การเป็นพิษจากสารหนู
การเป็นพิษจากสารหนู

การเป็นพิษจากสารหนู

การเป็นพิษจากสารหนู เป็นภาวะที่พบสารหนูในร่างกายสูงกว่าปกติ สารหนูจะยับยั้งการทำงานของเอนไซม์กว่า 200 ชนิดซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับเมแทบอลิซึมและการสังเคราะห์-ฟื้นฟูดีเอ็นเอ[4] หากได้รับในชั่วเวลาอันสั้นจะทำให้อาเจียน ปวดท้อง ท้องร่วงและมีอาการผิดปกติทางสมอง ในขณะที่ระยะยาวจะทำให้ผิวหนังหนาและเข้ม ปวดท้อง ท้องร่วง เหน็บชา มีอาการผิดปกติทางหัวใจและมะเร็ง[1] สาเหตุทั่วไปของการได้รับสารหนูในปริมาณมากคือการดื่มน้ำที่ปนเปื้อน (ระดับแนะนำของสารหนูในน้ำดื่มคือต่ำกว่า 10–50 µg/L[1]) การทานยาแผนโบราณ การสูบบุหรี่และการใช้ยาฆ่าแมลง[1][3][5] การวินิจฉัยจะใช้การตรวจปัสสาวะ เลือดและเส้นผมการรักษาพิษจากสารหนูจะใช้กรดไดเมอร์แคปโตซักซินิกและกรด 2,3-ไดเมอร์แคปโต-1-โพรเพนซัลโฟนิก[6] รวมถึงการชำระเลือดผ่านเยื่อ[7] การป้องกันทั่วไปคือการดื่มน้ำที่ไม่ปนเปื้อนสารหนู ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ประชาชนกว่า 200 ล้านคนทั่วโลกมีระดับสารหนูในร่างกายสูงกว่าปกติ พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสารหนูมากที่สุดคือบังคลาเทศและเบงกอลตะวันตก[3] มนุษย์ทราบถึงพิษสารหนูมานานกว่าพันปีแล้ว ตามที่มีบันทึกใน Ebers Papyrus ของอียิปต์เมื่อ 1500 ปีก่อนคริสตกาล[8]

การเป็นพิษจากสารหนู

อาการ เฉียบพลัน: อาเจียน, ปวดท้อง, ท้องร่วง[1]
เรื้อรัง: ผิวหนังหนาและเข้มขึ้น, มะเร็ง[1]
สาขาวิชา พิษวิทยา
สาเหตุ สารหนู[1]
ความชุก >200 ล้านคน[3]
วิธีวินิจฉัย การตรวจปัสสาวะ, เลือดและเส้นผม[1]
การรักษา กรดไดเมอร์แคปโตซักซินิก, กรด 2,3-ไดเมอร์แคปโต-1-โพรเพนซัลโฟนิก[2]
ชื่ออื่น Arsenic toxicity, arsenic overdose
การป้องกัน การดื่มน้ำที่ไม่ปนเปื้อนสารหนู[1]

ใกล้เคียง

การเปลี่ยนความถี่ยีนอย่างไม่เจาะจง การเปลี่ยนชื่อนครในประเทศอินเดีย การเปลี่ยนแปลงหลังการตาย การเปรียบเทียบยศทหารเกาหลี การเปรียบเทียบวิธีคุมกำเนิด การเป็นพิษจากพาราเซตามอล การเปลี่ยนผ่านสู่โทรทัศน์ระบบดิจิทัล การเปลี่ยนแปลงทางโครงกระดูกของมนุษย์เนื่องจากการเดินด้วยสองเท้า การเปลี่ยนสัณฐาน การเป็นพิษจากไซยาไนด์