รัชสมัยตอนต้น ของ ซุนโฮ_(ซุน_เฮ่า)

ในตอนแรก ประชาชนชาวอู๋รู้สึกประทับใจกับพระจักรพรรดิองค์ใหม่ ในขณะที่พระองค์จะทำการลดหย่อนเก็บภาษี ช่วยเหลือแก่คนยากจน และปล่อยอิสตรีจำนานมากที่เฝ้ารอคอยอยู่ในพระราชวังได้ออกมาเพื่อให้พวกนางได้แต่งงาน อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าความคาดหวังนั้นได้พังทลายลง เมื่อพระซุนโฮทรงประพฤติที่โหดร้ายในรับสั่งลงโทษ เชื่อเรื่องโชคลาง และคลุกเคล้าสุรากับนารี นอกจากนี้พระองค์ยังทรงสั่งถอดยศของพระมเหสีม่ายของพระเจ้าซุนฮิว จากจูไทเฮามาเป็น "จิงฮองเฮา" พระองค์ทรงประกาศเกียรติคุณแก่พระมารดาของพระองค์ พระชายาเหอ โดยแต่งตั้งให้เป็นไทเฮาแทน ในขณะที่ได้ถวายพระราชสมัญญานามภายหลังมรณกรรมแก่ซุนโห พระราชบิดาของพระองค์ว่า "พระจักรพรรดิเหวิน" ผู่หยังซิ่งและเตียวเป๋ารู้สึกตกตะลึงและผิดหวังอย่างยิ่งที่เลือกอัญเชิญจักรพรรดิองค์นี้ขึ้นครองราชย์ เมื่อความผิดหวังของพวกเขาได้ถูกรายงานกราบทูลไปยังจักรพรรดิ จึงรับสั่งจับกุมพวกเขาและประหารชีวิตพร้อมครอบครัวทั้งตระกูลในปลาย พ.ศ. 807 ใน พ.ศ. 807 พระองค์ยังแต่งตั้งฮูหยินเตงเป็นพระจักรพรรดินี

ใน พ.ศ. 808 ซุนโฮทรงบีบบังคับให้อดีตจูไทเฮากระทำอัตวินิบากกรรมและเนรเทศพระราชโอรสทั้งสี่พระองค์ของพระเจ้าซุนฮิว ในไม่ช้าพระองค์ทรงรับสั่งประหารสองพระราชโอรสองค์โตอย่างซุนว่าน (อดีตองค์รัชทายาท) และซุนกง จากนั้นพระองค์ทรงเชื่อในคำทำนายจากโหรหลวงว่ารัศมีพระจักรพรรดิได้เคลื่อนย้ายจากมณฑลหยาง(หยางโจว)ไปยังมณฑลจิง(จิงโจว) และพลังของจิงโจวจะเอาชนะพลังของหยางโจวได้ ทรงดำเนินย้ายเมืองหลวงจากเจี้ยนเย่ไปยังอู๋เฉิงด้วยค่าใช้จ่ายที่สูง นอกจากนี้เขายังสั่งประหารชีวิตขุนนางที่แสดงความคิดเห็นที่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยสุร่ยสุร่ายประจำของพระองค์ ขุนนางที่สำคัญเพียงคนเดียวที่สามารถพูดได้อย่างอิสระโดยไม่ได้รับผลกระทบคือ Lu Kai หลานชายของลกซุน และหนึ่งในอัครมหาเสนาบดีที่รับใช้ควบคู่กับบั้นเฮ็ก เนื่องจากประชาชนต่างเคารพนับถืออย่างมากที่มีต่อ Lu Kai

ใน พ.ศ. 809 ราชวงศ์จิ้น ซึ่งได้รับการสถาปนาขึ้นมาใหม่ในฐานะรัฐสืบทอดของรัฐเฉาเว่ย์ ซึ่งเป็นคู่ปรับของรัฐอู่ ภายหลังจากที่พระจักรพรรดิองค์แรก สุมาเอี๋ยนได้แย่งชิงราชบังลังก์แห่งรัฐเว่ย์ ได้พยายามสงบศึกกับรัฐอู๋ แต่พระซุนโฮทรงคิดที่จะโจมตีราชวงศ์จิ้นแทน แต่ในขณะที่พระองค์ไม่ได้ทำเช่นนั้นในช่วงขณะนั้น พระองค์ก็ไม่ได้ทำสงบศึกกับราชวงศ์จิ้น

ใน พ.ศ. 810 ประชาราษฎร์ในเจ้อเจียงในปัจจุบันไม่สามารถทนต่อการเก็บภาษีอย่างหนักของพระเจ้าซุนโฮได้(เพื่อสนับสนุนความฟุ่มเฟือยของพระองค์) จึงก่อการกบฎและลักพาตัวซุนเฉียน พระอนุชาของพระเจ้าซุนโฮมาเป็นหุ่นเชิด พวกเขามาถึงเจี้ยนเย่ แต่ในที่สุดก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับ Ding Gu (丁固) และจูกัดเจ้ง ซึ่งรับผิดชอบสำหรับการป้องกันเจี้ยนเย่ แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานว่าซุนเฉียนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อกบฏจริง แต่พระเจ้าซุนโฮไม่เพียงแต่รับสั่งให้ประหารชีวิตซุนเฉียนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพระมารดาและซุนจุ๋น พระอนุชาองค์เล็กของพระองค์ซึ่งถูกประหารชีวิตพร้อมกับพระมารดาเดียวกัน พระเจ้าซุนโฮทรงเชื่อว่า นี่เป็นผลจากการปฏิบัติตามคำทำนายที่ทำให้พระองค์ย้ายเมืองหลวงไปยังอู่เฉิง และในปีต่อมา พระองค์ก็ย้ายเมืองหลวงกลับไปที่เจี้ยนเย่

ใน พ.ศ. 812 พระเจ้าซุนโฮเริ่มนโยบายโจมตีชายแดนจิ้นเป็นครั้งคราว พระองค์ทรงมีขุนพลนามว่า Zhu Ji (朱繼) เข้าโจมตีกังแฮและบั้นเฮ็กเข้าโจมตีซงหยง ในขณะที่พระองค์เองก็เตรียมที่จะเข้าโจมตีเหอเฝ่ย์ การโจมตีครั้งนี้ถูกขับไล่โดยกองกำลังจิ้น เช่นเดียวกับการโจมตีหลายครั้งในภายหลัง

ใน พ.ศ. 813 Lu Kai ได้ถึงแก่อสัญกรรม และในไม่ช้าก็ไม่เหลือใครในฝ่ายบริหารที่กล้าออกมาแสดงความคิดเห็นอีกต่อไป ภายหลังการถึงแก่อสัญกรรมของ Lu Kai พระเจ้าซุนโฮทรงเนรเทศครอบครัวตระกูลของ Lu Kai ไปยังเจี้ยนอัน ลกข้อง บุตรชายของลกซุน ซึ่งเป็นขุนพลที่รับผิดชอบในการปกป้องชายแดนตะวันตกของอู๋ ได้ยื่นฎีกาคำร้องขอให้มีการปฏิรูปเป็นระยะ แต่พระเจ้าซุนโฮทรงมักจะเพิกเฉย แม้ว่าพระองค์จะไม่ได้รับสั่งลงโทษลกข้องก็ตาม