การรุกของฝ่ายปฏิวัติ ของ การปฏิวัติซินไฮ่

กองทัพฝ่ายปฏิวัติใน การลุกฮือที่อู่ชาง กำลังทำการรบในยุทธการหยางเซีย

ภายหลังจากคณะปฏิวัติที่นำโดยกองทัพซวินจินยึดเมืองอู่ชางได้ ขณะนั้นคณะปฏิวัติเห็นควรที่จะมีผู้นำทางทหารที่มีบารมีมาควบคุมสถานการณ์เบื้องต้น จึงได้เห็นพ้องต้องกันว่าควรผลักดันให้ 'หลีหยวนหง' ขึ้นเป็นแม่ทัพใหญ่รักษาเมืองอู่ชาง หลีหยวนหง (黎元洪 ค.ศ.1864 - 1928) เกิดที่มณฑลหูเป่ย ในครอบครัวผู้ดีมีฐานะ เมื่ออายุ 14 ปี ได้ติดตามบิดามาค้าขายที่มณฑลจื๋อลี่ ครั้นอายุ 19 ปี เขามีความสนใจด้านการทหารจึงเข้าเรียนวิชาทหารเรือ เมื่อจบการศึกษาจึงเข้าประจำการณ์ที่เรือรบกว่างเจี่ย

ระหว่างสงครามจีน - ญี่ปุ่นครั้งที่ 1 (ค.ศ. 1894-1895) เรือรบกว่างเจี่ยถูกทัพเรือญี่ปุ่นยิงจนล่มลงที่ทะเลหวงไห่ (ทะเลเหลือง) แต่หลีหยวนหงรอดมาได้ ภายหลังได้รับทุนให้ไปศึกษาวิชาทหารต่อที่ญี่ปุ่น เมื่อจบแล้วจึงกลับมาใช้ความรู้พัฒนากองทัพเรือจีนจนก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ต่อมาจึงเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บังคับการทหารนครอู่ชาง จากชื่อเสียงอันโด่งดังจึงทำให้เขาถูกยกย่องให้เป็นผู้กุมอำนาจทางทหารในช่วงนาทีสำคัญของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง

ในช่วงเวลานั้น ดร.ซุนติดภาระกิจสำคัญที่ต่างประเทศ เพื่อระดมทุนจากชาวจีนโพ้นทะเลเป็นทุนในการปฏิวัติ ดร.ซุนได้ทราบข่าวการปฏิวัติที่อู่ชางขณะที่โดยสารรถไฟในสหรัฐอเมริกา ถึงแม้ว่าจะมีความปลาบปลื้มยินดี แต่ท่านกังวลเรื่องท่าทีของชาติมหาอำนาจจึงไม่เดินทางกลับประเทศจีนทันที

ดร.ซุนมีภารกิจสำคัญที่จะต้องเจรจาหยั่งท่าทีของชาติมหาอำนาจในการรับรองสาธารณรัฐจีน โดยเฉพาะอังกฤษที่มีแหล่งข่าวน่าเชื่อถือว่า อังกฤษให้การสนับสนุนขุนศึกภาคเหนือผู้หนึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ขุนศึกผู้นั้นมีนามว่า 'หยวนซื่อข่าย' (袁世凱 )

ใกล้เคียง