หลังการวางขาย ของ ซัมซุง_กาแลคซีเอส_3

กาแลคซีเอส 2 (ซ้าย) กับ กาแลคซีเอส 3

การขายเชิงพาณิชย์

จากการที่พนักงานของซัมซุงที่ไม่ระบุชื่อ พูดกับ "โคเรีย อีโคโนมิกเดลี" (Korea Economic Daily) ว่า "เอส 3 นั้นมีการสั่งซื้อมากกว่า 9 ล้านเครื่อง จาก 100 เครือข่ายผู้ให้บริการ ภายใน 2 สัปดาห์จากการเปิดตัวในลอนดอน" ทำให้เป็นอุปกรณ์ที่มีการสั่งซื้อเร็วและมากที่สุดในประวัติศาสตร์[119] โดยเมื่อเปรียบเทียบกับ ไอโฟน 4เอส ซึ่งมีการสั่งซื้อเพียง 4 ล้านเครื่องเท่านั้น[120] สำหรับรุ่นเรือธงรุ่นก่อนของซัมซุง อย่างกาแลคซีเอส 2 มีการนำส่งอุปกรณ์ 10 ล้านเครื่องภายใน 5 เดือน ในเดือนเดียวกันกับการเปิดตัวที่ลอนดอน การประมูลและซื้อขายสินค้าใน อีเบย์ เพิ่มขึ้น 119 เปอร์เซนต์ในการขายโทรศัพท์มือสอง ซึ่งอีเบย์ได้ออกมาแถลงว่า "เป็นครั้งแรกสำหรับอุปกรณ์ยี่ห้ออื่นนอกเหนือจากแอปเปิลที่ผู้ใช้ตื่นตัวในการซื้อ-ขายสินค้า"[121]

เอส 3 ถูกวางขายใน 28 ประเทศในแถบทวีปยุโรป และ ตะวันออกกลาง ในวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2555[122] เพื่อเป็นการโฆษณาสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นใหม่ของซัมซุง จึงจัดการทัวร์ใน 9 เมือง คือ ซิดนีย์, นิวเดลี และเมืองใน ประเทศจีน, ประเทศญี่ปุ่น, ประเทศเกาหลีใต้ และ สหรัฐอเมริกา[123]

เอส 3 นั้นช่วยให้ส่วนแบ่งทางการตลาดดีขึ้นในหลายประเทศ เช่น ประเทศอินเดีย ซึ่งคาดว่าซัมซุงจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดร้อยละ 60 ของประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้อยู่ที่ร้อยละ 46[124] หลังจากการวางขาย 1 เดือน ส่วนแบ่งทางการตลาดในประเทศฝรั่งเศส มีมากขึ้นเป็น 60 เปอร์เซนต์ รวมไปถึงส่วนแบ่งทางการตลาดสมาร์ตโฟนเกินร้อยละ 50 ในประเทศเยอรมนี และ ประเทศอิตาลี[125] และส่วนแบ่งทางการตลาดในสหราชอาณาจักร มีมากขึ้นถึงร้อยละ 40 ขณะที่ไอโฟน 4เอส นั้นลดจากร้อยละ 25 เหลือเพียงร้อยละ 20[126] เอส 3 ถูกวางแผนในการวางขายในทวีปอเมริกาเหนือ ในวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2555 แต่ด้วยความต้องการ ที่สูง ทำให้ผู้ให้บริการเครือข่ายในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาได้รับเครื่องช้า และวางขายช้าหลายวัน ในขณะที่บางผู้ให้บริการที่จำกัดจำนวนเครื่องในการขาย[127] เอส 3 ในสหรัฐอเมริกา ถูกเปิดตัวที่ นิวยอร์ก โดย แอชลีย์ กรีเน นักแสดงจากภาพยนตร์แวมไพร์ ทไวไลท์ ร่วมด้วย สกริลเลกซ์ นักร้องแนว ดั๊บสเตป จากสกายไลต์สตูดิโอ[128]

ซัมซุงคาดว่า ปลายเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2555 เอส 3 จะถูกวางขายบน 296 ผู้ให้บริการเครือข่ายใน 145 ประเทศ[4] และมากกว่า 10 ล้านที่ถูกขายไปแล้ว[129] ชิน จอง-กยุน ประธานแผนกการสื่อสารของซัมซุง ได้ยืนยันว่าในวันที่ 22 กรกฎาคม เอส 3 ถูกขายไปแล้ว 10 ล้านเครื่อง[130] ตามการประเมินโดย ยูบีเอส (UBS) บริษัททางการเงินของสวิตเซอร์แลนด์ ซัมซุงวางขายเอส 3 จำนวน 5–6 ล้านเครื่อง ในไตรมาสที่ 2 ของปี พ.ศ. 2555 และ 10–12 ล้านเครื่อง ต่อไตรมาส ในช่วงเวลาที่เหลือของปี และยิ่งกว่านั้น บีเอ็นพี ปารีบาส (BNP Paribas) บริษัททางการเงินในปารีส กล่าวว่าเอส 3 นั้นจะถูกขาย 15 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ 3 ของปี พ.ศ. 2555[131] ส่วน โนมุระ (Nomura) บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินในประเทศญี่ปุ่น คิดว่าน่าจะถูกวางขายมากถึง 18 ล้านเครื่อง[132] และเอส 3 จะถูกขาย 40 ล้านเครื่องภายในสิ้นปี[133] เพื่อความต้องการสูง ซัมซุงจำเป็นที่ต้องจ้างพนักงาน 75,000 คน และโรงงานในประเทศเกาหลีใต้นั้นสามารถผลิตได้สูงสุด 5 ล้านเครื่องต่อเดือน[119][134]

