กษัตริย์คู่ ของ อัตติลา

จักรวรรดิฮันมีอาณาบริเวณตั้งแต่ทุ่งหญ้าสเตปป์ในเอเชียกลางทางตะวันออกไปจนถึงเยอรมนีปัจจุบันทางตะวันตก และแม่น้ำดานูบทางตอนใต้ไปจนจรดทะเลบอลติกทางตอนเหนือ

การเสียชีวิตของขุนศึกรูจิลา (หรือ รูอา หรือ รูกา) ในปี ค.ศ. 434 ทำให้หลานสองคน อัตติลา และ เบลดา (หรือ Buda) บุตรชายของน้องชาย มุนด์ซุค (ฮังการี: Bendegúz, ตุรกี: Boncuk) มีอำนาจปกครองกลุ่มชนฮันทั้งหมด ในเวลาที่อัตติลาและเบลดาขึ้นครองราชย์ ชนฮันกำลังทำการเจรจาต่อรองกับราชทูตของจักรพรรดิธีโอโดเซียสที่ 2แห่งจักรวรรดิไบแซนไทน์ขอตัวคนทรยศ (อาจจะเป็นขุนนางที่ไม่เห็นด้วยกับการปกครองของอัตติลาและเบลดา) ที่หลบหนีไปพึ่งพระบรมโพธิสมภารในบริเวณที่เป็นจักรวรรดิไบแซนไทน์ ปีต่อมาอัตติลาและเบลดาก็ไปพบกับคณะราชทูตที่มาร์กุส (ปัจจุบันโพซาเรอวัค) โดยทุกคนต่างก็ยังคงนั่งอยู่บนหลังม้าตามประเพณีของฮัน[11] การต่อรองประสบความสำเร็จโดยการลงนามในสนธิสัญญา: ฝ่ายไบแซนไทน์ไม่แต่จะตกลงคืนตัวผู้ลี้ภัยแต่ยังเพิ่มบรรณาการเป็นสองเท่าจากเดิมเป็นทอง 350 โรมันปอนด์ (ราว 115 กิโลกรัม), เปิดตลาดไบแซนไทน์แก่พ่อค้าฮัน, และจ่ายค่าไถ่เป็นจำนวน 8 เหรียญโซลิดุสสำหรับทหารแต่ละคนที่ถูกจับโดยชนฮัน ฝ่ายฮันเมื่อพอใจในข้อตกลงในสนธิสัญญาก็รื้อค่ายออกจากไบแซนไทน์กลับไปยังบ้านเมืองที่ไปตั้งอยู่ในทุ่งราบใหญ่ฮังการี เพื่ออาจจะไปรวมรวมตัวและเสริมสร้างความมั่นคงแก่จักรวรรดิ จักรพรรดิธีโอโดเซียสจึงทรงฉวยโอกาสในช่วงเดียวกันในการเสริมสร้างกำแพงเมืองคอนสแตนติโนเปิลให้แข็งแรงขึ้น, สร้างกำแพงทะเลป้องกันตัวเมืองคอนสแตนติโนเปิลขึ้นเป็นครั้งแรก และเสริมสร้างระบบการป้องกันตามชายแดนริมฝั่งแม่น้ำดานูบเพิ่มขึ้น

ชนฮันออกไปจากจักรวรรดิโรมันตะวันออกอยู่สองสามปี ขณะที่นำกองทัพไปรุกรานจักรวรรดิแซสซานิด ความพ่ายแพ้ในอาร์มีเนียต่อจักรวรรดิซาสซานิยะห์ทำให้ฮันต้องล้มเลิกแผนการรุกรานและหันกลับมาให้ความสนใจต่อยุโรปใหม่ ในปี ค.ศ. 440 กองทัพฮันจำนวนมหาศาลก็มาปรากฏตัวที่พรมแดนของจักรวรรดิโรมัน โจมตีพ่อค้าที่ตลาดบนฝั่งเหนือของแม่น้ำดานูบที่ได้รับการก่อตั้งขึ้นตามสนธิสัญญา จากนั้นก็ข้ามแม่น้ำดานูบทำลายเมืองต่าง ๆ ของอิลลิเรียและป้อมตามริมฝั่งแม่น้ำ ตามบันทึกของนักประวัติศาสตร์พริสคัสที่รวมทั้งวิมินาเซียมซึ่งเป็นเมืองเอกของบริเวณโมเซียในอิลลิเรีย การรุกรานเริ่มต้นขึ้นที่มาร์กุสเพราะเมื่อฝ่ายไบแซนไทน์กำลังเจรจาเกี่ยวกับการส่งตัวบิชอปที่ดูหมิ่น บิชอปก็หนีไปหาชนฮันและไปบอกความลับเกี่ยวกับเมืองให้กับชาวฮัน

