ด้านอื่น ของ ลิโอเนล_เมสซิ

ชีวิตส่วนตัว

เมสซิเคยมีข่าวคบหากับมาซาเรนา เลโมส ที่มาจากบ้านเกิดเดียวกันที่โรซาริโอ กล่าวกันว่าทั้งคู่รู้จักกันจากการแนะนำของพ่อของฝ่ายหญิง เมื่อครั้งที่เขากลับมารักษาตัวจากการบาดเจ็บในโรซาริโอ ไม่กี่วันก่อนที่จะเริ่มการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006[251][252] เขาเคยมีข่าวความสัมพันธ์กับนางแบบชาวอาร์เจนตินา ลูเซียนา ซาลาซาร์[253][254]

แต่เมสซิยืนยันเรื่องความรักครั้งแรกและครั้งเดียวต่อสาธารณะ ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2009 เขาบอกทางรายการ "แฮตทริกบาร์ซา" ช่องกานัล 33 ว่า "ผมมีแฟนสาวและเธออยู่ที่อาร์เจนตินา ผมรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข"[254] โดยหญิงสาวคนนั้นคือ อันโตเนลา โรกูโซ[255] โดยโรกูโซเป็นชาวโรซาริโอเช่นเดียวกันกับเมสซิ โดยทั้งคู่รู้จักกันตั้งแต่ยังเด็ก โรกูโซเป็นญาติของเพื่อนสนิทวัยเด็กของเขา แต่เริ่มคบหากันฉันคนรักในปี ค.ศ. 2008[256]

ในปี ค.ศ. 2010 ทั้งคู่เริ่มพัฒนาความสัมพันธ์เริ่มต้นชีวิตคู่ โรกูโซ ย้ายจากโรซาริโอมาอยู่กับเมสซิที่บาร์เซโลนา

ในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ปี 2012 แมตช์ที่อาร์เจนตินาคว้าชัยเหนือเอกวาดอร์ 4 ประตูต่อ 0 เมสซิได้ยืนยันข่าวลือการตั้งท้องของแฟนสาว โดยการฉลองประตูของเขาด้วยการยัดลูกบอลใส่เสื้อบริเวณหน้าท้อง และในวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 2012 โรกูโซได้ให้กำเนิดบุตรชายคนแรกของพวกเขา คือ เตียโก เมสซิ โดยในวันนั้นเมสซิได้รับอนญาตให้งดซ้อม และอยู่เฝ้าแฟนสาวจนกระทั่งคลอดลูกชาย โดยเมสซิได้เคยให้สัมภาษณ์ว่า วันนั้นเขาร้องไห้เพราะ เตียโกเป็นเด็กคลอดยาก เขารู้สึกว่ามันใช้เวลานานมาก กลัวและกังวลไปหมดจนกระทั่งลูกคลอดออกมาอย่างปลอดภัย เขาได้ให้สัมภาษณ์อีกว่า "วันนี้ฉันเป็นผู้ชายที่มีความสุขที่สุดในโลก ลูกชายของฉันถือกำเนิดแล้ว ขอบคุณพระเจ้าสำหรับของขวัญชิ้นนี้ ขอบคุณครอบครัวของฉันสำหรับกำลังใจและการสนับสนุนของพวกเขา รักพวกคุณทุกคน"[257]

ในเดือน เมษายน ค.ศ. 2015 เมสซิได้ยืนยันข่าวการตั้งครรภ์ลูกคนที่ 2 ของแฟนสาวอีกครั้ง โดยการลงรูปลูกชายคนโตเตียโก กำลังจุมพิตหน้าท้องมารดาที่กำลังตั้งครรภ์ ผ่านทางอินสตาแกรมของเขาโดยเขียนข้อความว่า "กำลังรอลูกอยู่อย่างใจจดใจจ่อ ติอากี้ แม่ และพ่อ พวกเรารักลูกนะ" [258] และลูกชายอีกคนของพวกเขา มาเตโอ เมสซิ ก็ได้ลืมตาดูโลกในวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2015 เช่นเดียวกับคราวลูกชายคนโต เมสซิได้รับอนญาตให้งดซ้อมเพื่ออยู่เป็นเพื่อแฟนสาว และในวันรุ่งขึ้นแม้ไม่ได้ซ้อม เขาสามารถลงสนามเป็นตัวสำรอง ซุปเปอร์ซับ ในการแข่งขันนัดสำคัญ และยิงประตูชัยให้บาร์เซโลนาบุกไปเยือนเอาชนะอัตเลติโกเดมาดริดไปได้ 1-2 โดยเมสซิได้ทำท่าดูดนิ้วแทนความหมายการดูดนมของเด็กทารก เสมือนการยกประตูชัยนี้เพื่อฉลองการเกิดของลูกชาย[259]

