พิธีกรรม ของ ศาสนาฮินดูแบบบาหลี

จานังซารีที่ชาวบาหลีที่นับถือศาสนาฮินดูถวายแด่เทพเจ้าและผีบรรพชน

ศาสนาฮินดูแบบบาหลีจะมีหน้าที่ที่เรียกว่า ปัญจยุธะ (panca yudha) หรือ ยัชญะ 5 ประการ ที่ต่างออกไปจากปรกติ[12] ได้แก่[13]

  1. เทวยัชญะ (dewa yadnya เดวายัดญา) – บูชาเทพเจ้า
  2. ภูตยัชญะ (buta yadnya บูตายัดญา) – บูชาภูตผีปีศาจ
  3. ฤษียัชญะ (resi yadnya เรอซียัดญา) – การอุทิศถวายแก่นักบวช
  4. มนุษยยัชญะ (manusa yadnya มานูซายัดญา) – พิธีกรรมสำคัญต่าง ๆ ของมนุษย์ เช่น การเกิด การผ่านเข้าสู่ช่วงวัยใหม่ การสมรส
  5. ปิตฤยัชญะ (pitra yadnya ปิตรายัดญา) – สำหรับการตายและการเกิดใหม่

การเกิดและชีวิต

พิธีฌาปานกิจแบบบาหลีที่อูบุด

ชาวบาหลีมีพิธีกรรมทางศาสนากว่า 13 พิธี (ไม่รวมพิธีกรรมหลังการตาย) ประกอบไปด้วยสี่ประการคือ ขับไล่วิญญาณชั่วร้าย ทำให้บริสุทธิ์ด้วยน้ำศักดิ์สิทธิ์ การเผาเครื่องหอมให้กลิ่นโชยไปกับลม และการสวดภาวนา สิ่งเหล่านี้จะอยู่ในพิธีกรรมสำคัญต่าง ๆ ในช่วงชีวิตของมนุษย์ เช่น การเกิด การเข้าสู่วัยรุ่น การตะไบฟัน และการสมรส[11] เมื่อมีการเกิด ในช่วง 42 แรกของชีวิตทารกจะถือว่าเป็นตัวแทนของผีบรรพชนและเทพเจ้าบนโลกมนุษย์ ส่วนมารดานั้นจะถือว่ามีมลทินไม่สามารถร่วมปฏิบัติศาสนกิจได้ในช่วงเวลาดังกล่าว ทารกจะไม่สามารถนำเท้าลงแตะพื้นได้จนกว่าจะอายุครบ 105 วัน เพราะถือว่าพื้นโลกมีราคี เมื่ออายุครบ 210 วันตามปฏิทินปาวูกนของบาหลี ก็จะมีการฉลองวันเกิดครั้งแรกแก่ทารก ครั้นเมื่ออายุย่างเข้าสู่วัยรุ่นก็จะมีพิธีตะไบฟันหกซี่บนจนเสมอกัน[14][15] ซึ่งถือว่าฟันหกซี่บนนั้นเสมือนความชั่วร้าย 6 ประการ อันได้แก่ ความขี้เกียจ ความเฉื่อยชา ความโลเล ความโลภ กิเลสตัณหา และโทสะ เมื่อตะไบฟันแล้ว จะถือว่าเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์[16]

การสมรสถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับชาวบาหลีที่นับถือฮินดู ซึ่งสามีจำต้องเป็นทั้งหัวหน้าครอบครัวและการเป็นสมาชิกของหมู่บ้าน การให้กำเนิดบุตรถือเป็นสิ่งยืนยันว่ามีผู้สืบวงศ์ตระกูล และต้องบุตรคนใดคนหนึ่งมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาสำหรับการกลับชาติมาเกิดใหม่ อันเป็นเครื่องหมายของการเข้าสู่วัยรุ่น[14][15][17]

การตายและการเกิดใหม่

เมื่อมีการเสียชีวิตก็จะมีพิธีกรรมทางศาสนา ชาวฮินดูเชื่อว่าเมื่อตายลงวิญญาณจะเป็นอิสระและจะกลับไปเกิดใหม่ หากจะเป็นอิสระได้ก็ต้องมีการฌาปนกิจศพให้เรียบร้อยเสียก่อนจึงจะถือว่าเสร็จสิ้นพิธีการ เพราะการฌาปนกิจไม่ใช่แค่การกำจัดศพ แต่เป็นการส่งดวงวิญญาณให้กลับไปสู่เทพเจ้าและเป็นผีบรรพบุรุษคอยบันดาลพูนสุขแก่ลูกหลานบนโลก กระนั้นการฌาปนกิจแบบบาหลีนั้นค่าใช้จ่ายสูงนักเนื่องจากมีพิธีกรรมค่อนข้างซับซ้อน หลายครอบครัวจึงต้องฝังศพไว้ก่อนจนกว่าจะมีเงินเพียงพอที่จะจ่ายค่างานศพ ทั้งนี้ศพของนักบวชและชนชั้นสูงจะถูกเก็บไว้เหนือผืนดินไม่ให้ฝังไว้ใต้ดิน[18][19]