ภายใต้ระบอบคอมมิวนิสต์ ของ ประวัติศาสตร์แอลเบเนีย

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แอลเบเนียดำเนินนโบบายใกล้ชิดกับยูโกสลาเวียมาก จนถึงกับมีนโยบายที่จะรวมแอลเบเนียเข้ากับยูโกสลาเวีย จนกระทั่งยูโกสลาเวียถูกขับออกจากองค์กรโคมินฟอร์มเมื่อ พ.ศ. 2491 สหภาพโซเวียตเรียกร้องให้ประเทศบริวารตัดความสัมพันธ์กับยูโกสลาเวีย สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แอลเบเนียส่วนใหญ่ที่ไม่พอใจนโยบายใกล้ชิดกับยูโกสลาเวียจึงหันไปสร้างความสัมพันธ์กับโซเวียตโดยตรง ตัดความสัมพันธ์กับยูโกสลาเวีย และพยายามกวาดล้างฝ่ายที่นิยมยูโกสลาเวียออกจากพรรค

ต่อมาเมื่อนีกีตา ครุชชอฟขึ้นมามีอำนาจใน พ.ศ. 2499 และมีนโยบายผูกมิตรกับยูโกสลาเวียอีกครั้ง และปรับเปลี่ยนนโยบายไปจากยุคของสตาลิน ทำให้ผู้นำแอลเบเนียที่นิยมสตาลินไม่พอใจหันไปสร้างความสัมพันธ์กับสาธารณรัฐประชาชนจีนแทน สหภาพโซเวียตประณามแอลเบเนียที่ไม่ร่วมล้มล้างอิทธิพลของสตาลิน แอลเบเนียจึงโต้ตอบด้วยการปิดฐานทัพเรือดำน้ำของโซเวียตที่เมืองวโลเรอร์

เมื่อเหมา เจ๋อตงถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ. 2519 และจีนเริ่มดำเนินนโยบายผ่อนปรน ผูกมิตรกับสหรัฐอเมริกามากขึ้น โซซา ผู้นำพรรคอมมิวนิสต์แอลเบเนียไม่พอใจ ตัดความสัมพันธ์กับประเทศจีนเมื่อ พ.ศ. 2520 จากนั้น แอลเบเนียดำเนินนโยบายอยู่อย่างโดดเดี่ยว

ในขณะเดียวกัน การเมืองภายในแอลเบเนียมีความขัดแย้งมากขึ้น เมห์เมต เซฮู ไม่พอใจนโยบายตัดความสัมพันธ์กับจีน พยายามก่อรัฐประหารแต่ไม่สำเร็จ เซฮูถูกประหารชีวิต โซซาปกครองประเทศแบบเผด็จการจนถึงแก่อสัญกรรมเมื่อ 11 เมษายน พ.ศ. 2528 รามิซ อาเลีย ผู้สืบทอดอำนาจต่อจากโซซาดำเนินนโยบายที่ผ่อนปรนมากขึ้น ในที่สุดได้มีการปฏิรูปการเมืองจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อ เดือนมีนาคม พ.ศ. 2534 ผลปรากฏว่าพรรคแรงงานแอลเบเนียได้เสียงส่วนใหญ่ รามิซ อาเลียได้เป็นประธานาธิบดี มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และเปลี่ยนชื่อประเทศเป็นสาธารณรัฐแอลเบเนีย

ใกล้เคียง

ประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ไทย ประวัติศาสนาพุทธ ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ประวัติศาสตร์จีน ประวัติศาสตร์โลก ประวัติศาสตร์สหรัฐ ประวัติศาสตร์สเปน ประวัติศาสตร์เยอรมนี ประวัติการบินไทย