ชื่อเสียงและคำวิจารณ์ ของ วิลเลียม_เชกสเปียร์

He was not of an age, but for all time.


 

"เขามิใช่เพียง (นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่) แห่งยุค แต่เป็น (นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่) ตลอดกาล"

เบน โจนสัน[62]

เมื่อยังมีชีวิตอยู่ เชกสเปียร์ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรมากนัก แต่ก็ได้รับคำยกย่องสรรเสริญตามสมควร[63] ปี ค.ศ. 1598 พระนักเขียนชื่อ ฟรังซิส เมเรส ยกย่องเชกสเปียร์ว่า "โดดเด่นที่สุด" ยิ่งกว่านักเขียนชาวอังกฤษทั้งหมดไม่ว่าด้านงานสุขหรือโศกนาฏกรรม[64] เหล่านักเขียนบทละคร Parnassus ที่วิทยาลัยเซนต์จอห์น เคมบริดจ์ นับเนื่องเขาอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับชอเซอร์ โกเวอร์ และสเปนเซอร์[65] ใน First Folio เบน จอห์นสัน เรียกเชกสเปียร์ว่าเป็น "จิตวิญญาณแห่งยุคสมัย เสียงชื่นชม ความรื่นเริงและความมหัศจรรย์แห่งเวทีของเรา" แม้เขาจะเคยกล่าวในที่แห่งอื่นว่า "เชกสเปียร์ต้องการศิลปะ"[65]

ระหว่างช่วงฟื้นฟูราชวงศ์ในช่วงทศวรรษ 1660 และปลายคริสต์ศตวรรษที่ 17 แนวคิดแบบคลาสสิกเป็นเสมือนแฟชั่นชั่วครู่ชั่วยาม นักวิจารณ์ในยุคนั้นส่วนมากจึงมักจัดระดับงานของเชกสเปียร์อยู่ต่ำกว่า จอห์น เฟล็ตเชอร์ และ เบน โจนสัน[65] ตัวอย่างเช่น โทมัส ไรเมอร์ วิพากษ์วิจารณ์เชิงตำหนิกับการที่เชกสเปียร์นำเรื่องขำขันมาผสมปนเปกับงานโศก อย่างไรก็ดี จอห์น ไดรเดน กวีและนักวิจารณ์อีกคนหนึ่งให้ค่าแก่งานของเชกสเปียร์อย่างสูง เขาพูดถึงโจนสันว่า "ผมนับถือเขา แต่ผมรักเชกสเปียร์"[66] คำวิจารณ์ของไรเมอร์มีอิทธิพลมากกว่าเป็นเวลาหลายทศวรรษ จนกระทั่งถึงคริสต์ศตวรรษที่ 18 นักวิจารณ์จึงเริ่มกล่าวขวัญถึงถ้อยคำอันงดงามของเชกสเปียร์ และยอมรับถึงอัจฉริยภาพในทางอักษรของเขา งานเขียนเชิงวิชาการหลายชิ้น รวมถึงงานที่โดดเด่นเช่นงานเขียนของ ซามูเอล จอห์นสัน ในปี 1765 และ เอ็ดมอนด์ มาโลน ในปี 1790 แสดงให้เห็นถึงความนิยมยกย่องที่เพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ[65] เมื่อถึงช่วงปี 1800 เขาก็ได้รับยกย่องให้เป็นกวีเอกแห่งชาติ[67] ตลอดคริสต์ศตวรรษที่ 18 และ 19 ชื่อเสียงของเชกสเปียร์ก็เลื่องลือกว้างไกลออกไป เทียบเคียงกับบรรดานักเขียนชื่อดังท่านอื่น ๆ ได้แก่ วอลแตร์ เกอเธ่ สเตนดัล และ วิกเตอร์ ฮูโก เป็นต้น[68]

