นากเล็กเล็บสั้น (
อังกฤษ: oriental small-clawed otter, Asian small-clawed otter;
ชื่อวิทยาศาสตร์: Aonyx cinereus) เป็น
นากขนาดเล็กที่สุดใน
โลก ตัวผู้มีขนาดใหญ่กว่าตัวเมียเล็กน้อย ขนตามลำตัวมี
สีเทาเข้มหรือ
สีน้ำตาล แต่สีขนบริเวณท้องจะอ่อนกว่า แต่สามารถเปลี่ยนสีขนได้ตามฤดูกาล ลักษณะเด่นคือ พังผืดบริเวณนิ้วตีนจะมีขนาดเล็กลง ช่วยให้นิ้วเคลื่อนไหวได้คล่องตัวมากขึ้น ใต้คอมี
สีขาว มีจมูกที่สั้นมากกว่านากชนิดอื่น ๆ ตัวที่ยังไม่โตเต็มวัยจะมีจมูกยาว และโค้งกว่า เมื่ออายุได้ 5
สัปดาห์จมูกก็จะหดสั้นลงมีความยาวลำตัวและหางประมาณ 45-55
เซนติเมตร ความยาวหาง 25-35 เซนติเมตร น้ำหนัก 1-3
กิโลกรัมพบกระจายพันธุ์อย่างกว้างขวางทั้งใน
ทวีปแอฟริกาและใน
ทวีปเอเชีย ในทวีปเอเชียพบตั้งแต่ภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของ
อินเดีย,
เนปาล,
บังกลาเทศ, ภาคใต้ของ
จีน,
พม่า,
ไทย,
ลาว,
กัมพูชา,
เวียดนาม,
เกาะสุมาตรา,
เกาะบอร์เนียวและ
เกาะชวา (แบ่งเป็น 3
ชนิดย่อย ดูในตาราง
[2])นากเล็กเล็บสั้นมีความสามารถปรับตัวให้อยู่ในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ในธรรมชาติจะอาศัยอยู่ใกล้แหล่งน้ำ เช่น
ลำธารขนาดเล็ก,
ป่าชายเลน, ริม
ทะเลสาบ, ห้วย, หนอง,
คลอง, บึง หรือแม้แต่ใน
พื้นที่ชุ่มน้ำที่เป็นเขต
เกษตรกรรมของ
มนุษย์ เช่น ตามท้องร่องสวนต่าง ๆ อาหารหลักได้แก่
สัตว์น้ำชนิดต่าง ๆ แต่ชอบกิน
ปูมากที่สุด มักอาศัยอยู่เป็นฝูงเล็ก ๆ นากเล็กเล็บสั้นไม่ได้ใช้หนวดเป็นประสาทสัมผัสในการรับรู้เหมือนนากชนิดอื่น ๆ เพราะมีประสาทสัมผัสอยู่ที่ขาหน้า ออกลูกตามโพรงไม้หรือโพรงหินที่มีอยู่แล้ว เพราะขาหน้าไม่แข็งแรงพอจะขุดโพรงริมตลิ่งได้เหมือนนากชนิดอื่น ๆ ออกหากินในเวลากลางคืน บางครั้งอาจพบได้ตั้งแต่ช่วงพลบค่ำจนถึงรุ่งเช้านากเล็กเล็บสั้นหากนำมาเลี้ยงตั้งแต่ยังเล็ก จะเชื่องและสามารถทำตามคำสั่งของมนุษย์ได้ จึงมีการนำมาแสดงโชว์ตาม
สวนสัตว์ต่าง ๆ เช่น
ซาฟารีเวิลด์ เป็นต้น สำหรับในประเทศไทยพบได้ทั่วทุกภาค
[3] แม้แต่กระทั่งพื้นที่
กรุงเทพมหานคร โดยพบในพื้นที่แถบคลองบางมด
เขตทุ่งครุฝั่งธนบุรี เป็นนากเล็กเล็บสั้นที่อาศัยอยู่รวมเป็นฝูง มีพฤติกรรมขโมยกินปลาของเกษตรกรในพื้นที่ตามท้องร่องสวนในเวลากลางคืน
[4]