ประวัติการแข่งขัน ของ ฟุตบอลทีมชาติไทย

ฟุตบอลโลก 2010

จากการจับสลากสำหรับรอบที่ 1 และ รอบที่ 2 ในการแข่งขันรอบคัดเลือก โซนเอเชีย เพื่อหาตัวแทนไปแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ โดยในรอบที่ 1 ทีมชาติไทยสามารถเอาชนะมาเก๊า ด้วยผลประตูรวม 13-2 และต้องพบกับเยเมนในรอบที่ 2 โดยทีมชาติไทยสามารถเอาชนะด้วยผลประตูรวม 2-1 โดยทีมชาติไทยถูกจับสลากให้อยู่ในกลุ่มเดียวกับญี่ปุ่น, บาห์เรน, และ โอมาน ในรอบแบ่งกลุ่มรอบแรก

เอเอฟซีรอบที่ 3 : กลุ่ม 2

ทีมเล่นชนะเสมอแพ้ได้เสียรวมแต้ม
 ญี่ปุ่น6411123+913
 บาห์เรน632175+211
 โอมาน622257−28
 ไทย6015514−91
 
บาห์เรน 1 – 01 – 11 – 1
ญี่ปุ่น 1 – 03 – 04 – 1
โอมาน 0 – 11 – 12 – 1
ไทย 2 – 30 – 30 – 1

ฟุตบอลโลก 2014

จากการจับฉลากสำหรับรอบที่ 2 ในการแข่งขันรอบคัดเลือกโซนเอเชีย เพื่อหาตัวแทนไปแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล โดยในรอบที่ 2 ทีมชาติไทยลงเล่นนัดแรกที่นิว ไอ-โมบาย สเตเดี้ยมชนะไป 1-0 และบุกไปเยือนด้วยผลเสมอ 2-2 สามารถเอาชนะปาเลสไตน์ ด้วยผลประตูรวม 3-2 โดยทีมชาติไทยถูกจับสลากให้อยู่ในกลุ่มเดียวกับออสเตรเลีย, ซาอุดิอาระเบีย, และ โอมาน ในรอบแบ่งกลุ่มรอบแรก

โดยทีมชาติไทยชุดนี้ วินฟรีด เชเฟอร์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนบอกว่ามีลุ้นกว่าทุกชุดของทีมชาติไทยที่จะผ่านเข้ารอบ 10 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่รอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2002 ที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่น โดยเชเฟอร์ทำสิ่งที่โค้ชทีมชาติคนก่อนๆไม่เคยทำ เช่น ความขยันไปดูฟุตบอลลีกในประเทศทุกคู่ ความอดทน วางรากฐานให้ทีมชาติไทย และอีกมากมาย

ซึ่งผลของการเข้มงวดกับการฝึกซ้อมเตรียมตัวลงแข่งขัน ทำให้ผลงานในการลงเล่นรอบคัดเลือกนัดแรก ที่บุกไปแพ้ออสเตรเลีย 1-2 ชนิดที่น่าจะเก็บคะแนนกลับบ้านได้ ก่อนที่ในเกมนัดต่อมาจะเอาชนะโอมาน 3-0 เรียกศรัทธาจากแฟนบอลกลับคืนมา และในเกมนัดที่สาม ซึ่งทีมชาติไทยสามารถเปิดราชมังคลากีฬาสถาน ยันเสมอซาอุดิอาระเบียได้สำเร็จด้วยสกอร์ 0-0 แม้แฟนบอลจะผิดหวังกับสกอร์ที่ออกมา เนื่องจากกระแส ณ ขณะนั้นที่มองว่าซาอุดิอาระเบียกำลังฟอร์มตก แต่หากไปดูสถิติการพบกันก่อนหน้านั้นที่ไทยแพ้ซาอุดิอาระเบีย 10 จาก 11 นัด ย่อมแสดงให้เห็นว่าเกมนี้ ทีมชาติไทยทำผลงานได้ตามเป้าหมายแล้ว

