หลักฐานทางโบราณคดี ของ คนเก็บของป่าล่าสัตว์

ในคริสต์ทศวรรษ 1950 มีนักโบราณคดีทรงอิทธิพลชาวอเมริกันท่านหนึ่งที่เสนอว่า มนุษย์ในยุคต้น ๆ ความจริงบริโภคซากสัตว์เป็นอาหาร ไม่ใช่ได้เนื้อโดยการล่า[3]คือมนุษย์ในต้นยุคหินเก่าได้อาศัยอยู่ในป่าโปร่ง จึงสามารถเก็บอาหารทะเล ไข่ ถั่ว และผลไม้ บวกกับการบริโภคซากสัตว์ได้ตามทฤษฎีนี้ แทนที่จะฆ่าสัตว์ใหญ่ มนุษย์ได้เนื้อจากสัตว์ที่ถูกฆ่าโดยสัตว์ล่าเหยื่ออื่นหรือที่ตายด้วยเหตุธรรมชาติ[4]และข้อมูลทางโบราณคดีและพันธุกรรมก็แสดงนัยว่า กลุ่มบรรพบุรุษมนุษย์ปัจจุบันที่เป็นคนเก็บของป่าล่าสัตว์ในยุคหินเก่ามีชีวิตอยู่ในป่าโปร่ง และแพร่กระจายไปในเขตที่อุดมสมบูรณ์อื่น ๆ โดยหลีกเลี่ยงป่าทึบ[5]

ตามสมมติฐานวิ่งทน (endurance running hypothesis) การวิ่งระยะไกล ๆ เพื่อตามล่าสัตว์ ซึ่งยังเป็นวิธีที่คนเก็บของป่าล่าสัตว์ในปัจจุบันยังใช้อยู่ น่าจะเป็นตัวขับเคลื่อนวิวัฒนาการของลักษณะมนุษย์บางอย่างซึ่งเป็นสมมติฐานที่ไม่ได้ขัดแย้งกับสมมติฐานบริโภคซากสัตว์ กลยุทธ์การดำรงชีวิตทั้งสองอาจจะได้ใช้ ไม่ว่าจะสืบต่อกัน สลับกัน หรือแม้แต่พร้อม ๆ กันการเก็บของป่าล่าสัตว์เชื่อว่าเป็นกลยุทธ์พอดำรงชีวิตที่ใช้ในสังคมมนุษย์เริ่มตั้งแต่ 1.8 ล้านปีก่อน โดยมนุษย์พันธุ์ Homo erectus และเริ่มตั้งแต่ 200,000 ปีก่อนโดยมนุษย์พันธุ์ปัจจุบันคือ Homo sapiensเป็นวิธีการพอดำรงชีวิตอย่างเดียวจนกระทั่งที่สุดของยุคหินกลางประมาณ 10,000 ปีก่อน ซึ่งหลังจากนี้สังคมเกษตรกรรมจึงค่อย ๆ แพร่กระจายออกไปทั่วโลกคือ เริ่มตั้งแต่ระหว่างยุคหินเก่าตอนกลางและตอนปลายประมาณ 70,000–80,000 ปีก่อน สังคมกลุ่มต่าง ๆ ก็เริ่มจะมีความชำนาญพิเศษในการล่าสัตว์ที่ใหญ่กว่าแต่เป็นจำนวนพันธุ์ที่น้อยกว่า และเก็บพืชผลเป็นจำนวนพันธุ์ที่น้อยกว่าด้วยซึ่งมีผลให้สร้างอุปกรณ์เฉพาะงาน เช่น อวนปลา เบ็ดปลา ฉมวกที่ทำด้วยกระดูก[6]ส่วนการเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่ยุคหินใหม่ต่อมา เป็นการพัฒนาเทคนิคทางเกษตรกรรมเบื้องต้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนสังคมเกษตรกรรมจึงเกิดขึ้นและกระจายไปจากแหล่งกำเนิดต่าง ๆ รวมทั้งในตะวันออกกลาง เอเชีย เมโสอเมริกา และเทือกเขาแอนดีส ซึ่งอาจเริ่มตั้งแต่ 12,000 ปีก่อน

