ผลต่อชีวิต ของ ปรากฏการณ์เชื่อมั่นมากเกินไป

(แม้) ผู้ทำงานมืออาชีพที่มั่นใจมากเกินจะเชื่ออย่างจริงใจว่าตนมีความชำนาญ ประพฤติเหมือนผู้ชำนาญการ และแต่งตัวเหมือนผู้ชำนาญ (แต่) คุณก็จะต้องดิ้นรนเพื่อเตือนตัวเองว่า พวกเขา (ความจริง) อยู่ในกำมือของความเชื่อผิด ๆ

แดเนียล คาฮ์นะมัน[24]

ความมั่นใจมากเกินเรียกว่าเป็นความเอนเอียงทางประชานที่มีอยู่อย่างกลาดเกลื่อนที่สุด และมีโอกาสสร้างความหายนะมากที่สุด ในบรรดาความเอนเอียงในมนุษย์[25]จึงได้โทษว่าเป็นเหตุของคดีความ การนัดหยุดงาน สงคราม ฟองสบู่ตลาดหลักทรัพย์ และการล้มของตลาดหุ้น

คดีความ การนัดหยุดงาน และสงครามอาจเกิดจากการเทียบฐานะเกินจริงถ้าโจทก์หรือจำเลยมีแนวโน้มเชื่อว่า ตนควรจะได้มากกว่า ตนยุติธรรมกว่า หรือชอบธรรมกว่าฝ่ายตรงข้าม นี่ก็จะอธิบายความยืดเยื้อของคดีความที่ไม่สมเหตุผล[26]ถ้าบริษัทหรือสหภาพแรงงานมีแนวโน้มเชื่อว่า ตนมีกำลังมากกว่าและอยู่ในฐานที่เที่ยงธรรมมากกว่าฝ่ายตรงข้าม นี่อาจจะเป็นส่วนให้การนัดหยุดงานยืดเยื้อ[27]ถ้าประเทศหนึ่ง ๆ เชื่อว่า กำลังทหารของตนเข้มแข็งกว่าประเทศอื่น ๆ ก็อาจอธิบายความพร้อมเพื่อทำสงคราม[28]

ความเที่ยงเกินจริงอาจมีผลสำคัญต่อพฤติกรรมการลงทุนและการซื้อขายหุ้นทฤษฎีการเงินแบบคลาสสิกไม่สามารถอธิบายว่า ถ้าผู้ค้าขายหุ้นทั้งหมด เป็นผู้ทำการอย่างมีเหตุผลตามทฤษฎีความน่าจะเป็นแบบเบย์ ทำไมจึงมีการค้าขายในตลาดหุ้นมากมายขนาดนี้[29]ดังนั้น ความเที่ยงเกินจริงอาจเป็นคำตอบอย่างหนึ่ง[30]คือถ้าผู้ทำการมั่นใจในการประเมินมูลค่าของสินทรัพย์หนึ่ง ๆ ของตนว่าถูกต้อง พวกเขาก็จะเต็มใจค้าขายกับคนอื่นผู้มีข้อมูลต่างกัน

งานปี 1965 ตรวจสอบนักจิตวิทยาทางคลินิกและนักศึกษาจิตวิทยา โดยให้ตอบคำถามแบบหลายตัวเลือกที่พวกเขาต้องสรุปข้อมูลจากกรณีศึกษา[31]สำหรับคำตอบแต่ละข้อ ผู้ร่วมการทดลองจะกำหนดความมั่นใจเป็นเปอร์เซ็นต์ว่าคำตอบที่ให้มีโอกาสถูกแค่ไหนซึ่งทำให้สามารถเปรียบได้กับความเป็นจริงเมื่อได้ข้อมูลเพิ่มขึ้นจากกรณีศึกษา ความมั่นใจของพวกเขาได้เพิ่มขึ้นจาก 33% เป็น 53%แต่การตอบตรงกับความเป็นจริงไม่ได้เพิ่มขึ้น คือถูกน้อยกว่า 30%เป็นการแสดงความมั่นใจเกิน ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อผู้ร่วมการทดลองมีข้อมูลมากขึ้นเพื่อตัดสินใจ[31]

ถึงแม้มนุษย์จะไม่โน้มเอียงอย่างทั่วไปในการมีความมั่นใจมากเกินไป สถานการณ์ทางสังคมและการคัดเลือกที่ขัดประโยชน์ (adverse selection) อาจโปรโหมตให้มียกตัวอย่างเช่น ผู้ที่มีโอกาสกล้าหาญพอเพื่อเริ่มธุรกิจของตนเอง ก็คือบุคคลที่เทียบความสามารถของตนเองเกินกว่าผู้อื่นที่อาจเป็นคู่แข่งและถ้าผู้ลงคะแนนเสียงเห็นว่าผู้นำที่มั่นใจน่าเชื่อถือมากกว่า ผู้ที่แข่งขันเพื่อตำแหน่งผู้นำก็อาจเรียนรู้ว่า ควรจะแสดงความมั่นใจมากกว่าคู่แข่งเพื่อให้ชนะการเลือกตั้ง[32]

ความมั่นใจเกินอาจมีผลดีต่อความภูมิใจแห่งตน และทำให้บุคคลมุ่งมั่นเพื่อให้สำเร็จถึงเป้าหมายคือ ความเชื่อในตนเองอาจทำให้มุ่งมั่นและพยายามมากกว่าบุคคลผู้ไม่เชื่อ[33]

ใกล้เคียง

ปรากฏการณ์เชื่อมั่นมากเกินไป ปรากฏการณ์เรือนกระจก ปรากฏการณ์ขบวนแห่ ปรากฏการณ์แม็คเกอร์ก ปรากฏการณ์ 2012 ปรากฏการณ์เกาะความร้อน ปรากฏการณ์การวางกรอบ ปรากฏการณ์ความจริงลวง ปรากฏการณ์ฟอเรอร์ ปรากฏการณ์ตัวล่อ

แหล่งที่มา

WikiPedia: ปรากฏการณ์เชื่อมั่นมากเกินไป http://www.nytimes.com/2011/10/23/magazine/dont-bl... http://seedmagazine.com/content/article/on_overcon... http://repository.cmu.edu/cgi/viewcontent.cgi?arti... http://leeds-faculty.colorado.edu/mcgrawp/pdf/mcgr... http://faculty.fortlewis.edu/burke_b/Senior/BLINK%... http://public.psych.iastate.edu/zkrizan/pdf/krizan... http://eric.ed.gov/?id=ED314454 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/10474208 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/12224810 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/13681411