บทความนี้ใช้ระบบคริสต์ศักราช เพราะอ้างอิงคริสต์ศักราชและคริสต์ศตวรรษ หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง
สนธิสัญญาคานางาวะ (
ญี่ปุ่น: 神奈川条約
โรมาจิ: Kanagawa Jōyaku
ทับศัพท์: คานางาวะ โจยากุ) หรือ
ข้อตกลงคานางาวะ (
ญี่ปุ่น: 日米和親条約
โรมาจิ: Nichibei Washin Jōyaku
ทับศัพท์: นิจิเบ วาชิน โจยากุ) เป็นสนธิสัญญาที่ได้ทำขึ้นระหว่างพลเรือจัตวา แมทธิว ซี. เพอร์รี แห่งกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา และ
รัฐบาลเอโดะ สนธิสัญญาดังกล่าวมีผลให้ญี่ปุ่นต้องเปิดเมืองท่าชิโมดะและ
ฮาโกดาเตะให้ค้าขายกับสหรัฐอเมริกาและรับประกันความปลอดภัยของกะลาสีเรือแตกชาวอเมริกัน อย่างไรก็ตาม สนธิสัญญาดังกล่าวมิได้สร้างพื้นฐานสำหรับการตั้งถิ่นฐานถาวรในบริเวณดังกล่าว
[1] สนธิสัญญาได้วางรากฐานสำหรับสหรัฐในการรักษากงสุลถาวรในชิโมดะ การมาถึงของกองเรือของเพอร์รีนำมาซึ่งการสิ้นสุดของนโยบายตัดขาดจากโลกภายนอกเป็นเวลา 200 ปีของญี่ปุ่น (ซาโกกุ)
[2]เพอร์รีปฏิเสธที่จะเจรจากับเจ้าหน้าที่ทางการของญี่ปุ่นและต้องการเจรจากับประมุขแห่งรัฐของญี่ปุ่นโดยตรง ในเวลานั้น
โชกุน โทกูงาวะ อิเอโยชิ เป็นผู้ปกครองโดยพฤตินัยของญี่ปุ่น และไม่เคยมีธรรมเนียมที่จักรพรรดิจะทรงมีพระราชปฏิสัณฐารกับชาวต่างชาติโดยตรง เพอร์รีจึงเจรจาความกับ ฮิระชิ อะกิระ ผู้ถืออำนาจเต็มแทนโชกุน และจึงถวายหนังสือสัญญาให้
จักรพรรดิโคเมทรงลงพระนามรับรอง
[3]สนธิสัญญาคานางาวะ ตามมาด้วยสนธิสัญญาสัมพันธไมตรีและการค้า หรือ "สนธิสัญญาแฮริส" ใน ค.ศ. 1858 ซึ่งอนุญาตให้สัมปทานแก่ชาวต่างประเทศ การมอบ
สิทธิสภาพนอกอาณาเขตให้แก่ชาวต่างประเทศ และการจำกัดภาษีขาเข้าของสินค้าต่างประเทศ ญี่ปุ่นในเวลาต่อมาจะอยู่ภายใต้ "ระบบสนธิสัญญาอันไม่เป็นธรรม" อันเป็นลักษณะของความสัมพันธ์ระหว่างชาติเอเชียและชาติตะวันตกในยุคสมัยดังกล่าว
[4]