นอกจากนั้นแล้ว การทำสวนป่า (forest gardening) ก็เป็นระบบผลิตอาหารที่ใช้ในที่ต่าง ๆ ของโลกยุคนี้ด้วยโดยมีกำเนิดก่อนประวัติศาสตร์ตามริมฝั่งแม่น้ำที่มีป่าไม้ปกคลุม และตามเนินตีนเขาในเขตมรสุม[ต้องการอ้างอิง]คือ เมื่อชนหมู่ต่าง ๆ ปรับปรุงสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ตัวอย่างต่อเนื่อง ก็มีการระบุ การป้องกัน และการปรับปรุงทั้งไม้และไม้เถา และการกำจัดพืชที่ไม่ต้องการจนกระทั่งในที่สุด ก็จะรวมเอาพืชนอกพื้นที่ที่ดีกว่าเข้าไปในสวนด้วย[7]

แม้ว่ากลุ่มชนมากมายจะธำรงการดำรงชีวิตแบบคนเก็บของป่าล่าสัตว์ แต่จำนวนก็ได้ลดลงมาเรื่อย ๆ โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากการขยายตัวของชุมชนเกษตรและเลี้ยงสัตว์กลุ่มเหล่านี้โดยมากอาศัยอยู่ในเขตประเทศกำลังพัฒนา โดยถ้าไม่อยู่ในเขตแห้งแล้งก็อยู่ในป่าเขตร้อนแต่ว่า การตั้งถิ่นฐานของชุมชนเกษตรก็ได้ลุกล้ำที่อยู่อาศัยของชนเหล่านี้เข้าไปเรื่อย ๆโดยเป็นผลจากการแข่งขันเพื่อใช้พื้นที่เช่นนี้ สังคมเก็บของป่าล่าสัตว์จึงต้องยอมรับเกษตรกรรมหรือต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นนอกจากนั้นแล้ว ศ. จาเร็ด ไดมอนด์ยังโทษการมีน้อยลงของอาหารป่า โดยเฉพาะสัตว์ป่ายกตัวอย่างเช่น ในทวีปอเมริกา สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่โดยมากได้สูญพันธ์ไปแล้วโดยที่สุดของสมัยไพลสโตซีน เพราะการล่าสัตว์มากเกินของมนุษย์[8]แม้ว่าสมมติฐานเกี่ยวกับการล่าสัตว์มากเกินไปของเขา จะเป็นเรื่องที่นักวิชาการบางท่านไม่เห็นด้วย[โดยใคร?]

เมื่อสังคมเกษตรทั้งขยายจำนวนและขยายขนาด ก็จะลุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ที่กลุ่มคนเก็บของป่าล่าสัตว์เคยใช้สอยและกระบวนการขยายขนาดที่ขับเคลื่อนโดยเกษตรกรรม ก็นำไปสู่การพัฒนาระบบการปกครองในศูนย์กลางการเกษตร เช่น เขตพระจันทร์เสี้ยวอันอุดมสมบูรณ์, อินเดียโบราณ, จีนโบราณ, อารยธรรมโอลเม็กในเม็กซิโก, แอฟริกาใต้สะฮารา, และอารยธรรมนอร์เตชิโกในเปรูผลก็คือ มนุษย์เกือบทั้งหมดปัจจุบันต้องพึ่งการเกษตร โดยมีวัฒนธรรมคนเก็บของป่าล่าสัตว์เหลือไม่กี่ชุมชนที่ปกติจะอาศัยอยู่ในเขตที่ไม่เหมาะจะทำเกษตร

นักโบราณคดีได้ใช้หลักฐานเช่นเครื่องมือหินในการติดตามชีวิตของมนุษย์คนเก็บของป่าล่าสัตว์ รวมทั้งการอพยพไปในที่ต่าง ๆ[9]

ใกล้เคียง

คนเก็บของป่าล่าสัตว์ คนเก็บฟืน (คัมภีร์ไบเบิล) คนเก่งทะลุโลก คนเล็กหมัดเทวดา คนเล็กของเล่นใหญ่ คนเกมทะลุเกม คนเก่งฟ้าประทาน คนเล็กนักเรียนโต 3 คนเกี่ยวข้าว (เบรอเคิลผู้พ่อ) คนเกาหลี

แหล่งที่มา

WikiPedia: คนเก็บของป่าล่าสัตว์ http://news.nationalgeographic.com/news/2006/12/06... http://www.physorg.com/news169474130.html http://www.sciencedaily.com/releases/2001/10/01102... http://www.suluarchipelago.com/E20Website2002/defa... http://www.themontrealreview.com/2009/A-cooperativ... http://foragers.wikidot.com/start http://www.academia.edu/416145/The_causes_and_scop... http://www.anthro.fsu.edu/people/faculty/marlowe_p... http://muse.jhu.edu/journals/asi/summary/v046/46.2... http://www.anth.ucsb.edu/faculty/gurven/papers/Gur...