และในวันที่ 15 ตุลาคม 2017 โรกูโซ ได้แจ้งข่าวผ่านทางอินสตาแกรมว่าพวกเขากำลังมีลูกคนที่ 3 โดยโรกูโซได้ลงภาพครอบครัวซึ่ง ติอาโก ลูกชายคนโต และเมสซีซึ่งกำลังอุ้มมาเตโอลูกชายคนรองอยู่ ต่างสัมผัสหน้าท้องของเธอ พร้อมลงข้อความว่า "ครอบครัว 5 คน" กำหนดคลอดคือ ช่วงสัปดาห์ที่ 2-3 ในเดือนมีนาคม 2018 แต่โรกูโซมีอาการน้ำคร่ำแตก จำเป็นต้องคลอดก่อนกำหนดเล็กน้อย ซีโร เมสซี่ ลูกชายคนที่ 3 ของพวกเขาจึงถือกำเนิดในวันที่ 10 มีนาคม 2018 เดิมเมสซี่ต้องร่วมเดินทางไปกับทีมเพื่อแข่งขันเกมลีก นัดเยือนกับมาลากาในวันนั้น แต่เมื่อภรรยาต้องคลอดก่อนกำหนดอย่างกะทันหัน เขาจึงขอถอนตัว ไม่ร่วมเดินทางไปแข่งขัน ซึ่งได้รับอนุญาตจากเอร์เนสโต บัลเบร์เดเรียบร้อยแล้ว[260] เมสซีได้ลงรูปผ่านทางเฟซบุ๊คและอินสตาแกรมต้อนรับซีโรในวันนั้นด้วยข้อความว่า "ยินดีต้อนรับ "ซีโร" ขอบคุณพระเจ้าที่ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ทั้งแม่และลูกปลอดภัยดี พวกเรากำลังมีความสุขมาก"[261]

เมสซิมีลูกพี่ลูกน้อง 2 คนในวงการฟุตบอล คนหนึ่งคือ มักซี ปีกของสโมสรกลุบโอลิมเปียในปารากวัย และเอมานวยล์ เบียนกุชชี เล่นเป็นกองกลางให้กับสโมสรฟุตบอลคีโรนาของสเปน[262][263]


งานแต่งงานแห่งปี

ในวันที่ 30 มิถุนายน ค.ศ. 2017 เมสซิได้ฤกษ์จูงแฟนสาว อันโตเนลา โรกูโซ เข้าพิธีแต่งงาน ณ เมืองโรซาริโอ บ้านเกิดของทั้งคู่ หลังคบกันฉันคนรักมาได้เกือบ 10 ปี โดยงานแต่งงานจัดขึ้นอย่างสุดหรูที่ โรงแรมพูลแมนซิตี้เซ็นเตอร์ โรซาริโอ มีแขกได้รับเชิญเพียง 260 คน แต่แขกจำนวนมากล้วนเป็นบุคคลมีชื่อเสียงทั้งในระดับโลกและระดับประเทศ การรักษาความปลอดภัยจึงเป็นไปอย่างเข้มงวด โดยใช้เจ้าหน้าที่กว่า 300 นาย ทั้งตำรวจพื้นที่และเจ้าหน้าที่บริษัทรักษาความปลอดภัยเอกชน 2 บริษัท เมสซิจองห้องพักทั้งหมด รวมถึงบริการต่าง ๆ ทั้งหมดของโรงแรมให้แก่แขกผู้มางาน จึงสามารถปิดพื้นที่บริเวณโรงแรมทั้งหมด ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้ามาภายในบริเวณโรงแรมได้ ในส่วนของสื่อมวลชนจำนวนกว่า 150 คนนั้น มีพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ให้โดยเฉพาะ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก สื่อที่ไปทำข่าวต้องลงทะเบียนสังกัดและได้รับอนุญาตให้ทำข่าวบริเวณพรมแดงหน้าประตูโรงแรมเท่านั้น

