ความบกพร่อง ของ ทฤษฎีจิต

ความบกพร่องของ ToM หมายถึงความยากลำบากในการมองจากมุมมองของผู้อื่นซึ่งบางครั้งเรียกว่า mind-blindness (การบอดจิต)[12]ผู้มีความบกพร่องอาจจะมีปัญหาในการเข้าใจความตั้งใจของคนอื่น ในการเข้าใจว่าพฤติกรรมของตนมีผลต่อผู้อื่นอย่างไร และในการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับผู้อื่น[13] ความบกพร่องของ ToM พบแล้วในคนไข้โรคออทิซึม (autism spectrum disorder) โรคจิตเภท โรคสมาธิสั้น[2] ในบุคคลที่เกิดพิษต่อประสาท (neurotoxicity) จากการเสพสุรา[3]ในบุคคลที่นอนไม่พอ และในบุคคลที่กำลังประสบความเจ็บปวดทางกายหรือทางใจ

ออทิซึม

ในปี ค.ศ. 1985 มีงานวิจัยที่แสดงว่า เด็กที่มีโรคออทิซึมไม่ใช้ทฤษฎีจิต[4] ซึ่งแสดงว่า เด็กโรคออทิซึมมีปัญหาในการทำงานที่ต้องเข้าใจความเชื่อของคนอื่นปัญหาเหล่านี้ก็ยังมีอยู่แม้เมื่อเทียบกับเด็กปกติที่มีความสามารถในการสื่อสารเท่า ๆ กัน[14] และตั้งแต่นั้น การไม่ใช้ทฤษฎีจิตก็ได้มาเป็นตัวกำหนดอย่างหนึ่งของโรคออทิซึม

คนไข้ที่วินิจฉัยว่ามีโรคออทิซึม มีปัญหาอย่างรุนแรงในการเข้าใจสภาพจิตใจของคนอื่น และดูเหมือนจะขาดสมรรถภาพต่าง ๆ ของทฤษฎีจิต[4] นักวิจัยในประเด็นนี้ได้พยายามศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างทฤษฎีจิตและโรคออทิซึมพวกหนึ่งสมมุติว่า ทฤษฎีจิตมีบทบาทในการเข้าใจจิตของผู้อื่น และในการเล่นสมมุติของเด็ก ๆ[15] ตามนักวิชาการพวกนี้ ทฤษฎีจิตเป็นสมรรถภาพในการสร้างตัวแทนทางจิตเกี่ยวกับความคิด ความเชื่อ และความต้องการ ไม่ว่าจะในเรื่องจริงหรือเรื่องสมมุติซึ่งสามารถอธิบายว่า ทำไมเด็กโรคออทิซึมจึงมีความบกพร่องอย่างรุนแรงทั้งในทฤษฎีจิตและในการเล่นสมมุติ

แต่ว่า ก็มีนักวิชาการอีกท่านหนึ่งที่ใช้คำอธิบายโดยอารมณ์ความรู้สึกทางสังคม[16]คือเสนอว่า คนไข้โรคออทิซึมมีความบกพร่องของทฤษฎีจิตที่มีผลมาจากความบิดเบือนในการเข้าใจและการตอบสนองต่ออารมณ์เขาเสนอว่า มนุษย์ที่มีพัฒนาการปกติจะไม่เหมือนกับคนไข้โรคออทิซึม คือจะเกิดมาพร้อมกับทักษะต่าง ๆ ทางสังคม ที่ทำให้สามารถเข้าใจและตอบสนองต่อความรู้สึกของผู้อื่นเมื่อถึงวัยที่สมควรได้ส่วนนักวิชาการท่านอื่นเน้นว่า โรคออทิซึมเป็นความล่าช้าทางพัฒนาการเฉพาะอย่าง ดังนั้นเด็กที่มีปัญหาจะมีความบกพร่องต่าง ๆ กัน เพราะว่า มีปัญหาต่าง ๆ กันในช่วงพัฒนาการที่ต่าง ๆ กันเช่น การมีปัญหาตั้งแต่ต้น ๆ สามารถทำพฤติกรรมแบบ joint-attention ให้เสียหาย ซึ่งอาจนำไปสู่ความล้มเหลวในการเกิดทฤษฎีจิตแบบสมบูรณ์[4]

มีการเสนอว่า ToM มีความเป็นไปเป็นลำดับ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การมีหรือไม่มีดังที่คิดกันมาตั้งแต่เดิม ๆ[15]แม้ว่าจะมีงานวิจัยที่แสดงว่า คนไข้โรคออทิซึมบางพวกไม่สามารถเข้าใจเรื่องจิตใจของคนอื่น ๆ[4] แต่ก็ปรากฏหลักฐานเมื่อปี ค.ศ. 2006 ที่ชี้ว่า มีวิธีการบริหารบางอย่างที่ช่วยเตือนสติเพื่อให้มีพฤติกรรมที่เหมาะสม[17]นอกจากนั้นแล้ว มีงานวิจัยที่แสดงว่า เด็กที่มีโรคออทิซึมทำคะแนนในการทดสอบทฤษฎีจิต ได้ต่ำกว่าเด็กที่มีกลุ่มอาการแอสเปอร์เจอร์[18]

พิษสุรา

ความมีความเสียหายในเรื่องทฤษฎีจิต และความบกพร่องของประชานทางสังคมประเภทอื่น ๆ เป็นเรื่องสามัญในบุคคลที่มีโรคพิษสุรา (alcoholism) เพราะความเป็นพิษต่อระบบประสาท (neurotoxicity) โดยเฉพาะในส่วนคอร์เทกซ์กลีบหน้าผากส่วนหน้า (prefrontal cortex)[3]

แหล่งที่มา

WikiPedia: ทฤษฎีจิต http://www.hindawi.com/journals/aurt/2012/505393/ http://www.livescience.com/220-scientists-read-min... http://www.sciencedirect.com.huaryu.kl.oakland.edu... http://plato.stanford.edu/entries/computational-mi... http://plato.stanford.edu/entries/mind-identity/ //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/15454505 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/16327784 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/18412750 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/21289541 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/2225758