สวนป่าเบญจกิติ (
อังกฤษ: Benchakitti Forest Park) เป็น
สวนสาธารณะระดับย่าน ขนาด 320 ไร่ ตั้งอยู่ที่
ถนนรัชดาภิเษก แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร โดยอยู่ในบริเวณพื้นที่
โรงงานยาสูบเดิม ติดกับ
สวนเบญจกิติทางฝั่งตะวันออก สวนป่าเบญจกิติถือเป็นโครงการสวนสาธารณะระยะต่อเนื่องจากสวนเบญจกิติที่ยึดแนวคิดของ "สวนน้ำ" ส่วนสวนป่าเบญจกิติยึดแนวคิดของ "ป่าในเมือง" (urban forest)
[2] หากรวมพื้นที่ทั้งหมดจะมีเนื้อที่รวมประมาณ 450 ไร่สวนป่าเบญจกิติ ได้วางแผนการดำเนินงานไว้ 3 ระยะ ระยะที่ 1 มีเนื้อที่ประมาณ 61 ไร่ เน้นการปลูกพันธ์ไม้ไทยหายาก ระยะที่ 2 และ 3 มีเนื้อที่ประมาณ 259 ไร่ เน้นแนวคิดพื้นที่ทางธรรมชาติ พื้นที่เส้นทาง และพื้นที่อาคารเดิม สวนป่าเบญจกิติได้รับการออกแบบโดยทีมงาน
ภูมิสถาปนิก บริษัทสถาปนิกชุมชนและสิ่งแวดล้อม อาศรมศิลป์ จำกัด และบริษัท ฉมา จำกัด
[3] นอกจากนี้ยังมีศาสตราจารย์อวี้ข่งเจี้ยน (Kongjian Yu) จากทูเรนแลนด์สเคป (Turenlandscape) ภูมิสถาปนิกเจ้าของแนวคิดเมืองฟองน้ำ (sponge city) มาร่วมให้คำปรึกษาในส่วนแนวคิดการออกแบบ ซึ่งสวนป่าเบญจกิตินำแนวคิดเรื่องของเมืองฟองน้ำมาใช้ในการออกแบบในภาพรวมระยะที่ 2 และ 3 ทั้งการใช้บึงรับน้ำขนาดใหญ่จำนวน 4 บึง มีจุดเด่นคือ เกาะต้นไม้ทรงกลมเพื่อการกักเก็บน้ำและหน่วงน้ำ การทำสวนฝน (rain garden) ตลอดเส้นทางสัญจรในโครงการ โดยทั้งหมดใช้พืชพรรณท้องถิ่นตามธรรมชาติ ไม่เน้นการตัดแต่งเพื่อให้คงแนวคิดสวนป่าตามนิเวศธรรมชาติเดิมให้มากที่สุด สวนป่าเบญจกิติยังถือเป็นสวนขนาดใหญ่แห่งแรก ๆ ในกรุงเทพมหานครที่นำแนวคิดการออกแบบภายใต้การแก้ปัญหาที่อาศัยธรรมชาติเป็นพื้นฐาน (Nature-based Solution) เข้ามาในการออกแบบ คล้ายคลึงกับแนวคิดของ
อุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสวนป่าเบญจกิติ ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2559 และได้เปิดให้เข้าชมพื้นที่บริเวณสวนป่าในช่วงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2564 และจะเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2565 โดยกระทรวงการคลัง
กรมธนารักษ์ เป็นหน่วยงานผู้รับผิดชอบในการจัดสร้างและ
การยาสูบแห่งประเทศไทยเป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง
[4] ภายในสวนประกอบด้วยพันธ์ไม้เดิม 1,733 ต้น และต้นไม้ที่ลงใหม่ 7,155 ต้น หลากหลายชนิดพันธุ์ มี
อัฒจันทร์ขนาดใหญ่รองรับกิจกรรมกลางแจ้ง ทางเดินลอยฟ้าระยะ 1.6 กิโลเมตร ทางวิ่ง ทางจักรยาน และทางเดินโดยรอบโครงการ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงอาคารเดิม ได้แก่ อาคารโกดังเดิม อาคารพิพิธภัณฑ์ และอาคารศาลาสำหรับกีฬาในร่ม