สถานีย่อยจดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวโครินธ์ ฉบับที่ 2[1] (
อังกฤษ: The Second Epistle of Paul to the Corinthians) เป็นหนังสือเล่มที่ 8 ของ
คัมภีร์ไบเบิลภาค
พันธสัญญาใหม่เช่นเดียวกันกับ "
จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวโครินธ์ ฉบับที่ 1"
นักบุญเปาโลเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้น ซึ่งเดิมเป็นจดหมายฉบับที่สองที่ส่งถึง
คริสตจักรในเมืองโครินธ์ จดหมายฉบับนี้ถูกเขียนหลังจากฉบับแรกไม่กี่เดือน มีเรื่องราวเกี่ยวกับอัตชีวประวัติของ
เปาโลอัครทูตมากที่สุด เมื่อเทียบกับจดหมายฉบับอื่น ๆ จากหลักฐานที่ว่า
หนังสือโครินธ์ฉบับที่ 1 ซึ่งเป็นจดหมายฉบับแรกถูกเขียนในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปีค.ศ. 55 ดังนั้น
2 โครินธ์ จะถูกเขียนขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปีเดียวกันเปาโลเขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้น เพราะหลังจากที่ได้ส่งจดหมายฉบับแรกไปแล้ว ทราบมาว่าปัญหาต่าง ๆ และการแบ่งแยกกลุ่มใน
คริสต์ศาสนิกชนกันเอง ที่เปาโลพูดไว้ใน
หนังสือโครินธ์ ฉบับที่ ยังไม่หมดไป ยิ่งไปกว่านั้น ผู้สอนผิด ๆ บางคนหลังจากได้รับจดหมายฉบับแรกแล้ว กลับท้าทายเรื่องสิทธิและอำนาจของ
นักบุญเปาโลว่า ไม่ใช่อัครทูตแท้จริงที่
พระเยซูแต่งตั้ง บางคนกล่าวหาว่าเปาโลยักยอกเงินที่ได้เรี่ยไรมา เพื่อช่วยเหลือคริสต์ศาสนิกชนที่ยากจนในกรุง
เยรูซาเลมไปใช้ส่วนตัว
หนังสือโครินธ์ ฉบับที่ 2 เป็นจดหมายที่เปาโลเขียนบรรยายความรู้สึกส่วนตัวออกมามากที่สุด จดหมายเริ่มต้นด้วยความสิ้นหวังเพราะความทุกข์ยากที่ได้รับ "พี่น้องทั้งหลาย เราอยากให้ท่านทราบถึงความทุกข์ยากที่เกิดขึ้นแก่เราในแคว้นเอเซีย ซึ่งทำให้เราหนักใจเหลือกำลัง จนเราเกือบหมดหวังที่จะเอาชีวิตรอดมาได้"
[2] แต่ในตอนกลางของจดหมาย เปาโลบอกผู้อ่านให้ทราบว่า "เพราะว่าการทุกข์ยากเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเรา ซึ่งเรารับอยู่ประเดี๋ยวเดียวนั้น จะทำให้เรามีศักดิ์ศรีถาวรมากหาที่เปรียบมิได้"
[3] และเปลี่ยนเป็นความปิติยินดีในตอนท้าย "เพราะว่าเมื่อเราอ่อนแอ และท่านเข้มแข็ง เราก็ยินดี เราอธิษฐานขอสิ่งนี้ด้วย คือขอให้ท่านทั้งหลายบรรลุถึงความบริบูรณ์ในพระคริสต์"
[4]วัตถุประสงค์ที่เปาโลเขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้นมีอยู่ 3 ประการ ประการแรกคือ ต้องการยืนยันตนเองในฐานะของอัครทูตต่อชาวเมืองโครินธ์ โดยชี้แจงว่า
การประกาศข่าวดีและเทศนาที่เมืองโครินธ์นั้น ไม่ได้รับประโยชน์อะไรเป็นส่วนตัว นอกจากทำตามหน้าที่ของอัครทูต ในทางตรงกันข้าม กลับต้องเผชิญความยากลำบากต่าง ๆ "แต่เราผู้เป็นคนรับใช้ของพระเจ้า ได้กระทำตัวให้เป็นที่ชอบในการทั้งปวง โดยความเพียรอดทนเป็นอันมาก ในความทุกข์ยาก ในความขัดสน ในเหตุวิบัติ"
[5] และในฐานะของอัครทูตผู้พร้อมที่จะกวดขันเรื่องการทำบาปด้วย ดังที่ได้เขียนในจดหมายว่า "ข้าพเจ้าได้เตือนท่านที่ทำบาปมาแล้วและบรรดาคนอื่น ๆ ด้วย และบัดนี้ข้าพเจ้าขอเตือนท่านอีก เมื่อข้าพเจ้าไม่ได้อยู่กับท่าน เหมือนกับเมื่อข้าพเจ้าได้อยู่กับท่านในครั้งที่สองนั้นว่า ถ้าข้าพเจ้ามาอีกข้าพเจ้าจะไม่เว้นการติโทษคนเหล่านี้เลย"
[6]ประการที่สองคือ ต้องการย้ำถึงแนวทางการดำเนินชีวิตคริสตชนที่ถูกต้อง ซึ่งเปาโลได้เขียนไว้ตลอดตั้งแต่ในตอนต้นจนถึงตอนท้ายของจดหมาย เช่น การให้อภัยแก่ผู้ที่ทำให้เกิดความทุกข์
[7] การคืนดีกัน
[8] การให้ทานด้วยใจกว้างขวาง
[9] เป็นต้นประการที่สามคือ เปาโลต้องการสรรเสริญพระเจ้าผ่านทางความทุกข์และความอ่อนแอของตนเอง นอกจากผู้อ่านจะทราบได้จากตอนต้น ๆ ของจดหมายแล้วว่า เปาโลต้องประสบความลำบากต่าง ๆ นานา ในตอนท้ายของจดหมายยังทำให้เชื่อได้ว่า เปาโลมีโรคประจำตัวอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่แน่ชัดว่าเป็นอะไร แต่เปาโลเปรียบโรคนี้เหมือนหนามใหญ่อยู่ในเนื้อของตนเอง
[10] แม้ว่าจะมีเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น เปาโลไม่ได้เสื่อมศรัทธาในพระเจ้า แต่สรรเสริญว่า "เหตุฉะนั้นเพราะเห็นแก่
พระคริสต์ ข้าพเจ้าจึงชื่นใจในบรรดาความอ่อนแอของข้าพเจ้า ในการประทุษร้ายต่าง ๆ ในความยากลำบาก ในการถูกข่มเหง ในความอับจน เพราะว่าข้าพเจ้าอ่อนแอเมื่อใด ข้าพเจ้าก็จะแข็งแรงมากเมื่อนั้น"
[11]