งานแต่งงานได้รับการจัดการดูแลโดยเวดดิ้งแพลนเนอร์จากโรซาริโอ 2 บริษัทประสานงานกัน โดยในงานจะเสิร์ฟอาหารพื้นเมืองของอาร์เจนตินา แขกทุกคนจะได้รับของชำร่วยสุดหรูเป็น ชุด ไวน์ ที่เปิดขวด จุกก๊อก และดุลเซเดเลเช ของหวานของโปรดของเมสซิ ในส่วนของความสนุกสนานในงานนั้น วงดนตรีชื่อดังของอุรุกวัย มารามา (Márama) ซึ่งเป็นของขวัญแต่งงานจากลุยส์ ซัวเรซ และการินา เตเฆดา (Karina) นักร้องสาวชื่อดังชาวอาร์เจนตินา แฟนสาวของกุน เซร์ฆิโอ อาเกวโร ขึ้นแสดงในงานนี้ [264] และดานิโล มิเชาต์ (Danilo Michaut) ดีเจชาวโรซาริโอ รับหน้าที่คอยเปิดเพลงซึ่งส่วนมากเป็นจังหวะคุมเบียและเรกเกตอนตามสไตล์ละตินให้ความสนุกสนานตลอดคืน[265]

ของขวัญที่เจ้าบ่าวเตรียมให้เจ้าสาว คือ การเชิญนักร้องคนโปรดของอันโตเนลา อาเบล ปินโตส (Abel Pintos) นักร้องชื่อดังชาวอาร์เจนตินา มาร้องเพลงหวานซึ้ง "ไม่มีเริ่มต้น ไม่มีสิ้นสุด" (Sin Principio Ni Final) เซอร์ไพรส์เจ้าสาวหลังเสร็จพิธีการจดทะเบียนสมรส ทำให้อันโตเนลาถึงกับร้องไห้ด้วยความตื้นตันใจ [266]

ในส่วนของพิธีการ เริ่มต้นเวลา 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เมสซิเดินเข้าพิธีแต่งงานพร้อมบิดาและมารดา ตามด้วยลูกชายคนโตของพวกเขาเตียโก เมสซิ ซึ่งรับหน้าที่ถือแหวนแต่งงาน และบิดาของเจ้าสาวเป็นผู้นำเจ้าสาวเข้าสู่พิธี ทะเบียนสมรสได้รับการประกาศรับรองโดย กอนซาโล การิโย (Gonzalo Carrillo) ผู้อำนวยการสำนักทะเบียนราษฎร ซึ่งเดินทางมาเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐในพิธีการจดทะเบียนสมรสระหว่าง เมสซิและโรกูโซ ด้วยตนเอง[267]

หลังจบพิธีการ เมสซิและโรกูโซได้ออกมาทักทายสื่อบริเวณพรมแดงด้วยสีหน้ามีความสุข แสดงทะเบียนสมรส และได้ตอบคำถามสื่อสั้น ๆ ว่าทุกอย่างผ่านไปด้วยดี แต่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใด ๆ เพิ่มเติม

คู่บ่าวสาวแจ้งแก่แขกทุกคนว่าขอไม่รับของขวัญแต่งงาน แต่ได้ขอให้แขกผู้มาร่วมงานทำบุญโดยบริจาคเงินเข้าองค์กรการกุศล 4 องค์กรคือ 1. องค์กร TECHO เพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ 2. มูลนิธิ Flexer (Fundación Natalí Dafne Flexer) เพื่อช่วยเหลือเด็กที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง 3. มูลนิธิ Garrahan ในเครือโรงพยาบาลเด็ก Garrahan (Hospital Garrahan) ในกรุงบัวโนสไอเรส เมืองหลวงของอาร์เจนตินา และ 4. โรงพยาบาล Sant Joan de Déu ในเมืองบาร์เซโลนา[268] เป็นของขวัญแต่งงานแทน[269]

