ชาวรีวกีว
ชาวรีวกีว

ชาวรีวกีว

รีวกีว (ญี่ปุ่น: 琉球民族 โรมาจิRyūkyū minzoku; โอกินาวะ: Ruuchuu minzuku) หรือ โอกินาวะ (ญี่ปุ่น: 沖縄人 โรมาจิOkinawa jin; โอกินาวะ: Uchinaanchu) ปรากฏในเอกสารต้นกรุงรัตนโกสินทร์ว่า ลิชี่ว (ตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์)[4] หรือ ลิ่วขิ่ว (โคลงภาพคนต่างภาษา)[5] เป็นชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่บนหมู่เกาะรีวกีว ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างคีวชูกับไต้หวัน[6] ซึ่งปัจจุบันคือที่ตั้งของจังหวัดโอกินาวะและคาโงชิมะของประเทศญี่ปุ่น ภาษาของพวกเขาจัดอยู่ในตระกูลภาษาย่อยรีวกีว[7] หนึ่งในสองตระกูลภาษาย่อยของตระกูลภาษาญี่ปุ่น และถูกนับว่าเป็นสำเนียงหนึ่งของภาษาญี่ปุ่น[6]ชาวรีวกีวไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นชนกลุ่มน้อยในญี่ปุ่น เนื่องจากเจ้าหน้าที่จากทางการนับว่าชาวรีวกีวเป็นกลุ่มย่อยของชาวญี่ปุ่น ทำนองเดียวกับชาวยามาโตะและไอนุ กระนั้นถ้าหากว่าชาวรีวกีวเป็นชนกลุ่มน้อย ก็ถือเป็นชนกลุ่มน้อยที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น เพียงแค่จังหวัดโอกินาวะก็มีชาวรีวกีวมากถึง 1.3 ล้านคนอาศัยอยู่ นอกจากนี้ยังมีชาวรีวกีวจำนวนไม่น้อยกว่า 600,000 คน อาศัยกระจายไปยังส่วนอื่น ทั้งภายในประเทศญี่ปุ่นเองและประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก โดยมากจะอาศัยอยู่ในรัฐฮาวาย[8]ผลการศึกษาด้านพันธุกรรมและมานุษยวิทยาพบว่าชาวรีวกีวมีความสัมพันธ์กับชาวไอนุเป็นพิเศษ และมีบรรพบุรุษร่วมกันช่วงยุคก่อนประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นหรือยุคโจมง (10,000-1,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช) ซึ่งอพยพมาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อนจะผสมข้ามเผ่าพันธุ์กับชาวยามาโตะในยุคยาโยอิ (1,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช – ค.ศ. 300) ซึ่งอพยพมาจากเอเชียตะวันออก (โดยเฉพาะจากจีนและคาบสมุทรเกาหลี)[3][9][10][11][12][13][14] ชาวรีวกีวมีวัฒนธรรมเป็นของตนเอง เช่น ความเชื่อ ศาสนา หรือแม้แต่อาหาร โดยมีการเพาะปลูกข้าวเพื่อบริโภคครั้งแรกราวศตวรรษที่ 12 ประชากรอาศัยอยู่ตามหมู่เกาะอย่างโดดเดี่ยวเป็นเวลาหลายศตวรรษ ราวศตวรรษที่ 14 ได้มีการรวมสามอาณาจักรเป็นรัฐเดียวคืออาณาจักรรีวกีว (ค.ศ. 1429–1879) ซึ่งโดดเด่นด้านการค้าทางทะเลและมีสถานะเป็นรัฐบรรณาการของจีนยุคราชวงศ์หมิงเป็นต้นมา[6] กระทั่ง ค.ศ. 1609 อาณาจักรรีวกีวถูกแคว้นซัตสึมะรุกราน แต่ยังมีอิสระในฐานะรัฐประเทศราช[15]กระทั่งในยุคเมจิ อาณาจักรรีวกีวถูกยุบเป็นแคว้นรีวกีว (1872–1879) หลังถูกจักรวรรดิญี่ปุ่นยึดครอง ในปี ค.ศ. 1879 มีการผนวกดินแดนรวมเข้ากับประเทศญี่ปุ่น แล้วจัดตั้งจังหวัดโอกินาวะ ส่วนพระเจ้าโช ไท พระมหากษัตริย์พระองค์สุดท้ายของรีวกีวถูกเนรเทศไปโตเกียวหลังจากนั้น[6][16][17] ค.ศ. 1895 ประเทศจีนอ้างสิทธิเหนือหมู่เกาะรีวกีว[18] ในช่วงเวลานี้ทางการญี่ปุ่นได้ทำการปราบปรามประเพณี วัฒนธรรม และภาษาพื้นเมืองของชาวรีวกีวเพื่อกลืนเป็นชาวญี่ปุ่นหรือชาวยามาโตะ[6][19][20][21][22][23] หลังสงครามโลกครั้งที่สอง หมู่เกาะรีวกีวถูกสหรัฐเข้าปกครองในปี ค.ศ. 1945–1950 และ ค.ศ. 1950–1972 ช่วงเวลานี้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนรีวกีวจำนวนมาก[24][25] อันก่อให้เกิดความไม่พอใจทั้งรัฐบาลญี่ปุ่นและหน่วยงานทหารของสหรัฐที่ประจำการในโอกินาวะอย่างรุนแรง ดังจะเห็นได้จากการเกิดขบวนการรีวกีวอิสระ (Ryukyu independence movement)[7][26]

ชาวรีวกีว

เปรู -[2]หมายเหตุ
ฟิลิปปินส์ -หมายเหตุ
สหรัฐ -[2]หมายเหตุ
คิวบา -[2]หมายเหตุ
ไมโครนีเซีย -[2]หมายเหตุ
ปารากวัย -[2]หมายเหตุ
บราซิล -[2]หมายเหตุ
เอกวาดอร์ -หมายเหตุ
ปาเลา -หมายเหตุ
โบลิเวีย -[2]หมายเหตุ
อาร์เจนตินา -[2]หมายเหตุ
ไต้หวัน -หมายเหตุ
ญี่ปุ่น 300,000[1]หมายเหตุ
เม็กซิโก -[2]หมายเหตุ
นิวแคลิโดเนีย -[2]หมายเหตุ
จีน -หมายเหตุ
แคนาดา -[2]หมายเหตุ

แหล่งที่มา

WikiPedia: ชาวรีวกีว http://www.asianscientist.com/2012/12/in-the-lab/r... http://www.trussel.com/prehist/news111.htm http://www.japantimes.co.jp/news/2009/05/12/news/b... http://apjjf.org/-Steve-Rabson/2667/article.html http://www.uchinanchu.org/history/list_of_crimes.h... https://books.google.com/books?id=NjsfAwAAQBAJ https://books.google.com/books?id=TnsVoSw8hRgC https://books.google.com/books?id=ULyu8dNqS1sC https://books.google.com/books?id=aun8BRHTDEAC https://books.google.com/books?id=oZCOAwAAQBAJ