การใช้ ของ ทอร์_(เครือข่ายนิรนาม)

บริการซ่อนเป็นเว็บไซต์ในเดือนมกราคม 2015[44]
หมวดเปอร์เซ็นต์
การพนัน
0.4
ปืน
1.4
การสนทนา
2.2
ใหม่
(ยังไม่เข้าดัชนี)
2.2
การทารุณเด็กทางเพศ
2.2
หนังสือ
2.5
สารบบ
2.5
บล็อก
2.75
สื่อลามก
2.75
บริการโฮสต์
3.5
การแฮ็ก
4.25
โปรแกรมค้นหาเว็บ
4.25
สภาพนิรนาม
4.5
ที่ประชุมอินเทอร์เน็ต
4.75
ของปลอม
5.2
วิสเซิลโบลว์เออร์
5.2
วิกิ
5.2
อีเมล
5.7
บิตคอยน์
6.2
กลฉ้อฉล
9
ตลาดมืด
9
ตลาดยาควบคุม
15.4
บริการซ่อนเป็นเว็บไซต์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2016[45][46]
หมวด% ของทั้งหมด% ของที่ดำเนินการ
ความรุนแรง
0.3
0.6
ค้าอาวุธ
0.8
1.5
สังคมผิดกฎหมาย
1.2
2.4
การแฮ็ก
1.8
3.5
ลิงก์ผิดกฎหมาย
2.3
4.3
สื่อลามกผิดกฎหมาย
2.3
4.5
ลัทธิหัวรุนแรง
2.7
5.1
ผิดกฎหมายอื่น ๆ
3.8
7.3
การเงินผิดกฎหมาย
6.3
12
ยาผิดกฎหมาย
8.1
15.5
ถูกกฎหมายหรือไม่รู้
22.6
43.2
ผิดกฎหมายรวม
29.7
56.8
ไม่ดำเนินการ
47.7
ดำเนินการ
52.3

ทอร์ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นดูเว็บไซต์ต่าง ๆ ใช้โปรแกรมพูดคุยและระบบส่งข้อความทันที โดยใช้สำหรับกิจกรรมทั้งที่ถูกกฎหมายและไม่ถูกฎหมาย[47]ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มอาชญากร นักปฏิบัติการแบบนักเลงคอมพิวเตอร์ และองค์กรบังคับใช้กฎหมายอาจใช้ทอร์เพื่อจุดมุ่งหมายที่ขัดแย้งกัน บางครั้งพร้อม ๆ กัน[48][49]ในนัยเดียวกัน องค์กรต่าง ๆ ภายในรัฐบาลสหรัฐได้ให้ทุนแก่ทอร์ (รวมทั้งกระทรวงการต่างประเทศ มูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติ และ Radio Free Asia) และในขณะเดียวกัน บางองค์กรก็พยายามบั่นทอนล้มล้างโปรเจ็กต์[15][50]ทอร์ไม่ได้มุ่งแก้ปัญหาสภาพนิรนามในการใช้เว็บโดยสิ้นเชิงคือไม่ได้ออกแบบให้กำจัดร่องรอยทุกอย่าง แต่ให้ลดโอกาสที่กลุ่มต่าง ๆ จะสามารถตามรอยกิจกรรมและข้อมูลไปยังผู้ใช้โดยเฉพาะ ๆ[4]

ทอร์สามารถใช้เพื่อกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย เช่น เพื่อหาข้อมูลที่ถูกตรวจพิจารณา[51]หรือเพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมายที่ห้ามการวิจารณ์ประมุขของรัฐ

นิตยสาร The Economist ได้เรียกทอร์เมื่อเทียบกับบิตคอยน์และตลาดมืดซิลค์โรด ว่าเป็นมุมมืดของเว็บ[52]องค์กรสืบราชการลับคือสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ และ GCHQ ของอังกฤษ ได้พยามยามล้มล้างระบบป้องกันของทอร์ แม้จะประสบความสำเร็จแค่เล็กน้อย[15]แม้จะมีองค์กรอื่น ๆ เช่น National Crime Agency ของอังกฤษที่ประสบความสำเร็จมากกว่า[53]ในขณะเดียวกัน GCHQ ก็มีโปรแกรมชื่อรหัสว่า "Shadowcat" เพื่อ "การเข้าถึงเครื่องบริการส่วนองค์กรเสมือน (VPS) แบบเข้ารหัสลับ ผ่าน SSH ที่ใช้เครือข่ายทอร์"[54][55]

