ประวัติศาสตร์ ของ รัฐบาลโชกุนคามากูระ

สถาปนารัฐบาล

ก่อนการสถาปนารัฐบาลโชกุนคามากูระ อำนาจทั้งปวงจะรวมอยู่ที่ราชสำนักขององค์จักรพรรดิเป็นหลัก บุคคลต่างๆที่ได้รับการแต่งตั้งจะเป็นขุนนางและพรรคพวกที่มีความสัมพันธ์กับราชสำนัก และกิจการทหารก็อยู่ภายใต้การอุปถัมภ์ของรัฐบาลพลเรือน อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีชัยชนะเหนือตระกูลไทระ ในซึกเก็งเปะอิ มินะโมะโตะ โนะ โยะริโตะโมะ ก็ได้เข้ายึดอำนาจจากชนชั้นสูงในปี ค.ศ. 1185 และได้สถาปนาตนเองขึ้นเป็นโชกุนใน ค.ศ. 1192 พร้อมกับประกาศสถาปนารัฐบาลโชกุนขึ้นปกครองญี่ปุ่น

การเถลิงอำนาจของตระกูลโฮโจ

ภายหลังการอสัญกรรมของโชกุนโยะริโตะโมะ โฮโจ โทะกิมะซะ ประมุขแห่งตระกูลโฮโจ (ตระกูลของภริยาโชกุน), โฮโจ มะซะโกะ และเหล่าบริวารในอดีตของโยะริโตะโมะ ได้อ้างอำนาจการบริหารราชการแผ่นดินในนามของ "ผู้สำเร็จราชการแทนโชกุน" (ชิกเก็ง) จากโชกุน มิตะโมะโตะ โนะ โยะริอิเอะ บุตรชายคนโตของโชกุนโยะริโตะโมะคนในตระกูลโฮโจก็ดำรงตำแหน่งชิกเก็งนี้แบบสืบสายเลือดต่อมาซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ถือครองอำนาจอย่างแท้จริงโชกุนเพียงแต่ให้คำปรึกษาในบางครั้งคราวและเป็นประมุขของรัฐบาลเท่านั้น

การรุกรานจากมองโกล

จักรวรรดิมองโกล ภายใต้การนำของกุบไล ข่าน ซึ่งกำลังแผ่ขยายอาณาเขตไปอย่างกว้างขวางยากที่ชาติไดในขณะนั้นจะต้านทานได้ ต้องการมีอำนาจเหนือญี่ปุ่น จึงส่งคณะทูตมาถึงสองครั้งเพื่อต้องการให้ญี่ปุ่นแสดงความจงรักภักดีต่อจักรพรรดิมองโกล แต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากโทะกิมะซะ ทำให้มองโกลตัดสินใจบุกญี่ปุ่นสองครั้งในปี ค.ศ. 1274 และ 1281 ซึ่งมองโกลพ่ายแพ้ทั้งสองครั้งจากการที่ประสบกับพายุไต้ฝุ่น จากการที่มองโกลสูญเสียไพร่พลและทรัพยากรไปอย่างมหาศาลในศึกครานี้ สร้างความไม่พอใจให้กับกับประชาชน กองทัพและราชสำนักหยวน เป็นผลให้จักรวรรดิมองโกลเริ่มเสื่อมถอยจนล่มสลายในปี ค.ศ. 1368