พระราชประวัติ ของ สมเด็จพระศรีสุลาลัย

พระชนม์ชีพตอนต้น

สมเด็จพระศรีสุลาลัย มีพระนามเดิมว่า เรียม เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันจันทร์ เดือน 3 ขึ้น 13 ค่ำ ปีขาลโทศก ศักราช 1132 ตรงกับวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2314[1] เป็นธิดาเพียงคนเดียวของพระยานนทบุรีศรีมหาอุทยาน (บุญจัน) กับคุณหญิงเพ็ง นนทบุรีศรีมหาอุทยาน มีนิวาสถานเดิมอยู่ที่เมืองนนทบุรีด้วยพระชนกเป็นผู้ว่าราชการเมืองดังกล่าว[6] พระองค์มีพระอนุชาต่างมารดาชื่อ นาค สมรสกับน้องสาวคนหนึ่งของพระอักษรสมบัติ (หม่อมทับ) บิดาเจ้าจอมมารดาทรัพย์ ในรัชกาลที่ 3[7] พระอนุชานาคนี้เป็นต้นสกุลของพระยารัตนอาภรณ์ (แตง)[8]

บุรพชนฝ่ายพระชนกนั้นไม่ใคร่ปรากฏหลักฐานนัก ทราบแต่เพียงว่าเป็นชาวไทยมาจากย่านบางเชือกหนัง[9] ส่วนฝ่ายพระชนนีคือ คุณหญิงเพ็งนั้นมีบิดาเป็นมุสลิมสุหนี่ชื่อพระยาราชวังสัน (หวัง) ที่สืบเชื้อสายมาจากสุลต่านสุลัยมานแห่งสงขลา[10][11] กับมารดาชื่อท่านชู สตรีชาวไทยย่านสวนวัดหนัง คลองบางขุนเทียน ฝั่งธนบุรี[9] คุณหญิงเพ็งมีน้องอีกสองคน ได้แก่[12]

  • ท่านปล้อง สมรสกับพระยาพัทลุง (ทองขาว ณ พัทลุง) มีบุตรธิดาทั้งหมด 9 คน เป็นยายของเจ้าจอมมารดาทรัพย์ในรัชกาลที่ 3 และเป็นเทียดของพระนมปริก
  • พระนมรอด สมรสกับพระยาศรีสรราช (เงิน) ต่อมาได้เป็นพระนมของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว

เพ็งสมรสกับพระยานนทบุรีศรีมหาอุทยาน (บุญจัน) ที่ต่อมาได้รับราชการไปเป็นผู้ว่าราชการเมืองนนทบุรีแล้วย้ายไปตั้งบ้านเรือนที่นั่น และมีธิดาด้วยกันเพียงเดียวคือเรียม ภายหลังพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการสร้างพระอารามถวายแด่พระบรมราชชนนีในนิวาสถานเดิมซึ่งปัจจุบันคือ วัดเฉลิมพระเกียรติ ลุมาถึงในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จ้างช่างไปเขียนฝาผนังอุโบสถ ให้เขียนเป็นลายรดน้ำมีปราสาทตราแผ่นดิน และเขียนเป็นรูปดวงจันทร์เต็มบริบูรณ์ ทรงออกพระนามว่า "เพ็งองค์ ๑ จันทร์องค์ ๑" คือพระชนกพระชนนีของสมเด็จพระศรีสุลาลัยนั่นเอง[13]

เข้ารับราชการฝ่ายใน

คุณเรียมเริ่มรับราชการในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ตั้งแต่ครั้งยังทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร ด้วยทอดพระเนตรเห็นคุณเรียมขณะลงเล่นน้ำที่ท่าหน้าบ้านแล้วต้องพระทัย[14] และตามเสด็จไปประทับ ณ พระราชวังเดิม ถือเป็นหม่อมห้ามคนที่สองในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (ส่วนหม่อมท่านแรก คือ เจ้าจอมมารดาสี ธิดาเจ้าพระยาศรีธรรมาธิราช)

เจ้าจอมมารดาเรียมได้ประสูติพระราชโอรสพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ณ พระราชวังเดิม จำนวน 3 พระองค์ ได้แก่

  1. พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (31 มีนาคม พ.ศ. 2330 – 2 เมษายน พ.ศ. 2394) มีพระราชโอรสธิดา 51 พระองค์
  2. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าป้อม (7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2333 – พ.ศ. 2336)
  3. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดำ หรือ หนูดำ[15] (พ.ศ. 2335 – พ.ศ. 2336)

หลังจากพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเสวยราชสมบัติ เจ้าจอมมารดาเรียมได้ตามเสด็จไปประทับ ณ พระบรมมหาราชวัง ดำรงตำแหน่งพระสนมเอกดูแลห้องเครื่องต้นทั้งปวงจนชาววังออกนามว่า เจ้าคุณ ถือเป็นสตรีที่มีบทบาทโดดเด่นในราชสำนัก เมื่อพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ในวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2367 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาสมเด็จพระพันปีหลวงเป็น กรมพระศรีสุลาลัย[3]

