บทความนี้ใช้ระบบคริสต์ศักราช เพราะอ้างอิงคริสต์ศักราชและคริสต์ศตวรรษ หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง
อัตติลา หรือที่ใช้อ้างอิงส่วนใหญ่
อัตติลาเดอะฮัน (
อังกฤษ: Attila the Hun) (
ค.ศ. 406 –
ค.ศ. 453) เป็นจักรพรรดิ
ชาวฮันผู้ครอง
จักรวรรดิฮัน (Hunnic Empire) ซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มชนเผ่าต่างๆทั้ง
ฮัน ออสโตรกอท อลานส์ และเผ่าอนารยชนอื่นๆ ในดินแดน
ยุโรปกลางและ
ยุโรปตะวันออก ระหว่าง
ค.ศ. 434 จนถึงเดือนมีนาคม
ค.ศ. 453 ที่พระองค์ได้เสด็จสวรรคตลง ในรัชสมัยของพระองค์สามารถครอบครองดินแดนตั้งแต่
ประเทศเยอรมนีไปจนถึง
แม่น้ำยูรัล และจาก
แม่น้ำดานูบไปจนถึง
ทะเลบอลติก กินพื้นที่มากกว่า 4 ล้านตารางกิโลเมตร
[1] นับเป็น
การครอบครองดินแดนที่มากที่สุดอาณาจักรหนึ่งใน
ยุคมืดในรัชสมัยการปกครองของอัตติลาทรงเป็นประมุขผู้สร้างความหวาดหวั่นและถือเป็นศัตรูที่อันตรายที่สุดแก่
จักรวรรดิโรมันตะวันออกและ
จักรวรรดิโรมันตะวันตก พระองค์ทรงรุกราน
คาบสมุทรบอลข่านถึงสองครั้ง แต่พระองค์ไม่สามารถรุกรานกรุง
คอนสแตนติโนเปิลได้สำเร็จ และจากผลพวงของการพ่ายแพ้ใน
เปอร์เซีย ในปี ค.ศ. 441 พระองค์ได้ทำการรุกรานยังดินแดนจักรวรรดิโรมันตะวันออก (
อาณาจักรไบแซนไทน์) ซึ่งประสบผลสำเร็จในฝั่งตะวันตก พระองค์ยังทรงนำทัพเข้าไปยังดินแดน
กอล (
ประเทศฝรั่งเศสปัจจุบัน) ไปจนถึง
ออร์เลอ็อง ก่อนที่พระองค์จะทรงพ่ายแพ้ในยุทธการที่ชาลง (Battle of Chalons) พระองค์ได้รุกรานต่อไปยัง
อิตาลี ได้ทำลายเมืองทางเหนือจนพินาศ แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะกรุงโรมได้ พระองค์ได้ทรงดำริที่จะรุกรานโรมันอีกครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ เนื่องจากได้เสด็จสวรรคตลงในปี ค.ศ. 453 ภายหลังการสวรรคตของอัตติลา ได้ส่งผลให้ อาร์ดาริก ซึ่งเดิมเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของอัตติลา ได้ทำการแย่งชิงอำนาจกับพระโอรสของอัตติลาขึ้น ใน ยุทธการเนเดา (Battle of Nedao) ส่งผลให้อิทธิพลของจักรวรรดิฮันได้ค่อยๆยุติลงในดินแดนยุโรปตะวันออกชาว
ยุโรปตะวันตกมองพระองค์ ว่าป่าเถื่อน ทารุณและไร้ความปราณี แต่ใน
ฮังการี,
ตุรกี และประเทศในกลุ่ม
เตอร์กิกต่าง ๆ ในเอเชีย พระองค์ทรงได้ชื่อว่าเป็นวีรบุรุษ นักประวัติศาสตร์และนักบันทึกเหตุการณ์บางท่านบรรยายพระองค์ว่าเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่และผู้ทรงคุณธรรม นอกจากนั้นแล้วอัตติลาก็ยังทรงเป็นผู้มีบทบาทสำคัญที่เกี่ยวข้องกับตำนานของ
ชาวนอร์สเรื่อง Atlakviða, Volsunga saga และ Atlamál
[2]อัตติลาได้รับการบรรยายโดยนักประวัติศาสตร์จอร์ดาเนสว่าทรงมี "พระวรการที่เตี้ย, พระอุระกว้างและพระเศียรใหญ่; พระเนตรเล็ก, พระมัสสุบางและประปรายด้วยสีเทา; พระนาสิกแบน และ พระฉวีคล้ำ แสดงถึงที่มาของพระองค์..."
[3] นอกจากนี้พระองค์ยังเป็นที่รู้จักในเรื่องของ "ดาบแห่งอัตติลา" ที่ได้รับการแต่งขึ้นโดยนักประวัติศาสตร์โรมันนาม
พริสคัส[4] (Priscus) อีกด้วย