พื้นที่ ของ จงหนานไห่

แผนที่

ส่วนเหนือ

พื้นที่ส่วนเหนือเป็นที่ทำการของสภารัฐกิจและหน่วยงานอื่น ๆ ในสังกัด เช่น สำนักนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี ทั้งมักเป็นที่รับรองแขกบ้านแขกเมือง ประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ ดังนี้

เช่อเจิ้งหวังฝู่

เช่อเจิ้งหวังฝู่ (摄政王府; "คุ้มผู้สำเร็จราชการ") ได้ชื่อนี้มาเพราะใน ค.ศ. 1911 เป็นที่ประทับขององค์ชายไจ้เฟิง ผู้สำเร็จราชการแทนจักรพรรดิผู่อี๋ แต่ในช่วงนั้น อาคารยังสร้างไม่ลุล่วง ครั้นก่อตั้งสาธารณรัฐจีนแล้ว ใช้เป็นสำนักนายกรัฐมนตรีและที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอยู่พักหนึ่ง ครั้น ค.ศ. 1918 สฺวี ชื่อชาง (徐世昌) ประธานาธิบดี เปลี่ยนมาใช้อาคารนี้เป็นทำเนียบ ต่อมาใน ค.ศ. 1923 ย้ายทำเนียบประธานาธิบดีไปหฺวาเหรินถัง อาคารนี้จึงกลายเป็นที่ทำการกองทัพแทน[7]

ซีฮฺวาทิง

ซีฮฺวาทิง (西花厅; "โถงบุปผาตะวันตก") เดิมเป็นส่วนหนึ่งของเช่อเจิ้งหวังฝู่ เป็นที่พำนักขององค์ชายไจ้เฟิง ผู้สำเร็จราชการ ต่อมา เป็นที่อาศัยส่วนตัว ที่ทำงานส่วนตัว และที่ประชุม ของโจว เอินไหล นายกรัฐมนตรี เมื่อโจว เอินไหล ตายใน ค.ศ. 1974 แล้ว เติ้ง หยิ่งเชา (鄧穎超) ผู้เป็นภริยา ยังอาศัยต่อจนถึง ค.ศ. 1990 ปัจจุบัน ใช้เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเกี่ยวกับโจว เอินไหล[8]

กั๋วอู้เยฺวี่ยนเสียวหลี่ถัง

กั๋วอู้เยฺวี่ยนเสียวหลี่ถัง (国务院小礼堂; "หอประชุมเล็กของสภารัฐกิจ") เดิมเป็นส่วนหนึ่งของเช่อเจิ้งหวังฝู่ ครั้น ค.ศ. 1949 ใช้เป็นที่ฉายภาพยนตร์รายสัปดาห์ และมีการสร้างร้านกาแฟให้สมาชิกสภารัฐกิจ ครั้น ค.ศ. 1979 ปรับปรุงหอภาพยนตร์เป็นหอประชุมแทน มีความพยายามจะบูรณะอาคารนี้หลายครั้ง แต่โจว เอินไหล นายกรัฐมนตรี ไม่อนุมัติเพราะเห็นว่า สิ้นเปลือง ปัจจุบัน เป็นที่ประชุมหลักของสภารัฐกิจ[9]

สภารัฐกิจมีห้องประชุมหกห้องอยู่ที่นี่ สภารัฐกิจประชุมใหญ่และกรรมาธิการของสภาประชุมรายสัปดาห์กัน ณ ห้องหมายเลข 1[10][11] อาคารส่วนเหนือยังเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ (辦公廳) ของสภา[12]

