พายุหมุนเขตร้อนจะถูกจัดระดับอย่างไม่เป็นทางการตามมาตราใดมาตราหนึ่งจาก
มาตราความรุนแรงของพายุหมุนเขตร้อน 5 ชนิด โดยใช้ความเร็วลมเฉลี่ยสูงสุดและ
แอ่งที่พายุหมุนเขตร้อนนั้นตั้งอยู่เป็นหลักเกณฑ์ในการจัดชนิดมาตรา มาตราบางมาตราจะถูกกำหนดและใช้งานอย่างเป็นทางการโดยสำนักงานอุตุนิยมวิทยาที่สังเกตการณ์พายุหมุนเขตร้อน และบางมาตราถูกใช้เป็นมาตราทางเลือก เช่น วัด
การสะสมพลังงานในพายุหมุน, ดัชนีการสูญเสียพลังงาน, ดัชนีพลังงานแบบบูรณาการเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว และ
ดัชนีความรุนแรงพายุเฮอริเคนพายุหมุนเขตร้อนที่พัฒนาขึ้นใน
ซีกโลกเหนือจะถูกจัดความรุนแรงโดยศูนย์เตือนภัย ตามมาตราใดมาตราหนึ่งจากสามมาตราที่ใช้ในซีกโลกเหนือ โดยพายุหมุนเขตร้อนหรือพายุหมุนกึ่งเขตร้อนที่ปรากฏอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ หรือมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อแรกพายุจะถูกจัดความรุนแรงเป็นพายุดีเปรสชันเขตร้อนและพายุโซนร้อนตามลำดับ จนเมื่อพายุโซนร้อนทวีกำลังแรงขึ้น จะถูกจัดเป็นพายุเฮอริเคน และหลังจากนั้นจึงจะถูกจัดความรุนแรงด้วย
มาตราเฮอริเคนแซฟเฟอร์–ซิมป์สัน โดยอ้างอิงความเร็วลมที่ความเร็วลมสูงสุดโดยประมาณที่พัดต่อเนื่องใน 1 นาที ส่วนในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก พายุหมุนเขตร้อนจะถูกจัดความรุนแรงตามมาตราของ
คณะกรรมการไต้ฝุ่นของ
ESCAP/
WMO ซึ่งเป็นมาตราที่แบ่งความรุนแรงของพายุออกเป็นสี่ขั้น โดยอ้างอิงความเร็วลมที่ความเร็วลมสูงสุดโดยประมาณที่พัดต่อเนื่องใน 10 นาทีในมหาสมุทรอินเดียเหนือ จะใช้มาตราของกรมอุตุนิยมวิทยาอินเดีย ซึ่งแบ่งการจัดความรุนแรงออกเป็น 7 ขั้น โดยอ้างอิงความเร็วลมที่ความเร็วลมสูงสุดโดยประมาณที่พัดต่อเนื่องใน 3 นาที ส่วนพายุหมุนเขตร้อนที่พัฒนาใน
ซีกโลกใต้จะถูกจัดความรุนแรงโดยศูนย์เตือนภัย ตามมาตราใดมาตราหนึ่งจากเพียงสองมาตราที่ใช้ในซีกโลกใต้ ซึ่งทั้งสองมาตราต่างอ้างอิงความเร็วลมโดยประมาณใน 10 นาทีเช่นเดียวกัน โดยมาตราพายุหมุนเขตร้อนของออสเตรเลีย จะใช้จัดความรุนแรงของพายุหมุนเขตร้อนในทวีปออสเตรเลีย (รวมมหาสมุทรอินเดียใต้ฝั่งตะวันออก) และในแอ่งมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ ส่วนใน
มหาสมุทรอินเดียใต้ฝั่งตะวันตกจะใช้มาตราของ
เมเตโอฟร็องส์ ซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายในดินแดนของฝรั่งเศส รวมถึง
นิวแคลิโดเนียและ
เฟรนช์พอลินีเชียด้วยคำนิยามของ
ความเร็วลมตามที่
องค์การอุตุนิยมวิทยาโลกแนะนำไว้ และหน่วยงานทางอุตุนิยมวิทยาส่วนมากเลือกใช้ คือ ค่าเฉลี่ยของความเร็วลมสูงสุดที่พัดใน 10 นาที ที่ระดับความสูง 10
ม. (33
ฟุต) อย่างไรก็ตาม มาตราเฮอริเคนของแซฟเฟอร์-ซิมป์สัน จะใช้การวัดความเร็วลมสูงสุดใน 1 นาที ที่ความสูง 10 ม. (33 ฟุต)
[1][2] ส่วนมาตราที่ RSMC นิวเดลี ใช้คือความเร็วลมโดยประมาณใน 3 นาที และในมาตราออสเตรเลียจะใช้ทั้งค่า
ลมกระโชกสูงสุดเฉลี่ยใน 3 วินาที และความเร็วลมโดยประมาณใน 10 นาที
[3][4] จึงทำให้การเปรียบเทียบระดับความรุนแรงของแต่ละแอ่งนั้นเป็นไปโดยยากโดยพายุหมุนเขตร้อนจะถูกตั้งชื่อเมื่อเริ่มมีความเร็วลมมากกว่า 35 นอต (40 ไมล์/ชม. หรือ 65 กม./ชม.)