รับใช้โจโฉ ของ หันค่าย

ภายหลังการเสียชีวิตของเล่าเปียวในปี ค.ศ. 208 เล่าจ๋องบุตรชายคนรองและทายาทของเล่าเปียวยอมสวามิภักดิ์และสละตำแหน่งเจ้ามณฑลเกงจิ๋วให้กับขุนศึกโจโฉผู้ควบคุมพระเจ้าเหี้ยนเต้จักรพรรดิหุ่นเชิดและกุมอำนาจราชสำนักราชวงศ์ฮั่น[16] โจโฉรับหันค่ายเข้ารับราชการในสำนักของอัครมหาเสนาบดี (丞相 เฉิงเซี่ยง) ซึ่งเป็นตำแหน่งของโจโฉ ภายหลังได้เลื่อนขั้นให้หันค่ายเป็นเจ้าเมือง (太守 ไท่โฉ่ว) ของเมืองเล่าหลิง (樂陵郡 เล่าหลิงจฺวิ้น; อยู่บริเวณอำเภอหยางซิ่น มณฑลชานตงในปัจจุบัน)[17]

ต่อมาหันค่ายได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้กำกับดูแลงานหลอมเหล็ก (監冶謁者 เจียนเหย่เย่เจ่อ) ทำหน้าที่ดูแลอุตสากรรมการหล่อเหล็ก[18] ในสมัยก่อนลูกสูบของเตาหลอมเหล็กทุกเตาใช้ม้าลาก 100 ตัว ต่อมาอุตสาหกรรมเปลี่ยนไปใช้แรงงานคน เมื่อหันค่ายเข้ามาดูอุตสาหกรรม หันค่ายเห็นว่าการใช้แรงงานคนไร้ประสิทธิภาพเกินไปและต้องใช้กำลังคนมากเกินไป จึงเสนอเสนอให้ใช้พลังน้ำในการควบคุมลูกสูบ ซึ่งเป็นวิธีการที่คิดค้นโดยตู้ ชือเมื่อต้นยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันออก[3] หลังการเปลี่ยนแปลง ปริมาณเหล็กหล่อที่ผลิตได้ในอุตสาหกรรมจึงเพิ่มขึ้นสามเท่าเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน[19] หันค่ายดูแลอุตสาหกรรมการหล่อเหล็กเป็นเวลา 7 ปี และทำงานได้เป็นอย่างดีโดยระดับการผลิตเหล็กหล่อยังคงสูง จึงมั่นใจได้ว่าทหารโจโฉจะมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีคุณภาพ ราชสำนักของราชวงศ์ฮั่นจึงออกพระราชโองการยกย่องหันค่ายสำหรับความดีความชอบอันยอดเยี่ยม และเลื่อนขั้นให้หันค่ายมีตำแหน่งนายร้อยโลหะ (司金都尉 ซือจินตูเว่ย์) มีฐานะรองลงมาจากเก้าเสนาบดีในลำดับชั้นราชการของราชวงศ์ฮั่น[20][21]