การสวรรคตของรัชกาลที่ 2

เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเสด็จสวรรคตอย่างกะทันหันหลังจากการผนวชของเจ้าฟ้ามงกุฎเพียงไม่นาน ทำให้สมเด็จพระศรีสุราลัยทรงถูกครหาว่าเป็นผู้ที่ได้ประโยชน์ยิ่งจากการสวรรคตในครั้งนี้ เนื่องจากกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์พระราชโอรสได้สืบราชสมบัติ[16][17] กรณีดังกล่าวปรามินทร์ เครือทอง ได้เขียนบทความ "ฆาตกรรมวังหลวง : คดีลอบปลงพระชนม์รัชกาลที่ ๒ จริงหรือข่าวลือ?" จึงตั้งข้อสังเกตโดยอาศัยเอกสาร เช่น

หนังสือราชสำนักสยามฯ ที่เขียนโดยนายแพทย์มัลคอล์ม สมิธ แพทย์หลวงประจำรัชกาลที่ 5 ได้กล่าวถึงสิ่งที่เขาได้ฟังมาว่า "หลังจากที่ทรงผนวชได้เพียง 2 สัปดาห์ พระราชบิดาของพระองค์ [รัชกาลที่ 2] ก็เสด็จสวรรคตลงอย่างปัจจุบันทันด่วน พระนั่งเกล้าฯ พระเชษฐาซึ่งมีตำแหน่งสำคัญในราชอาณาจักรและยังทรงได้รับการสนับสนุนจากพระมารดาซึ่งแม้จะมีฐานะเป็นเพียงเจ้าจอมแต่ก็เป็นหญิงที่มีเล่ห์เหลี่ยม ทำให้พระองค์ทรงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้สืบทอดราชสมบัติ" ซึ่งก่อนหน้านั้นสมัยรัชกาลที่ 4 แอนนา ลีโอโนเวนส์ ครูสอนภาษาอังกฤษในราชสำนักสยามก็เคยได้ยินคำเล่าลือทำนองนี้มาเช่นกัน[16]

อย่างไรก็ตาม นายแพทย์เอกชัย โควาวิสารัช ได้เขียนบทความ "ประวัติศาสตร์วิเคราะห์ กรณีสวรรคตพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยฯ" เพื่อโต้แย้งบทความของนายปรามินทร์ เครือทอง เนื่องจากเห็นว่าเป็นบทความที่มีความไม่ถูกต้องและไม่ได้ให้ความเป็นธรรมแก่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวและได้กล่าวหาสมเด็จพระศรีสุลาลัยโดยปราศจากหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้เลยแม้แต่น้อย นอกจากประวัติศาสตร์ที่เป็นลักษณะบัตรสนเท่ห์หาสาระอะไรไม่ได้เลยเท่านั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ได้ให้ความเป็นธรรมแก่พระองค์[18]

นายแพทย์เอกชัย โควาวิสารัช ได้วิเคราะห์ถึงสาเหตุการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยว่า มีพระอาการที่เหมือนกันกับโรคสมองอักเสบที่มีสาเหตุจากเชื้อไวรัสค่อนข้างมาก ตั้งแต่ปวดพระเศียร ปวดเมื่อย มึนพระองค์ มีพระไข้ ซึมลง ตรัสไม่ได้ และเสวยพระโอสถไม่ได้ นอกจากนี้ พระอาการยังมีความคล้ายกับโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบเช่นกัน แต่พระอาการพระศอแข็งไม่สามารถระบุได้ชัดเจน เนื่องจากไม่มีบันทึกโดยแพทย์หลวงหรือปรากฏในเอกสารชิ้นใดเลย แต่พระอาการของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยกลับไม่เหมือนกับโรคเลือดออกในสมองหรือโรคเนื้องอกของสมอง ดังนั้น นายแพทย์เอกชัย โควาวิสารัชจึงมีความเห็นว่า พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยน่าจะทรงพระประชวรและสวรรคตด้วยพระโรคติดเชื้อของสมอง ซึ่งอาจเป็นโรคสมองอักเสบที่มีสาเหตุจากเชื้อไวรัสหรือโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบมากที่สุด[18]

สวรรคต

สมเด็จพระศรีสุลาลัยทรงพระประชวรไข้พิษ และเสด็จสวรรคตเมื่อวันอังคาร เดือน 11 แรม 3 ค่ำ เวลา 3 ยาม ตรงกับวันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2380[1] สิริพระชนมายุ 68 พรรษา พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระบรมศพขึ้นประดิษฐาน ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท[1] มีการจัดสร้างพระเมรุมาศ และถวายเพลิงพระบรมศพ ก่อนที่จะนำพระบรมอัฐิอัญเชิญสู่พระบรมมหาราชวัง[19]

ใกล้เคียง

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก

แหล่งที่มา

WikiPedia: สมเด็จพระศรีสุลาลัย http://www.oknation.net/blog/print.php?id=248217 http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1... http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1... http://dl.parliament.go.th/bitstream/handle/lirt/5... http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2443/05... http://www.king3.or.th/KING3/HISTORY%20MOM%20KING3... https://ia800501.us.archive.org/25/items/ThaiKings... https://vajirayana.org/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0... https://www.dailynews.co.th/article/198827