ทอร์ยังสามารถใช้เพื่อการหมิ่นประมาทแบบนิรนาม, การกระจายข่าวรั่วที่อาจทำความเสียหาย, การละเมิดลิขสิทธิ์, การแจกจ่ายสื่อลามกที่ผิดกฎหมาย[56][57][58],การขายยาควบคุม[59]อาวุธ และเลขบัตรเครดิตที่ถูกขโมย[60],การฟอกเงิน[61],การฉ้อฉลทางธนาคาร[62],การฉ้อฉลทางบัตรเครดิต, การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในการฉ้อฉล, และการแลกเปลี่ยนเงินปลอม[63]ตลาดมืดออนไลน์มีได้ก็เพราะใช้โครงสร้างพื้นฐานของทอร์ อย่างน้อยก็เป็นบางส่วน โดยใช้ร่วมกับบิตคอยน์[48]มัลแวร์ยังได้ใช้ยังใช้ทอร์เพื่อขัดการทำงานของอุปกรณ์อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่งอีกด้วย[64]

งานศึกษาปี 2016 ของศาสตราจารย์รัฐศาสตร์ในด้านความปลอดภัยในสาขาความสัมพันธ์ระหว่างต่างประเทศพบว่า เมื่อใช้เว็บครอว์เลอร์ตรวจสอบบริการซ่อนของที่อยู่หัวหอม 300,000 ที่อยู่ซึ่งพบหน้าเว็บ 205,000 หน้า ก็จะสามารถจัดเว็บไซต์ซึ่งเป็นบริการซ่อนทั้งหมด 5,205 แห่งว่า ดำเนินงานอย่างแอ็กถีฟ 2,723 แห่ง (52%) และ 1,547 แห่ง (57% ของเว็บไซต์ที่แอ็กถีฟ) ดำเนินงานอย่างผิดกฎหมายแม้ในประเทศที่มีกฎหมายเสรี[65]โดยสรุปให้ความเห็นว่า "ผลแสดงว่า การใช้เว็บไซต์ที่เป็นบริการซ่อนของทอร์ซึ่งสามัญที่สุดเป็นอาชญากรรมรวมทั้งเรื่องยาควบคุม การเงินที่ผิดกฎหมาย และสื่อลามกอนาจารที่รุนแรง เกี่ยวกับเด็ก หรือเกี่ยวกับสัตว์"[66]แล้วเสนอว่า ผู้พัฒนาระบบควรพิจารณากำจัดการให้บริการซ่อนเพื่อลดความเสี่ยงทางการเมืองและชื่อเสียงที่ไม่ดีต่อระบบ ซึ่งผู้พัฒนาท่านหนึ่งก็บอกว่า มีการพิจารณาถึงเรื่องนี้เป็นครั้งเป็นคราว[67]

ในคำฟ้องคดีต่อเจ้าของตลาดมืดซิลค์โรด สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐยอมรับว่า ทอร์ก็สามารถใช้เพื่อการที่ถูกกฎหมายด้วยเหมือนกัน[68][69]ตามเว็บไซต์ CNET ความเป็นนิรนามของทอร์ "รับรองโดย EFF และกลุ่มสิทธิพลเรือนอื่น ๆ โดยเป็นวิธีสำหรับวิสเซิลโบลว์เออร์และผู้ทำการเพื่อสิทธิมนุษยชนให้สามารถสื่อสารกับนักข่าว"[70]แนวทางการป้องกันตัวจากการสอดแนมของ EFF ได้อธิบายรายละเอียดไว้ว่า ทอร์สามารถเป็นส่วนในกลยุทธ์ป้องกันความเป็นส่วนตัวและสภาวะนิรนามได้อย่างไร[71]นอกจากนั้น กรรมการของ EFF ได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร BusinessWeek ว่า "ปัญหาใหญ่ที่สุดของทอร์ก็คือสื่อข่าว(เพราะ) ไม่มีใครได้ยินถึงเหตุการณ์ที่ใครคนใดคนหนึ่งไม่ได้ถูกตามกวนโดยผู้ประสงค์ร้าย(แต่) ได้ยินเหตุการณ์ที่ใครบางคนได้ดาวน์โหลดสื่อลามกอนาจารเด็กโดยไม่ได้รับโทษ"[72]

โปรเจ็กต์ทอร์ได้อ้างว่า ผู้ใช้ทอร์รวม "คนปกติ" ผู้ต้องการรักษากิจกรรมทางอินเทอร์เน็ตไม่ให้เว็บไซต์และผู้โฆษณาต่าง ๆ รู้ ผู้เป็นห่วงในเรื่องจารกรรมทางไซเบอร์ ผู้หลีกเลี่ยงการตรวจพิจารณาเช่นนักปฏิบัติการและนักข่าว และผู้มีอาชีพทางทหารโดยเดือนพฤศจิกายน 2013 ทอร์มีผู้ใช้ประมาณ 4 ล้านคน[73]ตามหนังสือพิมพ์ เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล ในปี 2012 การสื่อสารที่ใช้ทอร์ 14% มาจากสหรัฐอเมริกา โดยมีผู้ใช้จากประเทศที่ตรวจพิจารณาอินเทอร์เน็ตเป็นจำนวนมากที่สุดเป็นอันดับสอง[74]