ในจำนวนแขก 260 คนนั้น นอกจากเครือญาติ เพื่อนบ้าน และเพื่อนสมัยเด็กแล้ว ยังประกอบไปด้วยเหล่าเพื่อนร่วมทีมทั้งอดีตและปัจจุบันของเมสซิ ทีมงาน ทีมแพทย์ ฯลฯ ทั้งจากสโมสรบาร์เซโลนา และทีมชาติอาร์เจนตินา แต่ผู้จัดการทีมและบอร์ดบริหารทั้งชุดเก่าชุดใหม่ จากทั้ง 2 ทีมต่างไม่ได้รับเชิญเพื่อเป็นการตัดปัญหาความเชื่อมโยงกับการเมืองในสโมสรและควบคุมขนาดของงานแต่งงาน โดยผู้มาร่วมงานที่ได้รับความสนใจจากสื่อ อาทิ เนย์มาร์, ลุยส์ ซัวเรซ, กุน เซร์ฆิโอ อาเกวโร, ชาบี, การ์เลส ปูยอล, เซสก์ ฟาเบรกัส และฌาราร์ต ปิเก ซึ่งควงแฟนสาวนักร้องชื่อดังอย่างชากีรา มาร่วมงานด้วย ฯลฯ โดยแขกต่างชาติที่ได้รับเชิญ ต่างทยอยเดินทางมางานแต่งงานโดยเครื่องบินส่วนตัวกว่า 12 ลำ เนื่องจากโรซาริโอเป็นเมืองเล็ก เที่ยวบินตรงจากสายการบินพาณิชย์มีน้อย[270] ผู้ที่ได้รับเชิญแต่ไม่สามารถมาร่วมงานได้มีเพียงรอนัลดีนโย ซึ่งติดภารกิจต้องเข้าร่วมการแข่งขันกระชับมิตรการกุศลตำนานบาร์ซ่า-ตำนานแมนฯยูไนเต็ดในวันนั้น, อันเดรส อินิเอสตา ซึ่งภรรยาเพิ่งคลอดลูกคนเล็กได้ไม่นาน ไม่สามารถเดินทางไกลได้ และนักเตะบาร์เซโลนาบางรายซึ่งติดภารกิจกับทีมชาติ

โดยงานแต่งงานครั้งนี้ได้รับความสนใจจากทั่วโลก คนสนใจเข้าชมถ่ายทอดสดงานแต่งงานทางยูทูปหลายแสนคน ชื่อของเมสซิได้รับการกล่าวถึงทางทวิตเตอร์มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ทั่วโลกในช่วงเวลานั้น [271] สื่อต่างประเทศต่างยกให้เป็นงานแต่งงานแห่งปีเลยทีเดียว

ความสนุกสนานมีขึ้นตลอดคืน งานเลี้ยงเสร็จสิ้นลงในเวลา 7.30 ของวันถัดมา โดยเมสซิได้จัดอาหารเช้าให้แขกก่อนเดินทางกลับด้วย[272]

เครื่องดื่มและขนมที่เหลือจากงานแต่งงานนี้ เมสซิและโรกูโซ ได้นำไปบริจาคให้แก่องค์กรการกุศล ธนาคารอาหารโรซาริโอ (Rosario Food Bank) ในส่วนของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น ทั้งคู่ได้เปลี่ยนเป็นเงินเพื่อบริจาคเช่นเดียวกัน [273]

หลังจากแต่งงาน 2 วัน เมสซิและโรกูโซก็ได้เดินทางไปฮันนีมูนที่ประเทศแอนติกาและบาร์บูดา ประเทศหมู่เกาะในแถบทะเลแคริบเบียนตะวันออก พร้อมกับลูกชายทั้ง 2 คน เตียโกและมาเตโอ[274]

งานการกุศล

ตลอดอาชีพของเมสซิ เขาได้เข้าร่วมในกิจกรรมการกุศลหลายอย่าง ซึ่งโดยมากจะมุ่งไปที่การช่วยเหลือเด็ก เนื่องมาจากอาการป่วยที่เขาได้เผชิญในวัยเด็กของเขาเป็นสำคัญ

ตั้งแต่ปี 2004 เป็นต้นมา เมสซิได้เข้าร่วมกิจกรรมหลายอย่างและบริจาคเงินให้กับองค์การยูนิเซฟ (UNICEF) ซึ่งมีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับสโมสรบาร์เซโลนา

ในปี ค.ศ. 2007 เมสซิตัดสินใจก่อตั้งมูลนิธิเลโอ เมสซิ ที่ช่วยเหลือการกุศลในด้านการศึกษา สุขภาพ และกีฬา ให้กับเด็กขึ้น [275][276] หลังจากการเยี่ยมชมโรงพยาบาลสำหรับเด็กป่วยหนักในบอสตัน ทำให้เขาระลึกถึงโอกาสที่ตนเคยได้รับเมื่อครั้งป่วยเป็นโรคขาดฮอร์โมนการเจริญเติบโตในวัยเด็ก เขาเข้าใจดีถึงความสำคัญในโอกาสทางการแพทย์ของเด็ก ๆ เหล่านั้น จึงตัดสินใจบริจาคส่วนหนึ่งของรายได้ประจำของเขาเข้าสู่สังคม

