อรรถาธิบาย ของ สิทธิแรงงาน

การเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสิทธิแรงงานมีพัฒนาการพร้อมกับพัฒนาการทางเศรษฐกิจและระบบทุนนิยม โดยเริ่มจากการต่อต้านการล้อมรั้วที่ดินในอังกฤษ อังกฤษในขณะนั้นอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ทำการเกษตรไปเป็นพื้นที่เลี้ยงแกะซึ่งเป็นอุตสาหกรรมส่งออกสำคัญ ทุ่งหญ้าส่วนกลางซึ่งประชาชนมีเสรีในการใช้งานถูกล้อมให้ตกอยู่ใต้กรรมสิทธิ์เจ้าของที่ดินเท่านั้น ทำให้ชาวบ้านซึ่งเคยใช้พื้นที่เหล่านี้ในการทำการเกษตรและเลี้ยงปศุสัตว์ไม่สามารถประกอบอาชีพต่อไปได้เพราะพื้นที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นพื้นที่เลี้ยงแกะเพื่อการส่งออกขนแกะ

สิทธิแรงงานได้รับความสำคัญมากยิ่งขึ้นในช่วงหลังการปฏิวัติอุตสาหกรรมซึ่งเปลี่ยนแรงงานทางการเกษตรเป็นแรงงานในโรงงานอุตสาหกรรมและแหล่งทรัพยากรธรรมชาติเพื่อการอุตสาหกรรม เช่น เหมืองแร่ต่างๆ โดยมีการออกกฎหมายแรงงานในอังกฤษเมื่อปี ค.ศ. 1833 ซึ่งมีเนื้อหาในการห้ามการใช้แรงงานเด็ก กำหนดค่าแรงขั้นต่ำและจำกัดชั่วโมงการทำงานต่อวัน โดย ห้ามการใช้แรงงานเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 9 ปี เด็กที่มีอายุ 9-13 ปีทำงานได้ไม่เกินวันละ 8 ชั่วโมง และเด็กอายุ14-18 ปีทำงานได้ไม่เกินวันละ 12 ชั่วโมง กระบวนการปฏิวัติอุตสาหกรรมยังได้เพิ่มแนวคิดเกี่ยวกับสิทธิแรงงานเข้าไปในสิทธิมนุษยชน โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานความเชื่อว่าแรงงานก็เป็นมนุษย์ ควรได้รับการปฏิบัติในฐานะมนุษย์ มิใช่ทาสในระบบแรงงานทาส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงศตวรรษที่ 19 ซึ่งมีการจัดตั้งสหภาพแรงงานเป็นครั้งแรก รวมถึงกระแสลัทธิสังคมนิยมของคาร์ล มาร์กซ์ ได้วิพากษ์ระบบทุนนิยมซึ่งกดขี่ชนชั้นกรรมาชีพในโรงงานอุตสาหกรรมว่าไม่เป็นธรรมอย่างร้ายกาจ

หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organisation – ILO – also know as International Labour Office) ถูกจัดตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1919 ภายใต้สันนิบาตชาติ เมื่อมีการจัดตั้งองค์การสหประชาชาติขึ้นแทนที่สันนิบาตชาติในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง องค์การแรงงานระหว่างประเทศก็เข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหประชาชาติ และตัวสหประชาชาติเองได้กล่าวถึงสิทธิแรงงานไว้ในคำปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนไว้ในข้อที่ 23 และ 24 ดังนี้ (สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ)[1]

ข้อ 23

  1. ทุกคนมีสิทธิในการงาน ในการเลือกงานโดยอิสระในเงื่อนไขอันยุติธรรม และเป็นประโยชน์แห่งการงาน และการคุ้มครองแห่งการว่างงาน
  2. ทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับเงินค่าจ้างเท่าเทียมกันสำหรับงานเท่าเทียมกัน โดยปราศจากการเลือกปฏิบัติใดๆ
  3. ทุกคนที่ทำงานมีสิทธิที่จะได้รับค่าจ้างที่ยุติธรรมและเป็นประโยชน์ ที่จะให้ประกันแก่ตนเองและครอบครัวแห่งตน ซึ่งความเป็นอยู่อันคู่ควรแก่เกียรติศักดิ์ของมนุษย์ และถ้าจำเป็นก็จะต้องได้รับวิถีทางคุ้มครองทางสังคมอื่นเพิ่มเติมด้วย
  4. ทุกคนมีสิทธิที่จะจัดตั้ง และที่จะเข้าร่วมสหพันธ์กรรมกรเพื่อความคุ้มครองแห่งประโยชน์ของตน

ข้อ 24ทุกคนมีสิทธิในการพักผ่อนและเวลาว่าง รวมทั้งจำกัดเวลาการทำงานตามสมควร และวันหยุดงานเป็นครั้งคราวโดยได้รับสินจ้าง

ใกล้เคียง

สิทธิ สิทธิของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศเรียงตามประเทศหรือดินแดน สิทธิ เศวตศิลา สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย สิทธิเก็บกิน สิทธิในสุขภาพ สิทธิในอาหาร สิทธิของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศในประเทศไทย สิทธิชัย ผาบชมภู สิทธิพร นิยม