ประวัติ ของ มัสยิดอันนะบะวี

ช่วงแรก

มุมมองของมัสยิดอันนะบะวี ประตูที่ 21, 22

มัสยิดนี้ถูกสร้างโดยศาสดามุฮัมมัดในปี ค.ศ. 622 หลังจากท่านมาเมืองมะดีนะฮ์[9] โดยการขี่อูฐที่ชื่อก็อสวะฮ์ ที่ดินนี้ครอบครองโดยซะฮัล และซุฮัยล์ เป็นบริเวณที่มีต้นอินทผลัมที่กำลังจะตาย และเคยเป็นที่ฝังศพมาก่อน[10] ท่านปฏิเสธ "การให้ที่ดินเป็นของขวัญ" และซื้อที่ดินนี้พร้อมกับสร้างมัสยิดนี้โดยใช้เวลา 7 เดือน[10] โดยมีหลังคาเป็นใบอินทผลัมและนำลำต้นทำเป็นเสาที่มีความสูง 3.60 เมตร (11.8 ฟุต) และมีสามประตูที่มีชื่อว่า บาบุลเราะฮ์มะฮ์อยู่บริเวณตอนใต้ บาบุลญิบรีลอยู่บริเวณตะวันตก และบาบุนนิซาอยู่บริเวณตะวันออก[11][10]

หลังจากสงครามค็อยบัร ได้มีการขยายมัสยิด[12] โดยขยายไปด้านละ47.32 เมตร (155.2 ฟุต) และเพิ่มอีกสามแถวที่กำแพงฝั่งตะวันตก[13] และไม่ได้ขยายในช่วงที่อะบูบักร์เป็นเคาะลีฟะฮ์คนแรก[13] จนกระทั่งสมัยเคาะลีฟะฮ์อุมัรได้ทำลายบ้านทุกหลังที่อยู่ข้างมัสยิด ยกเว้นบ้านภรรยาของมุฮัมมัด เพื่อขยายมัสยิด[14] โดยเริ่มใช้อิฐในการสร้างกำแพงและโปรยก้อนกรวดบนพื้น มีการยกหลังคาให้สูงถึง 5.6 เมตร (18 ฟุต)

สมัยเคาะลีฟะฮ์อุสมาน ได้รื้อมัสยิดในปี ค.ศ. 649 แล้วสร้างใหม่ให้เป็นมัสยิดรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่หันหน้าไปทางมักกะฮ์โดยใช้เวลา 10 เดือน ส่วนจำนวนกำแพงยังคงเหมือนเดิม[15] กำแพงถูกปูด้วยหิน และเปลี่ยนเสาอินตผลัมให้เป็นเสาหินที่เชื่อมกับที่หนีบเหล็ก และเพดานที่ทำมาจากไม้สัก[16]

ช่วงกลาง

มัสยิดอันนะบะวีในสมัยจักรวรรดิออตโตมัน ศควรรษที่ 19

ในปี ค.ศ. 707 วะลีด อิบน์ อับดุลมะลิกกษัตริย์จากราชวงศ์อุมัยยะฮ์ได้บูรณะมัสยิดใหม่ โดยใช้เวลา 3 ปี เพราะต้องนำวัตถุดิบมาจากจักรวรรดิไบแซนไทน์[17] โดยมีการขยายขนาดมัสยิดจาก 5,094 ตารางเมตร ให้เป็น 8,672 ตารางเมตร มีการสร้างกำแพงกั้นระหว่างมัสยิดและบ้านภรรยาของมุฮัมมัด และเป็นครั้งแรกที่มัสยิดถูกสร้างเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมูที่มีความยาว 101.76 เมตร (333.9 ฟุต) และเสามินาเร็ต 4 หอที่สร้างล้อมรอบมัสยิดนี้[18]

สมัยกษัตริย์อัลมะฮ์ดีของราชวงศ์อับบาซิยะฮ์ได้ขยายมัสยิดไปทางเหนืออีก 50 เมตร (160 ฟุต) [19] รายงานจากอิบน์ กุต็อยบะฮ์ว่า อัลมะมูนกษัตริย์คนที่สามได้ทำ "งานที่ไม่ได้ระบุ" ไว้ที่มัสยิด ส่วนอัลมุตะวักกิลได้สร้างทางไปที่ประตูสุสานมุฮัมมัดด้วยหินอ่อน[20] และอัลอัชราฟ กอนซุฮ อัลเฆารีได้สร้างโดมหินบนสุสานของท่านเมื่อปี ค.ศ. 1476[21]

โดมเขียว ใน"การทำฮัจญ์" ของริชาร์ด ฟรานซิส เบอร์ตัน ค.ศ. 1850

เราเฎาะฮ์ได้สร้างโดมบริเวณทางตะวันออกเฉียงใต้ของมัสยิด[22] ในปี ค.ศ. 1817 ในช่วงสุลต่านมาห์มูดที่ 2 แล้วโดมถูกทาเป็นสีเขียวในปี ค.ศ. 1837 และเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "โดมเขียว"[23]