จื่อกวางเก๋อ

จื่อกวางเก๋อ

จื่อกวางเก๋อ (紫光阁; "พลับพลาแสงม่วง") เป็นอาคารสองชั้น จักรพรรดิเจียจิ้ง (嘉靖帝) แห่งราชวงศ์หมิงสร้างขึ้นไว้ใช้สับเปลี่ยนกับอิ๋งไถ แล้วจักรพรรดิคังซี (康熙帝) แห่งราชวงศ์ชิง ปรับปรุงเป็นที่ตรวจพลราชองครักษ์ ต่อมาในรัชสมัยจักรพรรดิเฉียนหลง (乾隆帝) แห่งราชวงศ์ชิง ใช้เป็นที่จัดแสดงแผนผังการศึกและอาวุธที่ยึดมาได้ ครั้น ค.ศ. 1949 ปรับปรุงเป็นที่เต้นรำ ภายหลัง มีการสร้างห้องประชุมสมัยใหม่ขึ้นในส่วนตะวันตกของอาคาร[13] ปัจจุบัน เป็นที่รับรองแขกต่างบ้านต่างเมือง[14]

เรือนริมสระ

เรือนริมสระ (Poolside House) สร้างขึ้นใกล้กับสระคอนกรีตที่มีมาตั้งแต่สมัยสาธารณรัฐจีน สร้างไว้ให้เหมา เจ๋อตง หัวหน้าพรรคสังคมนิยมจีนและผู้นำประเทศ พักอาศัย เพราะเขาชอบทำงานริมสระในร่มมากกว่าที่บ้าน เหมา เจ๋อตง ย้ายเข้าอยู่ในเรือนนี้เมื่อ ค.ศ. 1966 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มปฏิวัติวัฒนธรรม เรือนนี้เดิมมีเครื่องเรือนไม่กี่ชิ้นและไม่มีครัว เจ้าหน้าที่พรรคต้องคอยนำข้าวปลาอาหารมาส่ง ครั้นเหมา เจ๋อตง ตายแล้ว เติ้ง หยิ่งเชา ภริยาของโจว เอินไหล นายกรัฐมนตรี ก็เข้าอาศัยอยู่ช่วงหนึ่ง ก่อนจะย้ายไปอยู่ซีฮฺวาทิง[15][16]

สระในร่ม

สระในร่ม (Indoor Pool) เป็นสระว่ายน้ำส่วนตัวของผู้บริหารพรรคสังคมนิยมจีน สถาบันก่อสร้างและออกแบบชุมชนเมือง (Urban Construction and Design Institute) สร้างขึ้นใน ค.ศ. 1955 ว่ากันว่า คราวที่เหมา เจ๋อตง ผู้นำสูงสุดของประเทศ ไม่อยู่ในที่ประชุมพรรค เจียง ชิง (江青) ภริยาคนที่สามของเขา เสนอให้ที่ประชุมอนุมัติการสร้างสระนี้ เพราะถ้าเขาอยู่ในประชุม เขาจะไม่อนุมัติเป็นแน่ แต่ไม่ว่าคำร่ำลือจะเป็นอย่างไรก็ตาม เหมา เจ๋อตง เองก็ใช้สระนี้อยู่เสมอ เพราะสะดวกกว่าเดินทางไปใช้สระที่มหาวิทยาลัยชิงหฺวา (清華大學) นอกจากนี้ ใน ค.ศ. 1958 เหมา เจ๋อตง ยังนัดพบนีกีตา ครุชชอฟ (Nikita Khrushchev) ผู้นำโซเวียต ที่ริมสระนี้ ปัจจุบัน มีการสร้างพื้นที่ออกกำลังกายเพิ่มเข้าไปด้วย[17]

หยานชิ่งหลัว

หยานชิ่งหลัว (延庆楼; "โรงสำราญเนิ่นนาน") รัฐบาลเป่ย์หยางสร้างขึ้นราว ค.ศ. 1922 และนายพลเฉา คุน (曹錕) ใช้เป็นที่ทำงาน พร้อมพาภริยาน้อยใหญ่เข้ามาอาศัย เมื่อเฉา คุน ถูกโค่นล้มใน ค.ศ. 1924 แล้ว เขาถูกจองจำไว้ในตึกนี้สองปี[18][19]

ว่านช่านเตี้ยน

ว่านช่านเตี้ยน (万善殿; "ตำหนักหมื่นธรรม") เป็นวัดพุทธศาสนา ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งตะวันออกของทะเลกลาง จักรพรรดิชุ่นจื้อ (順治帝) แห่งราชวงศ์ชิง สร้างให้แก่ภิกษุรูปหนึ่งที่ทรงเลื่อมใส[1]

