แนวคิดทางปรัชญาและปรัชญาประยุกต์ ของ ปรัชญา

จิตนิยม

จิตนิยมเชื่อว่า มนุษย์เรามีองค์ประกอบ 2 อย่างคือ จิต กับ ร่างกาย และเชื่อว่า จิตนั้นมีความสำคัญมากกว่าร่างกาย เพราะเป็นตัวตนที่แท้จริงของมนุษย์ จิตหรือวิญญาณนั้นเป็นอมตะ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ร่างกายนั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปมา มีเกิดมีดับตามสภาพโลกภายนอก จึงทำให้ร่างกายเกิดสุขหรือทุกข์ต่าง ๆ จิตนิยมมองว่า จิตนั้นทำหน้าที่ควบคุมร่างกาย ส่วนร่างกายเป็นเพียงสิ่งที่ทำตามความต้องการของจิตเท่านั้น

จิตนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้จักการเรียนรู้ คิดค้น และมีอารมณ์ ความรู้สึกได้ ส่วนสมองนั้นเป็นเพียงเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้มนุษย์เรียนรู้และเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ได้ แต่ผู้ที่กระทำการเรียนรู้ เข้าใจ นึกคิดนั้นต้องเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ใช่สมอง และไม่ใช่สสาร และสิ่งนั้นคือ จิตหรือวิญญาณ และแม้ว่า จิตจะไม่มีตัวตน จับต้องไม่ได้ แต่มันก็เป็น จริงอยู่ในตัวเราเท่า ๆ กับร่างกายที่เป็นจริงด้วย

เพลโตเชื่อว่า มนุษย์เรามีธรรมชาติเป็นจิตกับร่างกาย เรียกทัศนะนี้ว่า ทวินิยม เพลโตแบ่งจิตออกเป็น 3 ภาค 3 หน้าที่ จิตภาคไหนแข็งแรงกว่า ร่างกายก็จะทำตามจิตภาคนั้นออกคำสั่ง ได้แก่

  1. ภาคตัณหา คือ ภาคที่มนุษย์ล้วนอยู่ในความต้องการความสุขทางร่างกาย เช่น กิน อยู่ โดยไม่คิดถึงสิ่งใดเลย ไม่สนใจความดี ความงาม หรือความเป็นจริง
  2. ภาคน้ำใจ คือ ภาคที่มนุษย์มีความรู้สึกทางใจเกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุทางวัตถุ เช่น ความซื่อสัตย์ ความรักเกียรติ ความมีเมตตา คนที่มีจิตภาคนี้เข้มแข็ง ก็จะมีภาคตัณหาน้อยลง เพราะความสุขของเขาไม่ได้อยู่ที่การสนองตัณหา
  3. ภาคปัญญา คือ จิตในด้านที่เป็นเหตุผล เป็นจิตภาคที่มีความสำคัญที่สุดสำหรับความเป็นมนุษย์ เพลโตถือว่า มนุษย์จะแตกต่างจากสัตว์และสิ่งต่าง ๆ ในโลก ก็ด้วยจิตภาคปัญญานี้เท่านั้น และการใช้ปัญญาเหตุผลของมนุษย์ภาคนี้ ก็จะทำให้มนุษย์เข้าถึงโลกของแบบได้

มนุษย์ทุกคนมีจิตทั้ง 3 ภาคเหมือนกัน แตกต่างที่อัตราส่วนของจิตในแต่ละภาคนั้นไม่เท่ากัน ใครคนหนึ่งจะแสดงพฤติกรรมอะไรออกมา ก็แล้วแต่ว่ามีจิตภาคไหนเข้มแข็งที่สุด จิตที่ดีที่สุด คือ จิตที่มีภาค 3 ภาค สมดุลกัน แต่ขอให้ภาคปัญญานำภาคอื่น ๆ ก็เป็นอันใช้ได้