การเก็บคะแนนได้ถึง 4 คะแนน จาก 3 นัด ในกลุ่มที่มีแต่ทีมเต็งเข้ารอบทั้งสิ้นนั้น ทำให้ทีมชาติไทยได้รับการจับตามองว่าจะสามารถสอดแทรกขึ้นมาแย่งตั๋วเข้ารอบ 10 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ แต่ในเกมนัดที่สี่ ซึ่งถือว่าเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญต่อการผ่านเข้ารอบคัดเลือกต่อไป ไทยบุกไปแพ้ซาอุดิอาระเบีย 0-3 โดยในช่วงท้ายเกมส์ นักฟุตบอลทั้งสองทีมมีเหตุกระทบกระทั่งกันด้วย ทำให้เกมนัดที่ห้า ซึ่งไทยกลับมาเปิดสนามศุภชลาศัย พบออสเตรเลีย จึงถือว่ามีความหมายอย่างมาก โดยเกมการแข่งขัน ทีมชาติไทยเล่นได้เหนือกว่าออสเตรเลียเล็กน้อย แต่ไม่สามารถทำประตูออสเตรเลียได้ จนกระทั่งมาถูกทีมเยือนทำประตูในครึ่งหลัง เป็นผลให้ทีมชาติไทยแพ้ไปในที่สุด 0-1 โอกาสผ่านเข้าไปคัดเลือก 10 ทีมสุดท้ายเลือนลางเต็มที แต่หลังจบเกมนัดนั้น เพียงไม่กี่ขั้วโมง ทีมชาติไทยก็มีข่าวดีเมื่อโอมานสามารถบุกไปเสมอซาอุดิอาระเบีย 0-0 ทำให้ตารางคะแนนที่ออกมาหลังจบเกมนัดที่ห้า ออสเตรเลียผ่านเข้ารอบไปแล้ว แต่อีกสามทีมที่เหลือยังมีคะแนนเบียดกัน และยังมีโอกาสเข้ารอบ ด้วยกันทั้งหมด

ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 ทีมชาติไทยแพ้ทีมชาติโอมาน ไป 2 – 0 ขณะที่ออสเตรเลียชนะซาอุดิอาระเบียไป 4 – 2 ทีมชาติไทยตกรอบคัดเลือกโดยเป็นที่ 4 ของกลุ่ม

เอเอฟซีรอบที่ 3 : กลุ่ม ดี

PldWDLGFGAGDPts
 ออสเตรเลีย6501135+815
 โอมาน622236−38
 ซาอุดีอาระเบีย613267−16
 ไทย611448−44
 
ออสเตรเลีย 3–04–22–1
โอมาน 1–00–02–0
ซาอุดีอาระเบีย 1–30–03–0
ไทย 0–13–00–0

ฟุตบอลโลก 2018

ตารางสรุปคะแนน

อันดับทีมเล่นชนะเสมอแพ้ได้เสียต่างคะแนนการผ่านเข้ารอบ
1 ไทย (Q)6420146+814รอบที่ 3 และ เอเชียน คัพ2–21–04–2
2 อิรัก (Q)6330136+7122–21–05–1
3 เวียดนาม (Q)621378−17เอเชียนคัพ รอบคัดเลือก รอบที่ 30–31–14–1
4 จีนไทเป (Q)6006519−140เอเชียนคัพ รอบคัดเลือกเพลย์ออฟ0–20–21–2
5 อินโดนีเซีย (D)00000000ถูกตัดสิทธิ์เนื่องจากฟีฟ่าสั่งระงับการแข่งขันหลังจากเกิดปัญหาการแทรกแซงการเมืองสู่วงการฟุตบอล[lower-alpha 1]
แหล่งที่มา : ฟีฟ่า
(D) ตัดสิทธิ์; (Q) ผ่านเข้าสู่รอบที่ระบุ.
หมายเหตุ :
  1. On 30 May 2015, FIFA announced that the Football Association of Indonesia (PSSI) was suspended with immediate effect for governmental interference.[17] On 3 June 2015, the AFC confirmed that Indonesia have been excluded from the qualifying competition, and all matches involving them have been cancelled.[18]

การแข่งขันครั้งนี้เป็นการแข่งขันที่แฟนบอลทีมชาติไทยคาดหวังมากที่สุด เนื่องจากชุดนี้หัวหน้าผู้ฝึกสอนตกเป็นของ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ซึ่งสามารถพาทีมชุดนี้คว้าแชมป์ในการแข่งขันฟุตบอลระดับอาเซียนกลับประเทศได้หมดแล้ว ทั้งซีเกมส์ 2013 และ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014[19] รวมทั้งการจับสลากแบ่งกลุ่มในการแข่งขันในรอบที่ 2 เมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2558 ซึ่งไทยอยู่ในกลุ่มเอฟร่วมกับอิรัก ซึ่งมีอันดับโลกฟีฟ่าต่ำสุดในโถที่ 1 ซึ่งเป็นหัวแถวของเอเชีย, เวียดนาม, อินโดนีเซีย ซึ่ง 2 ประเทศนี้อยู่ในเขตอาเซียน และไต้หวัน ซึ่งมีอันดับโลกฟีฟ่าต่ำสุดในเอเชีย จึงนับว่าเป็นเรื่องง่ายของไทยที่จะผ่านไปเล่นในรอบที่ 3[20]