ฉุ่ย-ยฺหวินเซี่ย

ฉุ่ย-ยฺหวินเซี่ย

ฉุ่ย-ยฺหวินเซี่ย (水云榭; "ศาลาเมฆน้ำ") ตั้งอยู่บนเกาะแห่งหนึ่งในทะเลกลาง เป็นที่ไว้ศิลาจารึกของจักรพรรดิเฉียนหลง[1]

ส่วนใต้

ส่วนใต้ของจงหนานไห่เป็นกองบัญชาการพรรคสังคมนิยมจีน รวมถึงสำนักงานและที่ประชุมของเลขาธิการ (General Secretary), คณะกรรมการบริหารสูงสุด (Politburo), และคณะกรรมาธิการสามัญ (Standing Committee) ของพรรค ประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ ดังนี้

หฺวาเหรินถัง

หฺวาเหรินถัง (怀仁堂; "หอเชิดชูกุศล") เป็นอาคารสองชั้น ฉือสี่ไท่โฮ่วใช้ทรงงานแทนอาคารหย่างซินเตี้ยน (养心殿) ในวังต้องห้าม ต่อมาเมื่อเกิดกบฏนักมวย อัลเฟรด วอน วัลเดอร์ซี (Alfred von Waldersee) นายพลเยอรมันผู้นำพันธมิตรแปดชาติ ใช้เป็นที่บัญชาการ จนเพลิงไหม้เสียหาย ฉือสี่ไท่โฮ่วจึงสั่งให้สร้างใหม่ใน ค.ศ. 1902 ใช้งบประมาณห้าล้านตำลึง แล้วเสด็จมาประทับที่นี่จนสิ้นพระชนม์ใน ค.ศ. 1908[20]

เมื่อตั้งสาธารณรัฐจีนขึ้นแล้ว ยฺเหวียน ชื่อไข่ ประธานาธิบดี ใช้อาคารนี้เป็นที่รับแขกต่างชาติ และรับการเยี่ยมคารวะเนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ ต่อมาเมื่อยฺเหวียน ชื่อไข่ ตายแล้ว เฉา คุน ขึ้นเป็นประธานาธิบดี ใช้อาคารนี้เป็นที่พักส่วนตัว ครั้นรัฐบาลเป่ย์หยางหมดอำนาจลงแล้ว อาคารนี้ก็ไม่ได้ใช้อีก[4]

เมื่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนแล้ว อาคารนี้เป็นที่ประชุมปรึกษาทางการเมืองของปวงชนชาวจีน (中国人民政治协商会议) ครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1949 และที่ประชุมใหญ่ผู้แทนราษฎรของประชาชาติ (全国人民代表大会) ครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1954[21] ปัจจุบัน พรรคสังคมนิยมจีนใช้เป็นที่ประชุมหลักของคณะกรรมการบริหารสูงสุด และเป็นที่ประชุมในบางโอกาสของคณะกรรมาธิการสามัญ[22][23] ทั้งยังใช้ประชุมกลุ่มผู้นำย่อย (领导小组) เช่น กลุ่มผู้นำย่อยส่วนกลางด้านการเงินและเศรษฐกิจ (中央财经领导小组) และกลุ่มผู้นำย่อยส่วนกลางเพื่อการปฏิรูปอย่างเข้มข้นและรอบด้าน (中央全面深化改革领导小组)[24][25]

แหล่งที่มา

WikiPedia: จงหนานไห่ http://dangshi.people.com.cn/BIG5/85039/9877451.ht... http://dangshi.people.com.cn/GB/85039/13482622.htm... http://history.people.com.cn/GB/205396/14033197.ht... http://www.people.com.cn/GB/198221/198819/198860/1... http://blog.sina.com.cn/s/blog_494d86ef0101gvgf.ht... http://blog.sina.com.cn/s/blog_739803350102wbrv.ht... http://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_1250791 http://www.25dx.com/beijing/2006/200607/2006-07-09... http://www.360doc.com/content/16/0507/08/11325398_... http://www.360doc.com/content/17/0321/00/40167318_...