ชนฮันในยุทธการกับชนอาลัน, โยฮันน์ เนโพมุค ไกเกอร์ ค.ศ. 1873

ขณะที่ฮันประสบกับความสำเร็จในการโจมตีระบบการป้องกันทางทหารตามริมฝั่งแม่น้ำดานูบ แวนดัลภายใต้การนำของเจนเซอริคยึดจังหวัดทางตะวันตกของจักรวรรดิโรมันในแอฟริกาและเมืองหลวงคาร์เธจ ในปี ค.ศ. 440 และชาห์ยัซเดอเกิร์ดที่ 2 แห่งเปอร์เซียแซสซานิดก็เข้ารุกรานอาร์มีเนียในปี ค.ศ. 441 เมื่อฮันทำลายระบบการป้องกันในคาบสมุทรบอลข่านได้แล้วก็เท่ากับเป็นการเปิดทางทางด้านอิลลิเรียเข้าไปทางคาบสมุทรบอลข่านไปโจมตีแวนดัลในแอฟริกา (ซึ่งเป็นมณฑลที่มั่งคั่งที่สุดทางตะวันตกของจักรวรรดิโรมันและเป็นแหล่งอาหารอันสำคัญของโรม) ฮันเริ่มทำการโจมตีในปี ค.ศ. 441 หลังจากปล้นทำลายมาร์กัสและวิมินาเซียมก็เข้ายึดซินจิดูนัม (ปัจจุบันเบลเกรด) และ เซอร์เมียมก่อนที่จะหยุดยั้งการโจมตีชั่วคราว ระหว่างนั้นจักรพรรดิธีโอโดเซียสก็เรียกกองทัพมาจากซิซิลีและมีพระบรมราชโองการให้ตีเหรียญกษาปณ์เพิ่มขึ้นเพื่อใช้สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินสงครามกับชนฮัน เมื่อเตรียมตัวแล้วพระองค์ก็มีพระราชดำริว่าคงจะเป็นการปลอดภัยพอที่จะปฏิเสธข้อเรียกร้องของกษัตริย์ฮัน

อัตติลาโต้ตอบด้วยการรณรงค์ทางทหาร ในปี ค.ศ. 443.[12] ในการโจมตีตามริมฝั่งแม่น้ำดานูบ ชนฮันก็ทำลายศูนย์กลางทางด้านการทหารที่ราเทียราและล้อมเมืองไนส์ซัส (นิสปัจจุบัน) ได้โดยใช้ไม้กระทุ้งกำแพง (Battering ram) และหอโจมตีเมือง เคลื่อนที่ (Siege tower) —ซึ่งเป็นอาวุธทางยุทธการใหม่ของชนฮัน—จากนั้นก็ไล่โจมตีเรื่อยไปทางแม่น้ำนิซาวา ยึดเมืองแซร์ดิคา (โซเฟียปัจจุบัน), ฟิลิปโพโพลิส (พลอฟดิฟ) และ อาร์คาดิโอโพลิส กองทัพฮันปะทะและทำลายกองทัพโรมันนอกเมืองคอนสแตนติโนเปิลแต่ถูกหยุดยั้งด้วยกำแพงซ้อนของกรุงคอนสแตนติโนเปิล กองทัพกองที่สองของโรมันพ่ายแพ้ไกล้กับคาลลิสโพลิส (กาลิโปลี) จักรพรรดิธีโอโดเซียสไม่ทรงมีทางเลือกนอกจากจะทรงยอมแพ้โดยการส่งอนาโทเลียสไปเจรจาสงบศึก ซึ่งเป็นข้อตกลงที่ทารุณยิ่งขึ้นกว่าฉบับเดิม ธีโอโดเซียสทรงตกลงส่งทองจำนวนกว่า 6,000 โรมันปอนด์ (ราว 2000 กิโลกรัม) เป็นค่าเสียหายที่ทรงละเมิดข้อตกลงระหว่างการรุกราน, ส่วนบรรณาการประจำปีขึ้นเป็นสามเท่าเป็นทอง 2,100 โรมันปอนด์ (ราว 700 กิโลกรัม) และค่าไถ่ขึ้นเป็นจำนวน 12 เหรียญโซลิดุสสำหรับทหารแต่ละคนที่ถูกจับโดยชนฮัน

เมื่อได้ตามข้อเรียกร้องแล้ว กษัตริย์ฮันก็ถอยทัพกลับไปในจักรวรรดิของตนเอง จากบันทึกของนักประวัติศาสตร์จอร์ดาเนส (หลังจากพริสคัส) ในช่วงที่สงบสุขหลังจากที่ฝ่ายฮันถอยจากจักรวรรดิไบแซนไทน์ (อาจจะราว ค.ศ. 445) เบลดามาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุระหว่างการล่าสัตว์ อัตติลาจึงกลายเป็นผู้นำคนเดียวเท่านั้นของชนฮัน[13]

แหล่งที่มา

WikiPedia: อัตติลา http://www.ucalgary.ca/~vandersp/Courses/texts/jor... http://www.gnxp.com/MT2/archives/000405.html http://books.google.com/books?id=0vt_4oJLGzAC&pg=P... http://books.google.com/books?id=F-QawgVmYn8C&pg=P... http://books.google.com/books?id=hF5mpUTy1z0C&pg=P... http://www.kroraina.com/huns/mh/ http://www.kroraina.com/huns/mh/mh_4.html http://www.romansonline.com/Src_Frame.asp?DocID=Gt... http://www.sacred-texts.com/neu/poe/poe35.htm http://www.thelatinlibrary.com/marcellinus.html