คุณภาพ ของ การศึกษาในประเทศอินเดีย

เด็กนักเรียนชั้นมัธยมในเดลี

การรู้หนังสือ

ข้อมูลจากสำมะโนครัวปี 2011 บัญญัติการรู้หนังสือไว้ว่า คือผู้ที่..."อายุมากกว่า 7 ปี สามารถอ่านและเขียนในภาษาใดก็ตาม" ("every person above the age of 7 years who can read and write with understanding in any language is said to be literate".) ภายใต้การบัญญัติดังนี้ อัตราการรู้หนังสือ (literacy rate) ของประเทศอินเดียอยู่ที่ 74.04%[14] อัตราการรู้หนังสือในเยาวชน (youth literacy rate) วัดในผู้ที่อายุ 15-24 ปี อยู่ที่ 81.1% (คิดเป็น 84.4% ในผู้ชายและ 74.4% ในผู้หญิง)[15] ส่วนอัตราการรู้หนังสือในประชากรกลุ่มอายุ 10-19 ปีอยู่ที่เด็กผู้ชาย 86% และในเด็กผู้หญิง 72%[16]

ในบรรดาเขตการปกครองทั้งหมดของประเทศ รัฐเกรละมีอัตราการรู้หนังสือสูงที่สุดในประเทศอยู่ที่ 93.91% ส่วนรัฐพิหารอยู่ที่ 61.8%[14] ในสถิติปี 2001 ระบุจำนวนทั้งหมดของประชากรที่ 'ไม่รู้หนังสือเลย' ('absolute non-literates') ในประเทศอินเดียอยู่ที่ 304 ล้านคน[14] ช่องว่างระหว่างเพศ (Gender gap) ในอัตราการรู้หนังสือยังคงมีอยู๋ในประเทศอินเดีย เช่นในรัฐราชสถาน ซึ่งมีอัตราการรู้หนังสือในผู้หญิงต่ำที่สุดในประเทศ[17] นั้นมีอัตราการรู็หนังสือเฉลี่ยในผู้หญิงอยู่ที่ 52.66% ในขณะที่สำหรับผู้ชายอยู่ที่ 80.51% คิดเป็นช่องว่างสูงถึง 27.85% ระหว่างสองเพศ[18]

การเข้าศึกษา

ข้อมูลเมื่อ 2011[update] อัตราการสมัครเข้าศึกษา (enrolment rates) อยู่ที่ 58% ในระดับเตรียมประถมศึกษา, 93% ในระดับประถมศึกษา, 69% ในระดับมัธยมศึกษา และ 25% ในระดับอุดมศึกษา[19]

ถึงแม้อัตราส่วนการเข้าศึกษาในระดับประถมศึกษาจะสูง แต่พบว่าในบรรดาเด็กอายุ 10 ปีในพื้นที่ชนบทของประเทศอินเดียครึ่งหนึ่งไม่สามารถอ่านในระดับพื้นฐานได้, มากกว่า 60% ไม่สามารถหารเลขได้ และครึ่งหนึ่งลาออกจากโรงเรียน (dropout) ภายในอายุ 14 ปี[20]

ในปี 2009 สองรัฐในประเทศอินเดีย คือรัฐทมิฬนาฑู และรัฐหิมาจัลประเทศ ได้เข้าร่วมการสอบโปรแกรมประเมินสมรรถนะนักเรียนมาตรฐานสากล PISA ที่จัดขึ้นทุก ๆ สามปีในเด็กอายุ 15 ปี ทั้งสองรัฐอย่อันดับท้ายของตาราง คะแนนสูงกว่าเพียงประเทศคีร์กีซสถานเท่านั้น และคะแนนรวมต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศกลุ่มโออีซีดีอยู่ 200 คะแนน (หรือสองค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน)[21] ในท้ายที่สุดประเทศอินเดียจึงตัดสินใจไม่เข้าร่วมการประเมินของ PISA ในปี 2012[22] และปี 2015[23]

ในขณะที่คุณภาพของโรงเรียนรัฐในชนบทกำลังเข้าขั้นวิกฤต คนยากจนในเขตเมืองส่วนมากได้เลือกหันเข้าสู่โรงเรียนเอกชน ในเมืองระดับนคร (urban city) บางเมือง มีการประมาณการไว้ว่านักเรียนทั้งหมด มากถึง 2 ใน 3 เข้าเรียนในโรงเรียนเอกชน[24] ส่วนมากมีค่าการศึกษาอยู่ที่สองดอลล่าร์สหรัฐต่อเดือน

ใกล้เคียง

การศึกษาในประเทศไทย การศึกษา การศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลีของคณะสงฆ์ไทย การศึกษาควบคุมด้วยยาหลอก การศึกษาตามแผน การศึกษาในประเทศอินเดีย การศึกษาภาษาญี่ปุ่นในประเทศไทย การศึกษาในประเทศฟินแลนด์ การศึกษาทางนิเวศวิทยา การศึกษาของญี่ปุ่น

แหล่งที่มา

WikiPedia: การศึกษาในประเทศอินเดีย http://wap.business-standard.com/article/current-a... http://www.economist.com/specialreports/displaysto... http://www.everonn.com/images/CLSA140308.pdf http://archive.indianexpress.com/news/indian-schoo... http://timesofindia.indiatimes.com/city/mumbai/Ind... http://timesofindia.indiatimes.com/home/education/... http://timesofindia.indiatimes.com/home/education/... http://sify.com/finance/fullstory.php?id=14757040 http://www.thehindu.com/features/education/school/... http://www.thehindu.com/news/national/article15871...