และสมัยสุลต่านอับดุล เมจิดที่ 1 ได้ใช้เวลา 13 ปีในการสร้างมัสยิดใหม่ โดยเริ่มในปี ค.ศ. 1849[24] มีการใช้อิฐแดงในการสร้างครั้งนี้ บริเวณมัสยิดถูกขยายไป 1,293 ตารางเมตร มีการเขียนอายะฮ์อัลกุรอานบนกำแพงทางตอนเหนือของมัสยิด และได้สร้าง มัดดารอซะฮ์ เพื่อ "สอนอัลกุรอาน"[25]

สมัยซาอุดี

เมื่อสมเด็จพระราชาธิบดีซะอูด บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูดได้ครอบครองมะดีนะฮ์ในปี ค.ศ. 1905 พร้อมกับผู้ติดตามที่นับถือนิกายวะฮาบีย์ ได้ทำลายเกือบทุกโดมที่อยู่เหนือสุสานในมะดีนะฮ์เพื่อไม่ให้ใครเลื่อมใสในสิ่งนี้[26]และโดมเขียวก็รอดมาได้อย่างหวุดหวิด[27] พวกเขากล่าวว่าสุสานและสถานที่ต่าง ๆ มีพลังบางอย่างที่เป็นสิ่งต้องห้ามในหลัก เตาฮีด[28] สุสานของศาสดามุฮัมมัดถูกทำลายและนำทองและเครื่องประดับออกไป แต่ยังคงเหลือโดมไว้ เนื่องจากการทำลายที่ล้มเหลว หรือเมื่อก่อนมุฮัมมัด อิบน์ อับดุลวะฮับเขียนว่าเขาไม่อยากเห็นโดมถูกทำลาย[26]

หลังจากก่อตั้งประเทศซาอุดีอาระเบียในปี ค.ศ. 1932 ได้มีการขยายมัสยิดในสมัยสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลอะซีซ อิบน์ ซะอูดในปี ค.ศ. 1951 ทรงมีรับสั่งให้รื้อมัสยิดที่อยู่รอบ ๆ เพื่อขยายไปทางตะวันออกและตะวันตก โดยมีการใช้เสาคอนกรีตที่มีประตูโค้ง ส่วนอันเก่าก็ถูกครอบด้วยคอนกรีตและเชื่อมด้วยแหวนทองแดงที่ด้านบน หอสุลัยมานียยะฮ์ และมาญิดียะฮ์ถูกเปลี่ยนให้เป็นหอแบบมัมลูก แล้วเพิ่มหอมินาเร็ตบริเวณตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันตกเฉียงเหนือของมัสยิด และสร้างห้องสมุดขึ้นตรงบริเวณกำแพงฝั่งตะวันตก[25][29]

จากนั้นสมเด็จพระราชาธิบดีฟัยศ็อล บิน อับดัลอะซีซ อาล ซะอูดได้ขยายมัสยิดไปอีก 40,440 ตารางเมตรในปี ค.ศ. 1974[30] และขยายไปอีกในสมัยของสมเด็จพระราชาธิบดีฟะฮด์ บิน อับดัลอะซีซ อาล ซะอูดในปี ค.ศ. 1985 โดยมีการใช้รถปราบดินในการทำลายสิ่งก่อสร้างรอบ ๆ มัสยิด[31] แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1992 โดยที่มัสยิดมีขนาด 1.7 พันล้านตารางเมตร มีบันไดเลื่อนและพื้นที่ราบอีก 27 แปลง[32]

และในปี ค.ศ. 2012 ได้มีการวางแผนขยายมัสยิดด้วยวงเงินประมาณ 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2012 ทาง รอยเตอร์ ได้รายงานว่าการขยายครั้งนี้จะจุผู้คนได้ประมาณ 1.6 ล้านคน[33]

แหล่งที่มา

WikiPedia: มัสยิดอันนะบะวี http://www.arabnews.com/prophet%E2%80%99s-mosque-a... http://www.arabnews.com/saudi-arabia/new-expansion... http://www.kingfahdbinabdulaziz.com/main/h202.htm http://madainproject.com/gates_of_masjid_al_nabawi http://rt.com/news/saudi-arabia-prophet-mosque-615... http://www.usc.edu/dept/MSA/quran/002.qmt.html#002... http://www.usc.edu/dept/MSA/quran/003.qmt.html#003... http://www.usc.edu/dept/MSA/quran/017.qmt.html#017... http://islamqa.info/en/34464 http://www.lastprophet.info/the-prophet-s-mosque-%...