เหยื่อทารุณกรรมโดยคู่ชีวิต นักทำการทางสังคมและองค์กรที่คอยช่วยเหลือเหยื่อ ได้ใช้ทอร์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อป้องกันการตามกวนในโลกดิจิทัล ซึ่งเป็นการทำผิดที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากความแพร่หลายของสื่อดิจิทัลในวิถีชีวิตออนไลน์ในปัจจุบัน[75]สำนักข่าวเช่น เดอะการ์เดียน, The New Yorker, ProPublica และ The Intercept ก็ใช้ทอร์ร่วมกับแพล็ตฟอร์มการส่งข่าวคือ SecureDrop เพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัวของวิสเซิลโบลว์เออร์[76]

ในเดือนมีนาคม 2015 สำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของรัฐสภาอังกฤษได้แถลงการณ์ว่า "มีความเห็นพ้องอย่างกว้างขวางว่า การห้ามระบบนิรนามออนไลนโดยสิ้นเชิง ไม่ใช่ทางเลือกนโยบายที่ยอมรับได้ในสหราชอาณาจักร" และว่า "แม้จะยอมรับได้ แต่ก็จะเป็นเรื่องท้าทายทางเทคนิค (เพื่อบังคับใช้ตามกฎหมาย)"แล้วให้ข้อสังเกตต่อไปว่า ทอร์ "มีบทบาทไม่สำคัญในการเยี่ยมชมและแจกจ่ายรูปลามกของเด็ก" (โดยส่วนหนึ่งก็เพราะช้า)และแสดงความชื่นชมการใช้ทอร์ขององค์กรเฝ้าดูอินเทอร์เน็ต คือ Internet Watch Foundation, บริการซ่อนของทอร์สำหรับวิสเซิลโบลว์เออร์, และการหลีกเลี่ยงไฟร์วอลล์ที่เป็นส่วนการตรวจพิจารณาอินเทอร์เน็ตในประเทศจีน[77]

กรรมการบริหารของโปรเจ็กต์ยังอ้างในปี 2014 ว่า เจ้าหน้าที่ของ NSA และ GCHQ ได้รายงานบั๊กของทอร์โดยไม่เปิดเผยตัว[78]หน้า FAQ ของโปรเจ็กต์ให้เหตุผลที่ EFF รับรองทอร์ ก็คือ

อาชญากรสามารถทำผิดได้อยู่แล้ว

เพราะยอมทำผิดกฎหมาย พวกเขาจึงมีทางเลือกมากมายที่ให้ความเป็นส่วนตัวดียิ่งกว่าทอร์

ทอร์มุ่งให้การป้องกันสำหรับคนธรรมดาผู้ต้องการทำตามกฎหมาย(เพราะ) อาชญากรเท่านั้นมีสิทธิความเป็นส่วนตัวในตอนนี้ และเราต้องแก้ไขเรื่องนั้น...

จริงอยู่ โดยทฤษฎี อาชญากรก็สามารถใช้ทอร์ด้วย แต่พวกเขามีทางเลือกที่ดีกว่าอยู่แล้ว และมันดูจะเป็นไปไม่ได้ว่า การเอาทอร์ออกจากโลกจะยุติพวกเขาไม่ให้ทำผิดในเวลาเดียวกัน ทอร์และมาตรการความเป็นส่วนตัวอื่น ๆ สามารถต่อต้านการขโมยข้อมูลส่วนตัวไปใช้หาประโยชน์ผิด ๆ ต่อต้านการตามกวนที่เกิดในโลกจริง ๆ เป็นต้น[79]

แหล่งที่มา

WikiPedia: ทอร์_(เครือข่ายนิรนาม) http://50.21.181.236/congress/2015/h264-sd/32c3-73... http://www.gq.com.au/entertainment/tech/the+new+ma... http://www.scmagazine.com.au/News/246707,egyptians... http://www.smh.com.au/news/security/the-hack-of-th... http://www.fims.uwo.ca/news/2016/library_in_fims_j... http://pro.01net.com/editorial/544024/des-chercheu... http://arstechnica.com/security/2014/04/tor-networ... http://arstechnica.com/security/2014/07/russia-pub... http://arstechnica.com/security/2014/07/tor-develo... http://arstechnica.com/security/2016/08/building-a...