มูลนิธิเลโอ เมสซิ ได้บริจาค ทุนวิจัยสำหรับการฝึกอบรมทางการแพทย์ และลงทุนในโครงการพัฒนาศูนย์การแพทย์ในอาร์เจนตินา, สเปน และประเทศอื่น ๆ [277] นอกจากนี้เขายังทำกิจกรรมระดมทุนบริจาคด้วยตนเอง โดยจัดการแข่งขันรายการแข่งขันฟุตบอลการกุศลขึ้น ระหว่างทีม "เมสซิและเพื่อน" และ the Rest of The world ในหลายประเทศ [278] ซึ่งได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนทางการเงินจากสปอนเซอร์ต่าง ๆ ของเขาเป็นอย่างดี โดยมีอาดิดาสเป็นสปอนเซอร์หลัก ในบทสัมภาษณ์เว็บแฟนไซต์ เมสซิกล่าวว่า "การมีชื่อเสียงเล็กน้อย ทำให้ผมได้มีโอกาสที่จะช่วยเหลือคนที่ต้องการจริง ๆ โดยเฉพาะกับเด็ก ๆ"[279]

และเพื่อตอบสนองต่ออุปสรรคด้านการแพทย์ในวัยเด็กของเขา มูลนิธิเลโอ เมสซิ ได้สนับสนุนการช่วยเหลือกับเด็กอาร์เจนตินาที่ได้รับวินิจฉัยว่าเป็นโรคที่มีความยุ่งยากด้านการรักษา โดยเสนอการรักษาในสเปนและออกค่าใช้จ่ายการเดินทาง การพยาบาล และการฟื้นฟูทั้งหมด[280]

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 2010 เมสซิได้รับเป็นทูตสันถวไมตรีจากยูนิเซฟ[281] โดยจุดประสงค์การทำงานของเขาเพื่อสนับสนุนสิทธิของเด็ก [282] เมสซิทำภารกิจแรกในฐานะทูตยูนิเซฟใน 4 เดือนถัดมา เขาเดินทางไปยังเฮติ เพื่อสร้างความตระหนักในชะตากรรมของเด็กในประเทศที่เพิ่งเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง เมสซิยังมีส่วนร่วมในแคมเปญที่ยูนิเซฟจัดทำขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อการป้องกันการเกิดเอชไอวี, เพื่อการศึกษา และเพื่อโอกาสทางสังคมของเด็กพิการ[283]

และในโอกาสการเฉลิมฉลองวันเกิดปีแรกของลูกชายคนโตของเขา ในเดือนพฤศจิกายนปี 2013 เมสซิและเตียโก เป็นส่วนหนึ่งของยูนิเซฟในการรณรงค์ประชาสัมพันธ์เพื่อโอกาสที่เท่าเทียมในคุณภาพการดำรงชีวิตของเด็กด้อยโอกาส และสร้างความตระหนักถึงอัตราการตายในหมู่เด็ก ๆ เหล่านั้น[284]

เมสซิยังบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนฟุตบอลเยาวชนในอาร์เจนตินา ในปี ค.ศ. 2012 เขาสร้างยิมเนเซียมใหม่ และสร้างหอพักนักเตะเยาวชนภายในสโมสร ให้ทีมสมัยเด็กของเขา นิวเวลส์โอลด์บอยส์ โดยผู้ฝึกสมัยเด็กของเขา เอร์เนสโต เวกิโอ (Ernesto Vecchio) ได้รับการสนันบสนุนทางการเงินจากมูลนิธิเลโอ เมสซิ เพื่อเป็นแมวมองหาเด็กที่มีพรสวรรค์มาพัฒนาด้านฟุตบอล