ปัญหาในการผลิต ทำให้เกิดการผิดปกติและบกพร่องในกระบวนการ "ไฮเปอร์กลาซิง" (hyper-glazing) ข้อบกพร่องนี้ส่งผลให้การขาดแคลนพลาสติกสีน้ำเงิน สำหรับการผลิตตัวเครื่องสีน้ำเงิน[16] โดยปัญหานี้ได้ถูกแก้ไขแล้วในภายหลัง อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์ส คาดว่าจะมีปัญหาในการขาดตลาดของ กาแลคซีเอส 3 จำนวน 2 ล้านเครื่องในระหว่างการเปิดตัวในเดือนแรก[135]

วันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2555 ซัมซุงได้เปิดเผยว่ากาแลคซีเอส 3 นั้นถูกขายแล้ว 20 ล้านเครื่องใน 100 วัน และทำให้ขายได้เป็น 3 และ 6 เท่ามากกว่า กาแลคซีเอส 2 และกาแลคซีเอส ตามลำดับ โดยการวางขายในทวีปยุโรป มากถึงร้อยละ 25 โดยมียอดขาย 6 ล้านเครื่อง ตามมาด้วย ทวีปเอเชีย 4.5 ล้านเครื่อง และ สหรัฐอเมริกา 4 ล้านเครื่อง ส่วนการขายในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของกาแลคซีเอส 3 สามารถขายได้ 2.5 ล้านเครื่อง[14] และในเวลาเดียวกันซัมซุงได้ยืนยันว่า การขายเอส 3 นั้น ยอดขายดีกว่า ไอโฟน 4เอส ในสหรัฐอเมริกา[136]

ในไตรมาสที่ 3 ของปี พ.ศ. 2555 กาแลคซีเอส 3 มากกว่า 18 ล้านเครื่อง ถูกวางขาย และทำให้เป็นสมาร์ตโฟนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เหนือไอโฟน 4เอส ที่สามารถขายได้ 16.2 ล้านเครื่อง นักวิเคราะห์คิดว่าสาเหตุที่ไอโฟน 4เอส มียอดขายตกต่ำ เป็นเพราะการยืนยันการเปิดตัวของ ไอโฟน 5[137]

การวิพากษ์วิจารณ์

เดวิด โปค นักวิจารณ์เทคโนโลยี วิจารณ์กาแลคซีเอส 3[138]

การวิจารณ์กาแลคซีเอส 3 ในเชิงบวก นักวิจารณ์ระบุถึงการผสมผสานของคุณสมบัติต่าง ๆ เช่น เอสวอยซ์, หน้าจอ, ความเร็วการประมวลผล และ รูปร่างที่มีดีกว่า ไอโฟน 4เอส และ เอชทีซี วันเอ็กซ์[71][82] วลาด ซาโวฟ นักข่าว เดอะเวิร์จ (The Verge) ได้ระบุว่ามันคือ "ชัยชนะแห่งเทคโนโลยี"[139] ขณะเดียวกัน นาตาชา ลอมาส นักข่าวซีเน็ต (CNET) ได้ยกย่องว่า "มันบางและเบาอีกทั้งยังเป็นสมาร์ตโฟนควอด-คอร์ด้วย" และเธอเรียกมันว่า "เฟอร์รารีแห่งโทรศัพท์แอนดรอยด์" (Ferrari of Android phones)[82] รวมไปถึงฉายา "เจ้าชายในมวลหมู่โทรศัพท์" (a prince among Android phones) โดย เดฟ โอลีเวอร์ นักข่าวจากไวร์ (Wired) และ ราชาแห่งแอนดรอยด์ (king of Android) จากอีแซต เดเดเซด จากนิตยสารสตัฟฟ์ (Stuff)[140][141] แกเรธ เบวิส นักข่าวเทคเรดาร์ (TechRadar) ระบุว่า "เอส 3 เป็นเทคโนโลยีที่เร็ว, ชาญฉลาด และสเปคดีที่สุดของเทคโนโลยีนี้"[142] แมตต์ วอร์แมน จาก เดอะเดลีเทเลกราฟ (The Daily Telegraph) กล่าวว่า "ได้ใช้เวลาสั้น ๆ กับเอส 3 ขอบอกเลยว่าเป็นรุ่นต่อของเอส 2 ที่จะประสบความสำเร็จ"[143]