และนัดแรกก็ไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวัง เพราะการแข่งขันระหว่างไทยกับเวียดนามที่ราชมังคลากีฬาสถานเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ซึ่ง วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ในขณะนั้นส่งเรื่องไปยังฟีฟ่า และได้รับอนุมัติให้เลื่อนออกมาหลังไปทับกับโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลซีเกมส์ 2015 ที่ประเทศสิงคโปร์[21] ไทยสามารถเอาชนะเวียดนามได้ 1-0 จากปกเกล้า อนันต์ ในนาทีที่ 81[22] แต่แล้วในวันที่ 30 พฤษภาคม ก็เกิดเหตุการณ์โชคร้ายของทีมไทย เมื่ออินโดนีเซียถูกฟีฟ่าสั่งแบนจากการนำการเมืองเข้ามาแทรกแทรงวงการฟุตบอล หมดสิทธิ์ลงแข่งฟุตบอลโลก[23] แต่เกียรติศักดิ์ กุนซือ ช้างศึก เห็นว่าเป็นเรื่องดี เพราะการแข่งขันจะลดลงถึง 2 นัด ทำให้มีเวลาเตรียมทีมและฝึกซ้อมมากกว่าเดิม[24] แล้วก็เป็นผล เพราะเมื่อ 16 มิถุนายน ไทยสามารถบุกไปชนะไต้หวันได้ถึงถิ่น 2-0 จาก ธีรศิลป์ แดงดา ในนาทีที่ 21 และ 39[25] และเปิดบ้านยันเสมอกับอิรักเมื่อ 8 กันยายน ไป 2-2 จากจุดโทษของ ธีราทร บุญมาทัน ในนาทีที่ 80 และ มงคล ทศไกร ในนาทีที่ 83[26] ต่อมาในวันที่ 13 ตุลาคม ไทยก็บุกไปชนะเวียดนามได้ถึง 3-0 จาก เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ในนาทีที่ 28, การสกัดเข้าประตูตัวเองของ ดิน เทียน ทันห์ ในนาทีที่ 56 และการต่อบอลอันสวยงาม 16 ครั้ง ก่อนปิดกล่องที่ ธีราทร บุญมาทัน ในนาทีที่ 70[27][28] และในวันที่ 12 พฤศจิกายน ไทยก็เปิดบ้านเอาชนะไต้หวันไป 4-2 จาก ธีรศิลป์ แดงดา ในนาทีที่ 41, ปกเกล้า อนันต์ ในนาทีที่ 52, อดิศักดิ์ ไกรษร ในนาทีที่ 72 และ ธนา ชะนะบุตร ในนาทีที่ 74[29]

และนัดสุดท้ายในวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2559 ที่สนามกลางในประเทศอิหร่าน ซึ่งอิรักใช้แข่งเนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองอันไม่สงบภายในประเทศอิรัก[30] ไทยสามารถยันเสมออิรักได้ 2-2 จาก มงคล ทศไกร ในนาทีที่ 40 และ อดิศักดิ์ ไกรษร ในนาทีที่ 86 ทำให้ไทยเข้ารอบที่ 3 ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี และสามารถเข้ารอบสุดท้ายของศึก เอเชียนคัพ ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปีอีกด้วย[31][32]

เอเชียนคัพ 2019

ดูบทความหลักที่: เอเชียนคัพ 2019 กลุ่ม A
อันดับทีมเล่นชนะเสมอแพ้ได้เสียต่างคะแนนการผ่านเข้ารอบ
1 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (H)312042+25รอบแพ้คัดออก
2 ไทย311135−24[lower-alpha 1]
3 บาห์เรน31112204[lower-alpha 1]
4 อินเดีย31024403
ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด วันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2562. แหล่งที่มา : เอเอฟซี
กฎการจัดอันดับ : เงื่อนไขรอบแบ่งกลุ่ม
(H) เจ้าภาพ.
หมายเหตุ :
  1. 1 2 คะแนน เฮด-ทู-เฮด: ไทย 3, บาห์เรน 0.

ใกล้เคียง

ฟุตบอลทีมชาติไทย ฟุตบอลโลก ฟุตบอลทีมชาติเกาหลีใต้ ฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ ฟุตบอล ฟุตบอลทีมชาติเยอรมนี ฟุตบอลทีมชาติอาร์เจนตินา ฟุตบอลทีมชาติบราซิล ฟุตบอลทีมชาติอิตาลี ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย – รอบที่ 2

แหล่งที่มา

WikiPedia: ฟุตบอลทีมชาติไทย http://www.fifa.com/associations/association=tha http://www.fifa.com/worldcup/groups/preliminaries/... http://www.fifa.com/worldcup/groups/preliminaries/... http://www.fifa.com/worldcup/news/y=2015/m=5/news=... http://www.goal.com/en/news/1276/south-east-asia/2... http://www.goal.com/th/match/%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0... http://www.goal.com/th/match/%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0... http://www.goal.com/th/news/5438/%E0%B8%9F%E0%B8%B... http://www.goal.com/th/news/5438/%E0%B8%9F%E0%B8%B... http://query.nytimes.com/gst/fullpage.html?res=9A0...