ในปี ค.ศ. 2013 เขายังสนับสนุนด้านการเงินให้แก่สโมสรซาร์มิเอนโต (Sarmiento) ซึ่งเป็นทีมฟุตบอลใกล้กับโรซาริโอบ้านเกิดของเขา ในการซ่อมแซมตกแต่งสโมสร และสนามแข่งใหม่ ติดตั้งสนามซึ่งสามารถใช้แข่งได้ทุกสภาพอากาศ และให้ทุนแก่นักเตะเยาวชนหลายคนทั้งจากทีมนิวเวลส์โอลด์บอยส์ ทีมที่เขาเคยสังกัดสมัยเด็ก และทีมคู่แข่ง โรซาริโอเซนตรัล รวมถึงทีมจากบัวโนส ไอเรส เมืองหลวงของอาร์เจนตินา เช่น โบกายูนิออร์ส, กลุบอัตเลติโกริเบร์เปลต ด้วย

วันที่ 7 มิถุนายน ค.ศ. 2016 หลังจากเมสซิชนะคดีหมิ่นประมาทหนังสือพิมพ์ลาราซอน (La Razón) ของสเปน เขาได้รับเงินค่าชดเชยจำนวน 65,000 ยูโรจากหนังสือพิมพ์นั้น ซึ่งเขานำเงินที่ได้ทั้งหมด ไม่หักค่าใช้จ่ายใด ๆ แม้แต่ค่าทนายความ บริจาคให้องค์กรการกุศลแพทย์ไร้พรมแดน [285]

วันที่ 14 มีนาคม ค.ศ. 2017 เมสซิร่วมกิจกรรมการกุศล สำหรับผู้กล้า (ParaLosValientes) ซึ่งเป็นแคมเปญช่วยเหลือเด็กที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง และเพื่อหาเงินสร้างศูนย์รักษาและวิจัยโรคมะเร็งในเด็กในเมืองบาร์เซโลนา โดยเป็นความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาล Sant Joan de Déu ในบาร์เซโลนา, มูลนิธิสโมสรบาร์เซโลนา และมูลนิธิเลโอ เมสซิ [286] และในช่วงเดือนกรกฎาคม - สิงหาคม ค.ศ.2017 เมสซี่ได้ช่วยสนับสนุนโครงการขายเสื้อยืด #ToTheBrave เพื่อการกุศลจากแคมเปญนี้อีกด้วย[287]

วันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 2017 มูลนิธิเลโอ เมสซิ ได้บริจาคเงินจำนวน 6,276,000 เปโซอาร์เจนตินา ในโครงการแสงสว่างสำหรับเด็ก ๆ (Un Sol Para Los Chicos 2017) ซึ่งสนับสนุนโดยองค์กรยูนิเซฟ และองค์กรอื่น ๆ ของอาร์เจนตินา ในการจัดหาอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉินจากอาการขาดน้ำและอาการบาดเจ็บจากการคลอดธรรมชาติ จำนวน 300 ชุด [288]

สื่อ

เขาปรากฏบนปกของวิดีโอเกมอย่าง โปรเอโวลูชันซอกเกอร์ 2009 และ โปรเอโวลูชันซอกเกอร์ 2011 และยังเกี่ยวข้องในการประชาสัมพันธ์เกมนี้ด้วย[289] เมสซิและเฟร์นันโด ตอร์เรส[290] อยู่บนปกของ โปรเอโวลูชันซอกเกอร์ 2010 และยังปรากฏในเทรลเลอร์ภาพเคลื่อนไหวของเกม[291][292][293] เมสซิได้รับการสนับสนุนจากบริษัทชุดกีฬาเยอรมัน อาดิดาส ซึ่งเขาก็ปรากฏอยู่บนภาพยนตร์โฆษณา[294] ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2010 เมสซิเซ็นสัญญา 3 ปีกับเฮอร์บาไลฟ์[295] ซึ่งสนับสนุนการช่วยเหลือมูลนิธิเลโอเมสซิ

แหล่งที่มา

WikiPedia: ลิโอเนล_เมสซิ http://www.thenational.ae/sport/football/who-knew-... http://www.afa.com.ar/3023/la-seleccion-de-todos-l... http://www.gente.com.ar/nota.php?ID=11359 http://www.lanacion.com.ar/1968952-los-ganadores-d... http://www.pagina12.com.ar/diario/deportes/8-12109... http://www.radionacional.com.ar/?p=88753 http://www.abc.net.au/news/stories/2009/12/01/2759... http://ultimosegundo.ig.com.br/esportes/seu_time/f... http://www.cbc.ca/sports/soccer/story/2008/03/05/l... http://www.fcbarcelona.cat/web/english/futbol/temp...