)[113][116]ซึ่งต่อมาเรียกว่า radical behaviorism ซึ่งเป็นศาสตร์ที่หลีกเลี่ยงแนวคิดทางประชาน (cognition) หรือความคิดโดยประการทั้งปวง[113]ถึงกระนั้น ก็ยังมีนักจิตวิทยาอีกคู่หนึ่ง (Julian Rotter และ Albert Bandura) ที่ต่อเติมการบำบัดพฤติกรรมที่เสริมทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม (social learning theory) โดยแสดงหลักฐานว่า ความคิด (cognition) มีผลต่อการปรับเปลี่ยนการเรียนรู้และพฤติกรรม[113][116]และการเน้นปัจจัยทางพฤติกรรมเช่นนี้เรียกได้ว่าเป็น "คลื่นลูกแรก" ของ CBT[119]

การบำบัดความคิด

นักบำบัดแรกที่พยายามแก้ปัญหาเกี่ยวกับความคิดในจิตบำบัดก็คือ นพ. แอลเฟร็ด แอ็ดเลอร์ และแนวคิดเกี่ยวกับความผิดพลาดพื้นฐานที่เขาแสดงว่า ช่วยตั้งเป้าหมายพฤติกรรมหรือเป้าหมายชีวิตที่ไร้ประโยชน์[120]ผลงานของคุณหมอแอ็ดเลอร์มีอิทธิพลต่องานของ ศ. ดร. แอลเบิรต์ เอลลิส[120]ผู้พัฒนาจิตบำบัดแบบแรก ๆ ที่ช่วยเปลี่ยนความคิด ที่รู้จักทุกวันนี้ว่า Rational emotive behavior therapy (REBT)[121]ในช่วงเวลาเดียวกัน ดร. อารอน ที. เบ็ก ยังใช้เทคนิค Free association ในการรักษาโรคโดยจิตวิเคราะห์[122]แต่ในช่วงรักษาคนไข้ ดร. เบ็กสังเกตว่า ความคิดต่าง ๆ ไม่ใช่อยู่ใต้จิตสำนึกตามทฤษฎีที่ นพ. ซิกมุนด์ ฟรอยด์ ได้ตั้งไว้ และความคิดบางอย่างอาจจะเป็นตัวการในปัญหาทางอารมณ์ของคนไข้[122]ซึ่งจากสมมติฐานนี้ ดร. เบ็กได้พัฒนาการบำบัดความคิด (cognitive therapy) และเรียกความคิดที่เป็นปัญหาเหล่านี้ว่า ความคิดอัตโนมัติ[122]และจากวิธีการบำบัดสองทั้งอย่างนี้เอง คือ REBT และการบำบัดความคิด ที่กลายเป็น "คลื่นลูกที่สอง" ของ CBT โดยเน้นปัจจัยทางความคิด[119]

การรวมกันของการบำบัดทางพฤติกรรมและทางความคิด

แม้ว่าวิธีการบำบัดพฤติกรรมจะได้ผลกับโรคประสาท (neurotic disorder) หลายอย่าง แต่ก็มีผลน้อยต่อโรคซึมเศร้า (Major depressive disorder)[113][114][123]พฤติกรรมนิยมก็เริ่มที่จะลดความนิยมในช่วงที่เรียกว่า "การปฏิวัติทางความคิด" (cognitive revolution)และวิธีการบำบัดของ ดร. เอลลิส และ ดร. เบ็ก ก็เริ่มรับความนิยมในหมู่นักบำบัดโดยพฤติกรรม แม้ว่าตอนแรกนักบำบัดจะได้ปฏิเสธแนวคิดเกี่ยวกับความคิดหรือประชานมาก่อน[113]ระบบทั้งสองอย่างเหล่านี้พุ่งความสนใจโดยหลักไปที่ปัญหาที่คนไข้มีในปัจจุบัน

ในงานศึกษาแรก ๆ การบำบัดความคิดมักจะนำมาเปรียบเทียบกับการบำบัดทางพฤติกรรมเพื่อจะดูว่าอะไรได้ผลกว่ากันต่อมาในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1980 และ 1990 เทคนิคทางความคิดและพฤติกรรมจึงรวมกันเป็นการบําบัดทางความคิดและพฤติกรรม (CBT)ซึ่งเกิดขึ้นได้โดยอาศัยการพัฒนาวิธีบำบัดโรคตื่นตระหนกที่สำเร็จผลของ ศ. ดร. เดวิด เอ็ม. คลาร์ก ในสหราชอาณาจักร และ ดร. เดวิด เอ็ช. บาร์โลว์ ในประเทศสหรัฐอเมริกา[114]แต่เมื่อเวลาเริ่มผ่านไป CBT เป็นคำที่ไม่ใช่หมายเพียงแค่วิธีการบำบัดวิธีหนึ่ง แต่กลายเป็นคำรวม ๆ หมายถึงจิตบำบัดที่อาศัยการเปลี่ยนความคิดทั้งหมด[113]ซึ่งรวมทั้ง rational emotive therapy, cognitive therapy, acceptance and commitment therapy, dialectical behavior therapy, reality therapy/Glasser's choice theory, cognitive processing therapy, Eye movement desensitization and reprocessing (EMDR), และ multimodal therapy[113]และล้วนแต่เป็นการบำบัดที่ผสมผสานการเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรม

การรวมตัวกันของทั้งพื้นฐานทางทฤษฎีและพื้นฐานทางเทคนิค ของทั้งการบำบัดพฤติกรรมและการบำบัดความคิด เรียกได้ว่าเป็น "คลื่นลูกที่สาม" ของ CBT[119]ซึ่งเป็นคลื่นลูกปัจจุบัน[119]โดยวิธีการบำบัดที่เด่นที่สุดที่เป็นส่วนของคลื่นลูกที่สามนี้คือ dialectical behavior therapy และ acceptance and commitment therapy[119]

ใกล้เคียง

การบำบัดทางความคิดและพฤติกรรม การบำบัดน้ำเสียอุตสาหกรรม การบำบัดด้วยออกซิเจนแบบผสมอากาศอัตราการไหลสูง การบำบัดตาเหล่ด้วยชีวพิษโบทูลินัม การบำบัดด้วยการจับยึดนิวตรอน การบำบัดด้วยการรู้อาศัยสติ การบําบัดโดยพืช การบำรุงรักษาเน้นความเชื่อถือได้ การบำรุงรักษา การบำรุงความงามของสมเด็จพระจักรพรรดินีเอลิซาเบธแห่งออสเตรีย

แหล่งที่มา

WikiPedia: การบำบัดทางความคิดและพฤติกรรม http://www.ehub.anu.edu.au/assist/about/research.p... http://www.comorbidity.edu.au/cre-publications?fie... http://ptsd.about.com/od/glossary/g/invivo.htm http://www.babcp.com/ http://www.biomedcentral.com/1471-244X/14/109 http://www.bmj.com/content/344/bmj.e2598 http://www.cogbtherapy.com/ http://www.effectivechildtherapy.com/ http://www.goodreads.com/book/show/20553738-this-b... http://www.healio.com/psychiatry/journals/psycann/...