ปลาเลียหิน (
อังกฤษ: Stone-lapping fishes, Garras, Doctor fishes) คือ
ชื่อสามัญเรียกโดยรวมของ
ปลาน้ำจืดขนาดเล็ก
สกุลหนึ่ง มีชื่อสกุลว่า Garra (/การ์-รา/)เป็นปลาน้ำจืดขนาดเล็กใน
วงศ์ปลาตะเพียน (Cyprinidae) และอยู่ในวงศ์ย่อย
Labeoninae เป็นปลาที่มีขนาดเล็ก ลำตัวยาว หลังโค้งเล็กน้อย สันท้องแบนราบ จะงอยปากยาว ปลายทู่ และมีตุ่มเหมือนเม็ด
สิวเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะ
ตัวผู้ริมฝีปากหนาและมีตุ่มเม็ดสิวที่อ่อนนุ่มอยู่เป็นจำนวนมาก ไม่มีร่องระหว่างริมฝีปากกับกระดูกขากรรไกร ริมฝีปากล่างแผ่ออกกว้างเป็นแผ่น ขอบหน้าเรียบ ใช้ในการยึดเกาะกับของแข็ง มีหนวด 1-2 คู่ ครีบอกและครีบครีบท้องอยู่ในแนวระดับสันท้อง ครีบหลังมีก้านครีบแขนง 8 ก้าน และก้านครีบเดี่ยวไม่แข็ง ครีบก้นสั้นมีก้านครีบแขนง 5 ก้าน
เส้นข้างลำตัวตรง
[1]มีพฤติกรรมมักอาศัยอยู่เป็นฝูง ในแหล่งน้ำไหลเชี่ยวบริเวณ
น้ำตกหรือ
ลำธารในป่า เพื่อดูดกิน
ตะไคร่น้ำหรือ
สาหร่ายหรืออินทรีย์วัตถุต่าง ๆ เป็นอาหารพบกระจายอยู่ทั่วไปใน
ทวีปเอเชีย พบมากกว่า 90 ชนิด สำหรับใน
ประเทศไทยพบด้วยหลายชนิด เช่น
G. fuliginosa,
G. notata,
G. cambodgiensis,
G. fasciacauda เป็นต้น
[2]นิยมเลี้ยงกันเป็นปลาสวยงาม เพื่อให้ดูดกินเศษอาหารที่ปลาใหญ่กินเหลือและทำความสะอาดตู้เลี้ยง นอกจากนี้แล้วในปัจจุบัน ปลาเลียหินยังนิยมใช้ในธุรกิจ
สปา แบบที่เรียกว่า "
ฟิชสปา" โดยให้ผู้ใช้บริการแช่เท้าและขาลงในอ่างน้ำ และให้ปลาเลียหินมาดูดกินผิวหนังชั้นผิวกำพร้าเพื่อกำจัด
เซลล์ผิวที่ตายแล้ว เพื่อเป็นการสร้างเซลล์ผิวใหม่อีกด้วย โดยในน้ำลายของปลาเลียหินจะมี
เอนไซม์ชนิดหนึ่งที่กระตุ้นในการสร้างเซลล์ผิวใหม่
[3]ซึ่งปลาเลียหินที่นิยมใช้กันคือ ชนิด
G. rufa และ G. sp. ซึ่งพบใน
ประเทศตุรกี [remark 1]ปลาเลียหินยังมีชื่อเรียกอื่น ๆ ใน
ภาษาไทย อีก เช่น "ปลามูด" หรือ"ปลาอีดูด" หรือ "ปลามัน"