ระหว่างช่วงยุคโรแมนติก เชกสเปียร์ได้รับยกย่องอย่างสูงจากกวีและนักปรัชญาวรรณกรรม แซมมวล เทย์เลอร์ คอเลริดจ์ (Samuel Taylor Coleridge) นักวิจารณ์ชื่อ August Wilhelm Schlegel แปลงบทละครของเขาไปอยู่ในวรรณกรรมโรแมนติกของเยอรมัน[69] เมื่อถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19 คำวิจารณ์ยกย่องอัจฉริยะของเชกสเปียร์ก็ยิ่งเลิศลอยมากขึ้น[70] โทมัส คาร์ลไลล์ เขียนถึงเขาเมื่อ ค.ศ. 1840 ว่า "เชกสเปียร์ผู้ยิ่งใหญ่ ส่องประกายด้วยมงกุฎแห่งเอกราช อันเจิดจรัสเหนือผองเรา ดำรงซึ่งเกียรติ ศักดิ์ และพลังอันยิ่งใหญ่ ไม่มีผู้ใดจักทำลายลงได้"[71] การแสดงละครในยุควิกตอเรียสร้างจากงานของเชกสเปียร์อย่างยิ่งใหญ่อลังการ[72] จอร์จ เบอร์นาร์ด ชอว์ นักวิจารณ์และนักเขียนบทละครถึงกับตั้งสมญานามเชิงล้อเลียนให้แก่เชกสเปียร์ว่าเป็น "Bardolatry" (จอมเทพแห่งกวี: มีความหมายเชิงยกย่องแต่แฝงความโบราณคร่ำครึ) และกล่าวว่า งานเขียนร่วมสมัยเชิงธรรมชาตินิยมที่เริ่มจากบทละครของอิบเซน นับเป็นจุดสิ้นสุดยุคของเชกสเปียร์[65]

แต่การปฏิวัติศิลปะยุคใหม่ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 มิได้ละทิ้งงานของเชกสเปียร์ กลับนำผลงานของเขากลับมาใหม่ตามความพอใจของชนชั้นสูง กลุ่มเอ็กซ์เพรสชันนิสต์ในเยอรมันและพวกฟิวเจอริสต์ในมอสโกต่างนำเอาบทละครของเขากลับมาสร้างสรรค์กันใหม่ นักเขียนบทละครและผู้กำกับนิยมมาร์กซิสต์ ชื่อ Bertolt Brecht ได้สร้างโรงละครย้อนยุคโดยได้รับแรงบันดาลใจจากเชกสเปียร์ ที.เอส.อีเลียต กวีและนักวิจารณ์แสดงความเห็นค้านกับชอว์ ว่างานของเชกสเปียร์มีความ "เรียบง่าย" อย่างมาก ซึ่งแสดงถึงความทันสมัยของเชกสเปียร์ในยุคเดียวกันนั้น[73] อีเลียต ร่วมกับ จี.วิลสัน ไนท์ และโรงเรียนวิจารณ์วรรณกรรมยุคใหม่ มีบทบาทสำคัญในยุคปฏิวัติวัฒนธรรมนี้โดยได้รับอิทธิพลจากผลงานของเชกสเปียร์ ช่วงทศวรรษ 1950 คลื่นการเปลี่ยนแปลงของยุคใหม่เริ่มเคลื่อนเข้าสู่ยุค "โพสต์-โมเดิร์น" ซึ่งนำการศึกษาวรรณกรรมของเชกสเปียร์เข้าสู่ยุคใหม่ด้วย[73] ทศวรรษ 1980 ลักษณะการศึกษาผลงานของเชกสเปียร์เปิดกว้างต่อศิลปะในรูปแบบต่าง ๆ มากขึ้น เช่น structuralism, เฟมินิสต์, อัฟริกัน-อเมริกัน, และ เควียร์[73]

ใกล้เคียง

วิลเลียม เชกสเปียร์ วิลเลียม โมลตัน มาร์สตัน วิลเลิม เดอ โกนิง วิลเลียม รีกัล วิลเลียม วอลเลซ วิลเลียม ฮาวเวิร์ด แทฟต์ วิลเลียม ทอมสัน บารอนเคลวินที่ 1 วิลเลียม ฟอกเนอร์ วิลเลียม สแตนดิช โนลส์ วิลเลียม ชอกลีย์

แหล่งที่มา

WikiPedia: วิลเลียม_เชกสเปียร์ http://www.bartleby.com/100/146.html http://www.findarticles.com/p/articles/mi_qa3709/i... http://shakespeare.palomar.edu/rowe.htm http://www.william-shakespeare.info/william-shakes... http://www.americanshakespearecenter.org/ http://www.nycgovparks.org/sub_your_park/historica... http://www.opensourceshakespeare.org/ http://worldcat.org/oclc/1935264 http://worldcat.org/oclc/2364570 http://worldcat.org/oclc/336379