นักวิจารณ์ได้วิจารณ์มากมายในรุ่นเรือธงของซัมซุง ในปี พ.ศ. 2555 นี้[144] ว่าเป็น "นักฆ่าไอโฟน"[17] ทำให้ผู้ใช้ที่ชื่นชอบแอปเปิลบางส่วนเปลี่ยนมาใช้เอส 3[145] โดยเอส 3 ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ส่วนไอโฟนนั้นใช้ไอโอเอส ด้วยการออกแบบและคุณสมบัติที่ดีกว่า ทั้งสมาร์ตสเตย์, จอที่ใหญ่กว่า, หน่วยประมวลผลควอด-คอร์ รวมไปถึงการเชื่อมต่อต่าง ๆ [146]

เอส 3 เป็นสมาร์ตโฟน แอนดรอยด์เครื่องแรกที่มีราคาเปิดตัวสูงกว่า ไอโฟน 4เอส ที่แอปเปิลเปิดตัวเมื่อปี พ.ศ. 2554[147] ทิม เวเบอร์ นักข่าวธุรกิจของ บีบีซี ได้กล่าวว่า "กาแลคซีเอส 3 รุ่นใหม่ของซัมซุง เขาดูมุ่งมั่นที่จะขยับไปอยู่เหนือคู่แข่งอย่างแอปเปิล"[122]

ตรงกันข้าม ในการวิจารณ์ในเรื่องการออกแบบและความรู้สึกของโทรศัพท์ บ้างก็ว่าโพลีคาร์บอเนตนั้นมีราคา "ถูก"[148] และทำให้ "รู้สึกลื่น"[142] เอสวอยซ์ "แย่" กว่า ซีรี รวมไปถึงการรับฟังเสียงผู้ใช้,ที่ไม่ตอบสนองในหลาย ๆ คำ[142][149] รวมไปถึงปัญหาในการสนทนาโทรศัพท์[150] โดยความคิดเห็นต่าง ๆ จากผู้ใช้ได้ระบุว่า การปรับแสงหน้าจออัตโนมัตินั้น ค่อนข้างที่จะข้ามขั้นเกินไป (เช่น สว่างเป็นมืด)[N 2] อย่างไรก็ตาม เอส 3 มีอายุการใช้งานแบตเตอรีมากกว่าอุปกรณ์ของเอชทีซี 2 เท่า[152][N 3] อย่างไรก็ตามผู้ใช้บางคนได้ออกมาวิจารณ์ว่า "เมื่อเอส 3 ลงโปรแกรมเยอะ เครื่องจะเกิดอาการช้า"[153][N 4]

ในช่วงปลายเดือนกันยายน พ.ศ. 2555 เทคเรดาร์ (TechRadar) ได้จัดอันดับว่า เอส 3 เป็นอันดับที 1 ของ 20 อันดับโทรศัพท์มือถือยอดเยี่ยม[18] นิตยสาร "สตัฟฟ์" ได้จัดอันดับให้เอส 3 เป็นอันดับที 1 ของ 10 อันดับสมาร์ตโฟนยอดเยี่ยม ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2555[19] นอกจากนั้นกาแลคซีเอส 3 ยังได้รับรางวัล "ยูโรเปียน โมบายล์โฟน ออฟ 2012–13" (European Mobile Phone of 2012–13) จาก สมาคมภาพและเสียงแห่งยุโรป[20] ในปี พ.ศ. 2555 กาแลคซีเอส 3 ยังได้รับรางวัล "มือถือแห่งปี" (Phone of the Year) จากนิตยสาร ที 3 โดสามารถเอาชนะไอโฟน 4เอส, โนเกีย ลูเมีย 900 และ โซนี่ เอ็กซ์พีเรีย เอส และอื่น ๆ [21] รวมไปถึงการโหวตให้เป็นมือถือแห่งปี จาก เอส 21[154] ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 กาแลคซีเอส 3 ได้รางวัล "สมาร์ตโฟนยอดเยี่ยม" (Best Smartphone) จากจีเอสเอ็มเอ ในงานโมบายล์เวิลด์คองเกรส[155]

ใกล้เคียง

ซัมซุง กาแลคซี่ โน้ต (ชุด) ซัมซุง ซัมซุง กาแลคซีเอส 3 ซัมซุง กาแลคซี่ ซัมซุง กาแลคซีเอส 8 ซัมซุง กาแลคซีเอส 7 ซัมซุง กาแลคซีเอส 6 ซัมซุง กาแลคซีเอส 9 ซัมซุง กาแลคซี วิน ซัมซุง กาแลคซีเอส (สมาร์ตโฟน)

แหล่งที่มา

WikiPedia: ซัมซุง_กาแลคซีเอส_3 http://www.heraldsun.com.au/technology/smartphones... http://www.news.com.au/technology/smartphones/sams... http://www.pcauthority.com.au/News/299414,samsung-... http://www.pcauthority.com.au/News/302430,samsung-... http://www.smh.com.au/digital-life/mobiles/samsung... http://www.t3.com.au/2012/04/17/samsung-galaxy-s3-... http://www.theaustralian.com.au/business/profit-lo... http://www.android.com/about/ice-cream-sandwich/ http://androidspin.com/2012/12/03/android-dominate... http://english.chosun.com/site/data/html_dir/2012/...