ขีดจำกัดจันทรเศขร (
อังกฤษ: Chandrasekhar limit) หรือ
ขีดจำกัดจันทรสิกขา คือค่าจำกัดของ
มวลของวัตถุที่เกิดจาก
สสารเสื่อมอิเล็กตรอน ซึ่งเป็นสสารหนาแน่นสูงประกอบด้วย
นิวเคลียสที่อัดแน่นอยู่ในย่าน
อิเล็กตรอน ขีดจำกัดนี้คือค่าสูงสุดของ
มวลของดาวที่ไม่หมุนรอบตัวเองที่สามารถดำรงอยู่ได้โดยไม่แตกสลายจากผลของ
แรงโน้มถ่วง โดยอาศัยแรงดันจาก electron degeneracy ชื่อของขีดจำกัดนี้ตั้งตามนามสกุลของนักฟิสิกส์ดาราศาสตร์คือ
สุพรหมัณยัน จันทรเศขร มีค่าโดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 1.4 เท่าของ
มวลดวงอาทิตย์[1][2] ดาวแคระขาวเป็นดาวที่ประกอบขึ้นด้วยสสารเสื่อมอิเล็กตรอน ดังนั้นจึงไม่มีดาวแคระขาวที่ไม่หมุนรอบตัวเองดวงไหนจะมีมวลมากไปกว่าขีดจำกัดจันทรเศขรได้โดยปกติแล้ว
ดาวฤกษ์จะสร้างพลังงานขึ้นจาก
ปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่น ทำให้ธาตุมวลเบาเปลี่ยนไปเป็นธาตุหนัก ความร้อนที่เกิดขึ้นจากปฏิกิริยานี้ช่วยต้านทานการยุบตัวเนื่องจากแรงโน้มถ่วงของดาวฤกษ์ไว้ เมื่อเวลาผ่านไป ดาวฤกษ์จะเผาผลาญธาตุในแกนกลางของตัวเองไปจนกระทั่งอุณหภูมิในใจกลางไม่สูงพอจะดำรงปฏิกิริยาไว้อีกต่อไป ดาวฤกษ์ใน
แถบลำดับหลักที่มีมวลน้อยกว่า 8 เท่าของมวลดวงอาทิตย์จะคงเหลือมวลในแกนกลางต่ำกว่าขีดจำกัดจันทรเศขร มันจะสูญเสียมวลออกไป (เช่นใน
เนบิวลาดาวเคราะห์) จนเหลือแต่แกนดาว และกลายไปเป็น
ดาวแคระขาว ดาวฤกษ์ที่มีมวลมากกว่านั้นจะเหลือแกนของดาวที่มีมวลมากกว่าขีดจำกัดนี้ และจะระเบิดออกกลายเป็น
ซูเปอร์โนวา ผลลัพธ์ที่ได้คือ
ดาวนิวตรอนหรือ
หลุมดำ[3][4][5]การคำนวณค่าขีดจำกัดขึ้นกับการใช้ค่าประมาณการ ค่าส่วนประกอบนิวเคลียร์ของมวล และอุณหภูมิ
[6] จันทรสิกขาคำนวณไว้ดังนี้
[7], eq. (36),
[8], eq. (58),
[9], eq. (43) โดยที่ μe คือค่าเฉลี่ยน้ำหนักโมเลกุลต่ออิเล็กตรอน mH คือมวลของอะตอม
ไฮโดรเจน และ ω30≈2.018236 คือค่าคงที่จาก
สมการ Lane-Emden ค่านี้จะมีค่าโดยประมาณเท่ากับ (2/μe) 2 · 2.85 · 1030 กก. หรือ 1.43 (2/μe) 2 M☉ โดยที่ M☉=1.989·1030 กก. ซึ่งเป็นค่ามาตรฐานของ
มวลดวงอาทิตย์[10] เมื่อ ℏ c / G {\displaystyle {\sqrt {\hbar c/G}}} เท่ากับ
มวลของพลังค์ จะได้ MPl≈2.176·10−8 กก. ค่าของขีดจำกัดจึงเท่ากับอันดับของ MPl3/mH2