การล่มสลายของจักรวรรดิโรมันตะวันตก (
อังกฤษ: The Fall of the Western Roman Empire) เรียกอีกอย่างว่า
การล่มสลายของจักรวรรดิโรมัน หรือ
การล่มสลายของกรุงโรม เป็นกระบวนการของการเสื่อมถอยในจักรวรรดิโรมันตะวันตกซึ่งล้มเหลวในการปกครอง ศูนย์เสียอธิปไตยเดิมที่จักรวรรดิเคยมี และ ดินแดนอันกว้างใหญ่ถูกแบ่งออกเป็นหลายเมือง จักรวรรดิโรมันสูญเสียความเเข็งแกร่งทางการทหารในการปกครองอย่างมีประสิทธิภาพเหนือจังหวัดทางตะวันตกของตน นักประวัติศาสตร์สมัยใหม่แสดงถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดความเสื่อมถอย ประกอบด้วย จำนวนประชากรชาวโรมัน จำนวนทหารในกองทัพ ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ ความสามารถในการปกครองของจักรพรรดิ การต่อสู้แย่งชิงอำนาจภายใน การเปลี่ยนแปลงทางศาสนาในยุค และประสิทธิภาพของการบริหารงานโยธา นอกจากนี้ยังมีแรงกดดันจากภายนอก โดยการรุกรานของชนป่าเถื่อนนอกวัฒนธรรมโรมัน ก็มีส่วนทำให้เกิดการล่มสลายเช่นกัน
[1] การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในยุคนั้นก็อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อการล่มสลายของจักรวรรดิโรมันตะวันตก
[2] เหตุผลในการล่มสลายของจักรวรรดิโรมันตะวันตกเป็นวิชาหลักของประวัติศาสตร์ของโลกยุคโบราณ ที่บอกเล่าเรื่องความล้มเหลวของรัฐในอดีตและปัจจุบัน
[3][4][5]ในปี ค.ศ.376 ชาว
ก็อธ (Goths) และชนเผ่าที่ไม่ใช่ชาวโรมัน หนีจากพวก
ฮันมาลี้ภัยอยู่ในจักรวรรดิ ในปี ค.ศ.395 หลังจากชนะสงครามกลางเมือง 2 ครั้ง
จักรพรรดิเทออดอซิอุสที่ 1 สวรรคต ทิ้งกองทัพที่ล่มสลายและจักรวรรดิที่ยังคงถูกครอบงำโดยชาวก็อธ มีการแบ่งฝักฝ่ายระหว่างแม่ทัพ ผู้เป็นลูกชายของโธโดสิอุสที่ 1 ทั้งสองคน ผู้ไร้ความสามารถในการปกครองจักรวรรดิ นอกจากนั้นกลุ่มคนเถื่อนได้ทำการข้าม
แม่น้ำไรน์และเขตแดนอื่น ๆ และเช่นเดียวกับชาวก็อธ ชนเผ่าที่เข้ามาอยู่อาศัยไม่ถูกกำจัดถูกขับไล่ หรือ ถูกปราบปราม กองกำลังติดอาวุธของจักรวรรดิตะวันตกมีจำนวนน้อยและไม่มีประสิทธิภาพ ถึงแม้จะมีการฟื้นตัวระยะสั้นภายใต้ผู้นำที่มีความสามารถ ไม่เคยมีการรวมศูนย์กำลังทางการทหารและการปกครองอีกเลยในจักรวรรดิโรมันตะวันตก
[6]เมื่อถึงปี ค.ศ.476 ตำแหน่งของจักรพรรดิโรมันตะวันตกมีอำนาจทางทหาร การเมืองและ อำนาจทางการเงินเพียงน้อยนิด ปราศจากอำนาจควบคุมจังหวัดทางตะวันตกที่กระจัดกระจายซึ่งเดิมเป็นเขตแดนของโรมัน อาณาจักรของอนารยชนได้สร้างฐานอำนาจของตนเองขึ้นในพื้นที่ของจักรวรรดิตะวันตก ในปี ค.ศ.476
พระเจ้าโอเดเซอร์ กษัตริย์องค์แรกแห่งอิตาลี ได้ปลดจักรพรรดิองค์สุดท้ายของจักรวรรดิโรมันตะวันตก
จักรพรรดิโรมุลุส เอากุสตุส ลงจากราชบังลังก์ และวุฒิสภาของจักรวรรดิโรมันตะวันตกได้ส่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้กับจักรพรรดิโรมันตะวันออก ทำให้เหลือเมืองหลวงเพียงแห่งเดียว ณ
กรุงคอนสแตนติโนเปิล สิ้นสุดความเป็นศูนย์กลางของ
กรุงโรมนับแต่นั้นแม้ว่าเกียรติภูมิของจักรวรรดิโรมันตะวันตก จะดำเนินต่อไปอีกหลายศตวรรษ และอิทธิพลทางวัฒนธรรมของจักรวรรดิยังคงอยู่ในทุกวันนี้ จักรวรรดิตะวันตกไม่เคยมีความเข้มแข็งที่เคยมีอีกเลย จักรวรรดิไม่สามารถควบคุมยุโรปตะวันตก ทางเหนือของเทือกเขาแอลป์ จักรวรรดิโรมันตะวันออก หรือ จักรวรรดิไบแซนไทน์ คงอยู่ต่อมาได้ แม้ว่าความแข็งแกร่งของจักรวรรดิโรมันจะลดลงจากเดิม จักรวรรดิโรมันตะวันออกจะยังคงอยู่เป็นเวลาอีกหลายศตวรรษ เป็นมหาอำนาจของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก